WATCHES & JEWELLERY
'Audemars Piguet' พาข้ามห้วงเวลาสู่การกลับมาของเรือนเวลาสุดหรูในตระกูล Code 11.59 สะดุดตากว่าที่เคย!Audemars Piguet เผยเรือนเวลาสุดหรูจาก Code 11.59 by Audemars Piguet Selfwinding ที่แฝงด้วยดีไซน์ล้ำสมัยและปรับขนาดของหน้าปัดขึ้นใหม่ไซต์ 38 มิลลิเมตร ทว่าคงความคลาสสิกเอาไว้เช่นเคย |
ในปัจจุบัน เรือนเวลาถือเป็นแอ็กเซสเซอรี่ที่ต้องมีอีกหนึ่งชิ้น เพื่อประดับไว้บนข้อมือของผู้คนในยุคนี้ นอกจากความสวยงามทั้งศาสตร์ของการบ่งบอกเวลาและการดีไซน์แล้ว ฟังก์ชั่นก็เป็นส่วนสำคัญที่จะชี้ชัดถึงความเป็นตัวตน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังสามารถเติมความสนุกสนานไปกับการแมตช์เข้ากับลุคประจำวัน เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับวันธรรมดาที่สมบูรณ์แบบ
ซึ่งในปีนี้ โอเดอมาร์ ปิเกต์ จะพาทุกคนก้าวสู่ห้วงกาลเวลาไร้ขีดจำกัดด้วยการนำกลไกคลาสสิกกลับมาฝังในเรือนเวลายูนิเซ็กซ์ทั้ง 3 รุ่น อย่าง Selfwinding, Starwheel และ Chronograph ซึ่งคอลเล็กชั่นนี้เผยโฉมความโมเดิร์นทันสมัย รังสรรค์เรือนเวลาขึ้นจากความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและความคิดสร้างสรรค์ของช่างฝีมือชั้นเยี่ยมอย่างละเมียดละไม ทว่าสะท้อนจิตวิญญาณของแบรนด์เอาไว้ได้อย่างพอเหมาะ นอกจากนี้ยังถูกหยิบยกความหลากหลายที่แฝงด้วยรายละเอียดอันซับซ้อนในโทนสีที่มีเสน่ห์เฉพาะแห่งศิลป์ มาพร้อมดีไซน์ยอดเยี่ยมสวมใส่ได้ในรูปแบบยูนิเซ็กซ์ และสอดรับข้อมือได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่นักสะสมเรือนเวลาจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
1 / 7
เรือนเวลา Code 11.59 by Audemars Piguet Selfwinding
2 / 7
เรือนเวลา Code 11.59 by Audemars Piguet Selfwinding
3 / 7
เรือนเวลา Code 11.59 by Audemars Piguet Selfwinding
4 / 7
เรือนเวลา Code 11.59 by Audemars Piguet Selfwinding
5 / 7
เรือนเวลา Code 11.59 by Audemars Piguet Selfwinding
6 / 7
เรือนเวลา Code 11.59 by Audemars Piguet Selfwinding
7 / 7
เรือนเวลา Code 11.59 by Audemars Piguet Selfwinding
WATCH
เริ่มต้นเรือนเวลาเรือนแรกในคอลเล็กชั่นนี้อย่าง Code 11.59 by Audemars Piguet Selfwinding มาพร้อมกลไกอัตโนมัติรุ่นล่าสุดของคาลิเบอร์ 5900 ซึ่งโอเดอมาร์ ปิเกต์ ได้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 ซึ่งดีไซน์ตัวเรือนทองคำชมพู 18 กะรัต โดดเด่นด้วยลวดลายกิโยเช่อันสง่างามและสลักชื่อ Audemars Piguet ไว้บนตำแหน่ง 12 นาฬิกา ลงบนหน้าปัดสีงาช้างและหน้าปัดสีม่วง พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับคอลเลกชันนี้ด้วยการปรับขนาดของหน้าปัดขึ้นใหม่เป็น 38 มิลลิเมตร ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้สวมมั่นใจและสอดรับกับข้อมือมากยิ่งขึ้น เข็มเรือนเวลาเรียวมนและขัดเงาแบบใหม่เคลือบสารเรืองแสงเพื่อให้การอ่านเวลาที่เด่นชัดแม้อยู่ในที่มืด และเติมลูกเล่นน่าสนใจมอบความสดใสและสุขุมยิ่งขึ้นด้วยโทนสีบรรจงลงบนสายหนังจระเข้ลายสี่เหลี่ยมกว้างสีงาช้างและสีม่วงมุก ปิดท้ายตัวล็อกทองคำชมพู 18 กะรัต มอบความเรียบหรูอันเข้มข้นและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน และก่อนหน้านี้ยังมีเรือนเวลาขนาดหน้าปัด 41 และ 42 มิลลิเมตรเช่นเดียวกัน ด้วยดีไซน์ตัวเรือนสเตนเลสสตีลคริสตัลแซฟไฟร์กันแสงสะท้อนสองชั้น หน้าปัดสีเขียวและสีน้ำเงินขนาด 41 มิลลิเมตร มาพร้อมสายเคลือบยางสีเขียวและยางสีน้ำเงิน ตัวล็อกแบบหมุดสแตนเลส ตอบโจทย์สำหรับบุคคลที่ชื่นชอบความเรียบง่ายแต่ยังคงความคลาสสิกของแบรนด์เอาไว้อย่างดี
1 / 1
เรือนเวลา Code 11.59 by Audemars Piguet Starwheel
ถัดมาที่รุ่น Code 11.59 by Audemars Piguet Starwheel การกลับมาของหน้าปัดกลไก Starwheel ขนบโครงสร้างและรายละเอียดของตัวเรือนเวลาให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยรูปทรงเรขาคณิตทับซ้อน มาพร้อมหน้าปัดอเวนจูรีน (Aventurine) สีน้ำเงินเป็นฉากหลังสะท้อนแสงระยิบระยับให้กับดิสก์วงกลมสามแผ่น เสมือนล้อมรอบด้วยเหล่าดาวเคราะห์ในจักรวาลบนหน้าปัดขนาด 41 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยฝาหลังแซฟไฟร์กันแสงสะท้อน มาพร้อมเม็ดมะยมเซรามิกสีดำและสายนาฬิกาเคลือบยางสีดำ ผสานกลไกอัตโนมัติของคาลิเบอร์ 4310 ที่เข้ามามีบทบาทกับฟังก์ชั่นจับเวลาชั่วโมง นาที และวินาที พร้อมสำรองพลังงานขั้นต่ำได้ 70 ชั่วโมงและกันน้ำได้ถึง 30 เมตร ทั้งหมดทั้งมวลถูกพัฒนากลไกให้ดียิ่งขึ้น สะท้อนถึงความล้ำค่าของการเดินทางอันยาวนานของแบรนด์ที่ยังคงเอกลักษณ์ไว้คงเดิม
1 / 1
เรือนเวลาจากขวา Code 11.59 by Audemars Piguet Starwheel และ Code 11.59 by Audemars Piguet Chronograph
ปิดท้ายคอลเล็กชั่นนี้ด้วยรุ่น Code 11.59 by Audemars Piguet Chronograph เรือนเวลากลไกอัตโนมัติอย่าง คาลิเบอร์ 4401 โดดเด่นด้วยหน้าปัดย่อยที่บอกเวลาและจับเวลาได้อย่างแม่นยำ มาพร้อมความสง่าของตัวเรือนทูโทนและยังใช้โทนสีเดียวกันกับขอบตัวเรือนด้านใน ผสมผสานกันระหว่างสเตนเลสสตีลที่ถูกเลือกใช้เป็นครั้งแรกเข้ากับเซรามิกสีดำหน้าปัดสโมกเบจ ขนาด 41 มิลลิเมตร พร้อมเม็ดมะยมเซรามิกสีดำ สายนาฬิกาและยางสีเบจเชื่อมเข้ากับขาของตัวเรือน นอกจากนี้ยังมีเฉดสีของสายรัดข้อมือให้เลือกสรรถึง ถึง 2 โทน ไม่ว่าจะเป็น ตัวเรือนสตีล หน้าปัดน้ำเงิน สายน้ำเงิน และตัวเรือนสตีล หน้าปัดสีเขียว สายสีเขียว ที่จะมาช่วยเติมความสนุกสนานการแมตช์ลุคในชีวิตประจำวันให้ข้อมือดูเรียบหรูมากยิ่งขึ้น
WATCH