เปิดประวัตินาฬิกา Grand Soir กับหน้าปัดดวงดาวนำโชคบอกเวลาของ Christian Dior ตั้งแต่ยุคกำเนิดแบรนด์
Dior คว้ารางวัลอันทรงเกียรติจากเวที GPHG ประจำปี 2023 มาครองได้สำเร็จ ด้วยนาฬิกาข้อมือรุ่น Grand Soir Automate Étoile de Monsieur Dior ที่จารึกประวัติศาสตร์ของดิออร์ไว้ผ่านดีไซน์
นับเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นในอุตสาหกรรมแฟชั่น เมื่อแบรนด์แฟชั่นเก่าแก่จากประเทศฝรั่งเศส Dior สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศจากเวทีประกวดเครื่องบอกเวลาอันทรงเกียรติอย่าง Grand Prix’d Horlogerie Genève ประจำปี 2023 ในสาขาเรือนเวลาสำหรับผู้หญิงที่มีดีไซน์และกลไกอันซับซ้อน หรือ Ladies’ Complication มาครองได้สำเร็จ ด้วยผลงานนาฬิกาข้อมือรุ่น Dior Grand Soir Automate Étoile de Monsieur Dior ที่เผยโฉมเป็นครั้งแรกในช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา และในปีนี้ยังมีนาฬิกาข้อมือจากแบรนด์แฟชั่นถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในสาขาเดียวกันถึง 3 ผลงาน จากทั้งหมด 6 ผลงาน รวมถึงนาฬิกาข้อมือจาก Gucci อย่างรุ่น G-Timeless และนาฬิกาข้อมือรุ่น Tambour จาก Louis Vuitton ถือเป็นโมเมนต์สำคัญแห่งการพิสูจน์ความสำเร็จในการตีตลาดโลกเรือนเวลาหลังจากที่แบรนด์แฟชั่นหันมามุ่งมั่นในการรังสรรค์เรือนเวลาที่มีประสิทธิภาพในการบอกเวลาสูง ด้วยกลไกสุดเนี้ยบที่ล้อไปกับดีไซน์สร้างสรรค์แบบแฟชั่น ซึ่งนอกจากกลไกอันซับซ้อน นาฬิกาข้อมือตระกูล Grand Soir เรือนนี้ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่สะท้อนถึงเรื่องราวการกำเนิดแบรนด์ได้อย่างงดงาม
1 / 2
2 / 2
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 16 เมษายน ปี 1946 ดีไซเนอร์วัย 42 ปี ผู้เชื่อในเรื่องพรหมลิขิตและโชคชะตากำลังเดินเล่นเตร็ดเตร่ในยามค่ำคืนในกรุงปารีส และในขณะที่กำลังครุ่นคิดถึงอนาคตในการเปิดแบรนด์เป็นของตัวเอง เขาก็ได้สะดุดตาไปเห็นโมทีฟรูปดาวห้าแฉกโดดเด่นอยู่กลางพื้นถนน ซึ่งเขาเชื่อว่ามันคือดวงดาวที่จะคอยนำทางให้เขาในช่วงกำลังจะเริ่มต้นเส้นทางใหม่ และในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ' Christian Dior' ได้ปล่อยผลงานเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นแรกของแบรนด์และ 'The New Look' ก็ได้ถูกจารึกไว้เป็นผลงานที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์แห่งโลกแฟชั่นไปตลอดกาล ดังนั้นเรื่องราวอันน่าประทับใจและดาวในโมทีฟเดียวกันจึงได้ถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นผลงานนาฬิกาข้อมือที่มีดวงดาวทองคำประดับเพชรเป็นตัวบอกเวลาที่พร่างพราวอยู่บนท้องฟ้าเหนือตึกที่เป็นห้องเสื้อโอตกูตูร์ของดิออร์ ณ 30 Montaigne ในกรุงปารีส โดยหน้าปัดขนาด 38 มิลลิเมตร นั้นรังสรรค์จากเปลือกหอยมุกลงยาสีในโทนสีน้ำเงินและฝังเพชรอย่างประณีต ประดับอยู่ภายในตัวเรือนทองคำเหลืองและทองคำขาวประดับเพชรทั่วบริเวณ บอกเวลาด้วยกลไกออโตเมติก สามารถกันน้ำได้ในระดับความลึก 30 เมตร พร้อมเชื่อมสายหนังที่ให้เอฟเฟกต์ความระยิบระยับเหมือนดาวบนฟ้าด้วยกากเพชร ซึ่งมีให้จับจองเป็นเจ้าของเพียงแค่ 28 เรือน ทั่วโลก
WATCH
1 / 4
2 / 4
3 / 4
4 / 4
ภาพ : Courtesy of Dior
WATCH
