เผย 5 แบรนด์ ‘นาฬิกาจับเวลา’ ดูดีมีระดับ ให้ได้มากกว่าลุคสปอร์ต

     โครโนกราฟ (Chronograph) เป็นชื่อเรียกแบบเพราะๆ ของนาฬิกาจับเวลา ซึ่งภายในตัวเรือนของนาฬิกาจับเวลาจะมีฟังก์ชั่นของโครโนกราฟช่วยในเรื่องความเที่ยงตรง ส่วนมากนาฬิกาประเภทนี้นิยมใช้จับเวลาในการแข่งขันกีฬา หรือกิจกรรมที่วัดแพ้ชนะด้วยความเร็ว เช่น นักแข่งรถ ซึ่งขณะสวมใส่จะมองเห็นตัวเลขได้ง่าย และหลักการใช้งานง่ายทั้งการเริ่มจับเวลา และกดปุ่มหยุดในปุ่มเดียว จุดเด่นของโครโนกราฟในนาฬิกา นอกจากจะมีจุดเด่นในเรื่องของความเที่ยงตรงแล้ว ในด้านของดีไซน์ก็ให้ฟีลสปอร์ต หน้าปัดย่อยภายในลักษณะคล้ายฟันเฟืองหรือแดชบอร์ด ทำให้ดูแข็งแกร่ง พรีเมียม และมีความทนทานเป็นพิเศษด้วยวัสดุสเตนเลส สตีล วันนี้โว้กจะมานำเสนอไอเท็มเรือนเวลาลุคสปอร์ตของแบรนด์ต่างๆ ที่สามารถใส่ได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องไปเล่นกีฬาอย่างเดียว

 

ภาพ: Swarovski.com

1. Swarovski

     สีสันที่ส่องประกายระยิบระยับของคริสตัลเกรดพรีเมียมดีกรีระดับเวิลด์คลาสผสานกันกับดีไซน์เรือนเวลาที่งดงามอย่างลงตัว ก่อเกิดเป็นนาฬิกาโครโนกราฟที่หรูหราของ Swarovski ด้วยคริสตัลใสฝังแบบพาเว่กว่า 100 ชิ้น มาพร้อมกับตัวเรือนสเตนเลส สตีลแบบร่วมสมัยและหน้าปัดซันเรย์สีน้ำเงิน ฟีลรอยัล มีตัวจับเวลาทั้งสามจุดบนหน้าปัด และสายหนังแท้สีน้ำเงินปั๊มลายหนังจระเข้ เสริมให้ดูมีเสน่ห์ดั่งต้องมนต์ เรือนเวลาที่มาพร้อมกับความคลาสสิกที่งดงามเหนือกาลเวลา เป็นนาฬิกาโครโนกราฟที่สามารถสวมใส่ได้ทุกที่ และทุกสไตล์การแต่งกายที่เป็นลุคทางการและลุคลำลอง

 

ภาพ: MetroSociety

2. Seiko

     ชื่อแบรนด์อาจจะคิดว่าเหมาะกับบุรุษอยู่สักหน่อย แต่ปรากฏว่าพอสาวๆ ได้ลองสวมใส่แล้ว กลับลงตัวแบบโอเวอร์ไซซ์นิดๆ ดูเท่ไปอีกแบบ อีกทั้งยังมีประวัติและแรงบันดาลใจที่น่าสนใจอีกด้วย นาฬิกาจับเวลารุ่นั้นคือ Seiko Prospex SPEEDTIMER คอลเล็กชั่นที่โดดเด่นด้วยระบบจับเวลาแบบโครโนกราฟ สะท้อนแรงบันดาลใจจากนาฬิกาที่ใช้จับเวลาจริงๆ ในมหกรรมกีฬาระดับโลกในปี​1964​ จากนั้นก็ได้พัฒนาระบบกลไกโครโนกราฟจนกลายเป็นนาฬิกาข้อมือที่สามารถจับเวลาได้เรือนแรกของโลกในปี1969​ ในปี​​ 2022 นี้จึงได้ฤกษ์เปิดตัวนาฬิกาจับเวลาพลังงานแสงรุ่นใหม่ที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดการผสมผสานจิตวิญญาณของนาฬิกาจับเวลาเรือนแรกและจับคู่เข้ากับกลไกเทคโนโลยี SOLAR ของ Seiko ที่ตอบสนองได้ทั้งความเที่ยงตรงในระดับสูงสุดของการจับเวลา ให้ลุคสปอร์ตแบบเต็มลิมิต แต่สวยละมุนด้วยสีที่ไม่ขรึมมาก โดยเฉพาะรุ่นสีขาวละมุนที่มีชื่อเล่นว่าแพนด้า

 

ภาพ: Trocadero time

3. Issey Miyake

     แบรนด์ดังสัญชาติญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากดีไซน์ที่ยูนีกและสร้างสรรค์บนแนวคิด Minimal x Masculine ที่ผสานความเรียบง่ายตามแบบฉบับศิลปะดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น เข้ากับความล้ำสมัยของโลกอนาคตก่อเกิดเป็นคอลเล็กชั่น W นาฬิกาแห่งแรงบันดาลใจที่ต่อยอดมาจากการออกแบบรถยนต์ของ Satoshi Wada สู่นาฬิกาโครโนกราฟที่มีความโดดเด่น ทันสมัย พร้อมกับสไตล์และสีสันที่มีให้เลือกหลากหลายเฉดสี และขอแนะนำคอลเล็กชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ บอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จของ W ผ่านเสน่ห์แห่งสีทองของ Moonlight Gold จากภาพความทรงจำของ Satoshi Wada ที่ลอยเด่นเปล่งประกายอยู่เหนือหอไอเฟลในกรุงปารีสท่ามกลางค่ำคืนอันเงียบสงบ จนนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษนี้ ที่สื่อความหมายถึงความหรูหราและประกายแห่งความหวัง ผ่านสีทองของเข็มนาฬิกาและรายละเอียดบนหน้าปัด ตัดกับตัวเรือนและสายนาฬิกาสีดำในแบบสปอร์ตลักชัวรีและมีวางจำหน่ายทั่วเอเชียในแบบจำนวนจำกัด

 

ภาพ: Watchworldwide

4. Maurice Lacroix

     หนึ่งในนาฬิกาที่มีคาแร็กเตอร์ชัดเจน Maurice Lacroix Aikon Automatic Chronograph Sprint รุ่นนี้โดดเด่นของการใช้คู่สีที่น่าสนใจ คือสีดำจับคู่กับสีฟ้าพาสเทล ที่ให้ลุคสปอร์ตเท่แบบไม่เป็นตัวของตัวเองอย่างสุดขีด โดยตัวเรือนขนาดโอเวอร์ไซซ์ 44.0 มิลลิเมตร สร้างสรรค์ขึ้นจากสเตนเลส สตีลที่เคลือบเป็นสีดำแมตต์ด้วยเทคนิค DLC ซึ่งนอกจากช่วยเพิ่มมิติของสีให้ดูเด่นแล้ว ยังเสริมความแข็งแรงให้ทนทานในการใช้งานอีกด้วย กระจกหน้าปัดชนิดคริสตัลแซปไฟร์เคลือบสารกันการสะท้อน และสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 200 เมตร เป็นการเล่นคู่สีที่ดูน่ารัก และน่าสนใจมากๆ อีกเรือนหนึ่งก็ว่าได้

 

ภาพ: Cortinawatch

5. TAG Heuer

     TAG Heuer คอลเล็กชั่น Carrera นับว่าเป็นคอลเล็กชั่นรุ่นบุกเบิกของ TAG Heuer โดยแท้จริง เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1963 ในงานแข่งรถ Carrera Panamericana Mexico Road Race โดยนาฬิการุ่นนี้ถูกใช้เป็นนาฬิกาจับเวลาสำหรับนักแข่งมืออาชีพ ซึ่งมาถึงช่วงเวลาปัจจุบัน Carrera กลายเป็นสัญลักษณ์ของนาฬิกาสำหรับมอเตอร์สปอร์ต โดยคอลเล็กชั่นนี้ได้ครีเอตตัวเลขและเข็มนาฬิกาที่สะท้อนแสง ทำให้สามารถอ่านค่าได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด เพราะในขณะแข่งรถเราสามารถรู้เวลาได้แค่เพียงเสี้ยววินาที แต่ที่ไม่สามารถละสายตาได้คือรูปลักษณ์ที่ดูหรูหรา แต่ยังมีเสน่ห์ของมอเตอร์สปอร์ตกีฬาแห่งความเร็วเรือนนี้