หลายคนที่ยึดถือประโยคที่ว่า “การสร้างตำนานไม่สามารถทำสำเร็จได้ภายในวันเดียว” อาจจะไม่เคยได้ยินเรื่องราวของต้นกำเนิดนาฬิกาข้อมือตระกูล Royal Oak ของแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่กว่าร้อยปี Audemars Piguet ที่ฉีกกฎแห่งความสำเร็จจากการรับคำท้าของบิดาแห่งเรือนเวลาดีไซน์รูปทรงแปดเหลี่ยมนี้อย่าง Gerald Genta กับโจทย์ในการรังสรรค์นาฬิกาด้วยเหล็กกล้าในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับงาน Basel World Fair เมื่อปี 1972 และปีนี้นาฬิกาข้อมือรุ่นรอยัล โอ๊คได้เดินทางมาถึงปีที่ 50 พร้อมนำเสนอรอยัล โอ๊คเรือนพิเศษหลายรุ่น รวมถึงยังได้จิวเวลรีดีไซเนอร์หญิงชาวอิตาเลียน Carolina Bucci มาร่วมออกแบบเหล่าเรือนเวลาชิ้นพิเศษนี้อีกด้วย และหนึ่งคนที่สามารถตอบโจทย์ในการสะท้อนเรื่องราวและความหลากหลายผ่านนาฬิการุ่นนี้ได้อย่างมีเสน่ห์คือ เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร นักแสดงหญิงเจ้าบทบาทผู้โลดแล่นอยู่ในอุตสาหกรรมบันเทิงมานานกว่า 20 ปี ซึ่งกาลเวลาพิสูจน์แล้วว่าเธอคนนี้นั้นเต็มไปด้วยความสามารถหลายด้าน ทั้งการเป็นแฟชั่นนิสต้า ผู้หลงใหลในการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ รวมถึงบทบาทใหม่อย่างการเป็นคุณแม่ ดังนั้นเธอจึงต้องสลับหน้าที่ไปมาหรือต้องควบหลายหน้าที่พร้อมกันอยู่เสมอ ซึ่งเธอไม่เคยละทิ้งในการนำเทรนด์ต่างๆ มาผสมผสานให้เข้ากับตัวตนของเธอ เหมือนดั่งนาฬิการุ่นรอยัล โอ๊ค ที่นำแก่นดีไซน์หลักเป็นตัวตั้งต้น และยังสามารถเพิ่มเสน่ห์หลากหลายสไตล์ ด้วยกิมมิกที่ได้รับการสร้างสรรค์จากจินตนาการอันไม่รู้จบ

1 / 2

2 / 2

เริ่มแสงแรกของวันในบทบาทสาวรักการออกกำลังกายของเจนี่ ด้วยลุคสปอร์ตสุดชิก กับนาฬิการุ่น Royal Oak Selfwinding Chronograph Stainless Steel with a Light Blue Dial โดดเด่นด้วยหน้าปัดย่อยที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกบอกเวลาแบบชั่วโมง นาทีและวินาทีเหมาะกับการจับเวลาสำหรับกิจกรรมต่างๆ คงความชิกด้วยหน้าปัดสีฟ้าอ่อนลายกรองด์ ทาพิสเซอรีสุดประณีต พร้อมประดับเพชรทรงบริลเลียนต์ 40 เม็ดล้อมหน้าปัดแปดเหลี่ยมสุดคลาสสิก และอีกรุ่น Royal Oak Selfwinding Black Ceramic Carolina Bucci Limited Edition ที่มากับตัวเรือนเซรามิกสีดำสุดเท่ เพิ่มสีสันอย่างมีชั้นเชิงด้วยหน้าปัดทาพิสเซอรีเหลือบเอฟเฟกต์โทนสีรุ้งในขนาด 34 มิลลิเมตร เป็นผลงานการสร้างสรรค์ร่วมกับดีไซเนอร์จิวเวลรี Carolina Bucci ทำให้ลุคสบายๆ ดูมีสไตล์ได้อย่างมีพลัง

1 / 3

2 / 3

3 / 3

เรือนเวลาที่สะท้อนบทบาทของการเป็นนักแสดงและนักธุรกิจของเจนี่คือ Royal Oak “Jumbo” Extra-Thin Openworked "50th Anniversary" หน้าปัดขนาด 39 มิลลิเมตร อวดเสน่ห์ของการขับเคลื่อนกลไกอันซับซ้อนผ่านฝาแซปไฟร์ใส ตัวเรือนสเตนเลส สตีลขัดเงาซาตินเน้นแวววาวของเหลี่ยมมุม เหมาะกับการเป็นนักแสดงหญิงเจ้าบทบาทที่สามารถสื่ออารมณ์ของตัวละครอันซับซ้อนได้อย่างสง่างาม และเธอเลือกเติมสีสันให้กับลุคทำงานในบทบาทอื่นด้วยนาฬิกาข้อมือรุ่น Royal Oak Frosted Gold Selfwinding 18-Carat White Gold with a Light Blue "Grande Tapisserie" Dial ด้วยหน้าปัดขนาด 39 มิลลิเมตร ลายกรองด์ ทาพิสเซอรีสีฟ้า ไอเท็มที่สาวกนาฬิกาต้องมีไว้สะสม เพราะนอกจากจะเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ร่วมกับดีไซเนอร์จิวเวลรี Carolina Bucci แล้ว ยังเป็นนาฬิกาข้อมือที่สามารถนำมาสไตลิ่งเข้าได้กับทุกลุค ด้วยความเรียบง่ายและความคลาสสิกของดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลา

1 / 2

2 / 2

นอกจากจะทำงานและออกกำลังกายเพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เจนี่ก็ไม่เคยละทิ้งที่จะเติมเต็มสีสันความสนุกสนานในชีวิตด้วยลุคปาร์ตี้หรือลุคแฮงก์เอาต์สุดเซ็กซี่สำหรับเวลากลางคืน สะท้อนความซาบซ่านผ่านเรือนเวลารุ่น Royal Oak Selfwinding 37 mm 18-Carat Pink Gold อวดความจัดจ้านด้วยตัวเรือนพิงก์โกลด์ 18 กะรัต ประดับเพชรทรงกลมน้ำงาม ในพื้นที่ทุกส่วนของนาฬิกาตั้งแต่บนหน้าปัด ตัวเรือน และสายนาฬิกา และอีกเรือนคือ Royal Oak Selfwinding "50th Anniversary" 37 mm 18-Carat Pink Gold with a Khaki "Grande Tapisserie" Dial ที่จะพาหลงใหลไปกับเสน่ห์แห่งความลุ่มลึกของหน้าปัดกรองด์ พาทิสเซอรีสีเขียว ตัดกับสีพิงก์โกลด์ของตัวเรือนที่ขับสีผิว และยังเพิ่มความสว่างด้วยหน้าปัดล้อมเพชร พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยความระยิบระยับของวัสดุคุณภาพดี แข็งแรงและไม่ลดทอนในเรื่องของแฟชั่น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้ ‘Royal Oak’ จาก Audemars Piguet เป็นตำนานมาตลอดระยะเวลา 50 ปีไม่ต่างจากเจนี่ที่ยังเปี่ยมไปด้วยพลังในความเป็นตัวเองและความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเจอความท้าทายในบทบาทไหน และกาลเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด สไตล์อันเด่นชัดที่มีความหลากหลายและความเป็น ‘ไอคอน’ จะปรากฏให้เห็นผ่านดีไซน์แปดเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ของรอยัล โอ๊ค เช่นเดียวกับของผู้หญิงคนนี้ ‘เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร’