สำรวจ 5 นาฬิกาข้อมือคู่ใจ James Bond จากยุค Sean Connery ถึง Daniel Craig
ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่านาฬิกาที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง James Bond ในแต่ละภาคนั้นเป็นเสน่ห์ชวนติดตาม และบางเรือนก็ตราตรึงใจผู้ชมจนกลายเป็นอมตะถึงปัจจุบัน
เมื่อเอ่ยถึง James Bond สายลับเจ้าของรหัส 007 แห่งหน่วย MI6 สิ่งที่ต้องนึกถึงนอกจากอาวุธสุดไฮเทค, เสน่ห์เหลือร้ายในการพิชิตใจผู้หญิง และวอดก้ามาร์ตินี่ เขย่าแต่ไม่คน (Vodka Martini Shaken Not Stirred) ก็คือเรื่องของแฟชั่น ที่ถึงแม้ Dr.No ภาพยนตร์ลำดับแรกในเเฟรนไชส์จะเข้าฉายไปเมื่อปี ค.ศ. 1962 หรือเกือบ 60 ปีที่แล้ว เสื้อผ้าหน้าผมของยอดสายลับคนนี้ก็ยังคงถูกหยิบมาพูดถึงอยู่ตลอด เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าสไตล์ของเขาคลาสสิกเหนือกาลเวลา และอีกหนึ่งไอเท็มชิ้นสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ภาพจำที่ผู้ชมมีต่อสายลับรหัส 007 ชัดเจนในปัจจุบันคือ ‘นาฬิกาข้อมือ’
ถึงแม้จะมีเหตุผลด้านการค้าโฆษณามาเกี่ยวข้อง ทำให้นาฬิกาข้อมือที่สายลับ James Bond สวมใส่ในภาพยนตร์เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แทบไม่เว้นแต่ละภาค ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าสิ่งนี้เป็นเสน่ห์ชวนติดตาม และบางเรือนก็ตราตรึงใจผู้ชมจนกลายเป็นอมตะถึงปัจจุบัน บทความนี้จึงเป็นการรวบรวม 5 นาฬิกาข้อมือคู่ใจที่ไอคอนิกที่สุดจากภาพยนตร์ James Bond ในแต่ละสมัยของนักแสดง จากยุค Sean Connery ถึง Daniel Craig (ต้องขอโทษ George Lazenby ไว้ ณ ที่นี้เนื่องจากเขาแสดงภาพยนตร์แฟรนไชส์นี้ไปเพียงหนึ่งภาค) มาปัดฝุ่น และบอกเล่าเรื่องราวน่าสนใจที่ซ่อนอยู่ใต้หน้าปัดอีกครั้ง
ภาพ: Majesty of Time
Sean Connery - Breitling Top Time
สายลับที่ดีต้องการอุปกรณ์ครบครันรอบตัว ในขณะเดียวกันต้องไม่โดดเด่นสะดุดตาเกินไปในภารกิจปลอมตัว นี่จึงเป็นที่มาของนาฬิกาข้อมือโครโนกราฟ Breitling Top Time ใน Thunderball จากภาพยนตร์ภาค Thunderball มีฉากที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า Breitling Top Time ได้รับการดัดแปลงโดยมือของ Q ดังนั้นนี่จึงเป็นนาฬิกา James Bond รุ่นแรกที่ได้รับการดัดแปลงให้กลายเป็นอุปกรณ์ทำงาน โดยมันสามารถใช้เป็นตรวจจับคลื่นรังสีได้
นาฬิกา Breitling Top Time / ภาพ: WP
นาฬิกาข้อมือที่คอนเนอรีสวมใส่เรือนนี้มีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากนาฬิกา Breitling Top Time ดั้งเดิม เนื่องจากการดัดแปลงโดยบริษัท Valley Tool สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ มีขอบหน้าปัดกว้างขึ้นรอบหน้าปัดสีดำโดยในปี 2013 มันถูกประมูลไปในราคากว่า 160,175 เหรียญสหรัฐฯ ส่วน Breitling Top Time ดั้งเดิม เปิดตัวครั้งแรกในปี 1960 โดดเด่นด้วยตัวเรือนสเตนเลสพร้อมวงแหวนโลหะทาคีมิเตอร์และหน้าปัดย่อยโลหะสองอัน ด้วยรูปทรงเปี่ยมเสน่ห์เช่นนี้จึงได้รับความนิยมภายในเวลาอันรวดเร็ว และในปี 2020 Breitling ได้เปิดตัว Top Time รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบในปี 1960 พร้อมเสริมแต่งความทันสมัยลงไป ตัวเรือนสเตนเลส สตีลขนาด 41 มม. และตัวล็อกแบบหมุด กลไกโครโนกราฟ Breitling Caliber 23 ที่รับรองโดย COSC และการสำรองพลังงานประมาณ 48 ชั่วโมง จำนวนจำกัดเพียง 2,000 เรือนเท่านั้น
WATCH
ภาพ: James Bond Lifestyle
Roger Moore - Seiko M354 Memory Bank Calendar
ด้วยจำนวนภาพยนตร์กว่า 7 เรื่อง มากที่สุดในบรรดานักแสดงที่รับบทเป็น James Bond ทุกคน Roger Moore จึงมีนาฬิกาข้อมือคู่ใจหลายเรือน และแต่ละเรือนก็มีเรื่องราวน่าสนใจไม่น้อย การต้องเลือกเพียงหนึ่งเดียวมาบอกเล่าจึงไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่าย อย่างไรก็ตาม Seiko M354 Memory Bank Calendar ก็น่าจดจำไม่แพ้เรือนอื่นอย่างแน่นอน
นาฬิกา Seiko M354 Memory Bank Calendar / ภาพ: The 007 World
Seiko M354 Memory Bank Calendar เปิดตัวในปี 1978 ด้วยราคาประมาณ 250 เหรียญสหรัฐฯ โดยที่มาของชื่อคือมีปฏิทินที่เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 1930 และสิ้นสุดในเดือนธันวาคม ปี 2009 ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการเตือนความจำ ซึ่งทำให้ปฏิทินนั้นไม่ซ้ำกันเนื่องจากความสามารถในการเก็บข้อมูล นี่เป็นเหตุผลที่หลายคนเรียกมันว่าสมาร์ตวอตช์เครื่องแรก และเป็นเรือนเวลาที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง Moonraker โดยในภาคนี้สายลับ 007 มีภารกิจสุดยิ่งใหญ่ในการปกป้องโลกจากแผนร้ายที่ต้องการกวาดล้างประชากรมนุษย์ และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านาฬิกาข้อมือเรือนนี้มีส่วนสำคัญมากที่ทำให้ภารกิจของบอนด์สำเร็จ และใน Moonraker Bond สามารถเอาตัวรอดได้อย่างเฉียดฉิวด้วยระเบิดที่ซ่อนอยู่ในนาฬิกาเรือนนี้
ภาพ: IMDb
Timothy Dalton - TAG Heuer Professional Night-Dive reference 980.031
The Living Daylights เป็นจุดเริ่มต้นของ Timothy Dalton ในฐานะ James Bond ในขณะเดียวกันก็เป็นการบอกลาแบรนด์ Seiko ที่ออกจากแฟรนไชส์ไป และถูกแทนที่ด้วย TAG Heuer ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์ James Bond เพียงเรื่องเดียวและเป็นครั้งเดียวที่แบรนด์นี้มีส่วนร่วม โดยใช้เวลานานหลายปีกว่าจะยืนยันได้ว่าดอลตันสวมใส่ TAG Heuer Professional Night-Dive reference 980.031 ขนาด 38 มม. ใน The Living Daylights จริงๆ เนื่องจาก TAG Heuer ไม่ได้เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์อย่างเป็นทางการจึงไม่มีการระบุข้อมูลที่แน่ชัดออกมา และนาฬิกาภาพลักษณ์เรียบหรูนี้สามารถเรืองแสงได้ดั่งที่เห็นในภาพยนตร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่บอนด์สวมใส่นาฬิกาข้อมือที่มีคุณสมบัติเช่นนี้
นาฬิกา Aquaracer Professional 300 Night Diver / ภาพ: Wpengine
ในเดือนกันยายน 2021 ทีผ่านมามีรายงานว่า TAG Heuer ได้เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ของปี 1980 ก่อนการเปิดตัว No Time to Die นาฬิกาเรือนนี้คือ Aquaracer Professional 300 Night Diver มาพร้อมตัวเรือนสเตนเลสขนาด 43 มม. ที่เคลือบด้วย DLC สีดำ หน้าปัดเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova ทำให้เรืองแสงในที่มืดได้ มีหน้าปัดวันที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาใต้แว่นขยาย ขอบหน้าปัดหมุนได้ 12 ด้านและทำจากเซรามิกสีดำ สายรัดที่ทำมาจากยางถือเป็นความแตกต่างอย่างมากจากสายโลหะที่มีในรุ่นดั้งเดิม
ภาพ: Monochrome Watches
Pierce Brosnan - Omega Seamaster Professional 300M
Golden Eye ถือเป็นการเปิดตัวของทั้ง Pierce Brosnan ในฐานะ James Bond และ Omega ในฐานะพาร์ตเนอร์อย่างเป็นทางการของแฟรนไชส์ภาพยนตร์สายลับนี้ ซึ่งรุ่น Quartz ของนาฬิกาข้อมือที่บอนด์สวมในภาพยนตร์ มีหน้าปัดและกรอบสีน้ำเงินติดตั้งอยู่ในตัวเรือนและสายสเตนเลส สตีล เช่นเดียวกับนาฬิกาของบอนด์รุ่นอื่นๆ ในภาพยนตร์ที่ Omega Seamaster Professional 300M ได้รับการดัดแปลงโดย Q ให้กลายเป็นตัวจุดระเบิดระยะไกลและลำแสงเลเซอร์
ภาพ: Monochrome Watches
นาฬิกาถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1993 และนับแต่นั้นมาได้กลายเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ด้วยการออกแบบที่น่าทึ่งและการเชื่อมโยงกับบอนด์นับแต่นั้นมา Seamaster ได้กลายเป็นเหมือนนาฬิกาสามัญประจำบ้านในภาพยนตร์ 007 ทุกเรื่อง เช่น Omega Seamaster Aqua Terra และ Omega Seamaster Planet Ocean ในภาพยนตร์ภาคต่อๆ มา
ภาพ: James Bond 007
Daniel Craig - Omega Seamaster Diver 300M 007 Edition
ใน No Time to Die นักแสดงหนุ่มอย่าง Daniel Craig ปิดท้ายบทบาทสายลับ 007 ด้วยการสวม Omega Seamaster Diver 300M 007 Edition แรกเริ่มเดิมที Omega Diver ได้รับการออกแบบสำหรับการใช้งานทางทหาร หน้าปัดสีน้ำตาลและวงแหวนขอบตัวเรือนทำจากอะลูมิเนียม ทั้งสายนาฬิกาและตัวเรือนทำจากไททาเนียมเกรด 2 ทำให้นาฬิกามีทั้งความทนทานและน้ำหนักเบา
นาฬิกา Omega Seamaster Diver 300M 007 Edition / ภาพ: WP
นาฬิกาเรือนนี้สามารถสวมใส่ได้ในสภาวะที่มีแรงดันน้ำลึก เช่น ภารกิจใต้น้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้สวมใส่จะไม่ประสบปัญหากับนาฬิกาในช่วงเวลาเหล่านี้ Omega ได้ติดตั้ง Seamaster Diver 300M 007 Edition พร้อมระบบคลายการบีบอัดฮีเลียมวาล์ว นอกจากนี้ยังมีขอบหน้าปัดหมุนได้ทิศทางเดียวเพื่อให้แน่ใจว่านาฬิกามีความแม่นยำเมื่อทำการวัดเวลาที่ผ่านไป Omega กล่าวว่าสนามแม่เหล็กสูงถึง 1.5 เทสลา (15,000 เกาส์) จะไม่ส่งผลกระทบต่อนาฬิกา ซึ่งขับเคลื่อนโดย Co-Axial Master Chronometer 8806 ของ Omega
ข้อมูล : Watch Time
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim
WATCH