คอลเล็กชั่นสุดพิเศษ เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของนาฬิกา Royal Oak จาก Audemars Piguet
ครบรอบ 50 ปีของนาฬิกาข้อมือรุ่นรอยัล โอ๊ค ทาง โอเดอมาร์ ปิเกต์ จึงเผยโฉมนาฬิกาคอลเล็กชั่นพิเศษออกมาหลายโมเดลจากหลากรุ่นที่มีจำนวนลิมิเตด ณ เมืองบราซูส์
ปี 2022 ถือว่าเป็นการเดินทางมาถึงครึ่งศตวรรษของนาฬิกาข้อมือรุ่นสุดปรารถนาตลอดกาลอย่าง Royal Oak จาก Audemars Piguet ที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน Basel World Fair ปี 1972 โดยฝีมือการออกแบบของผู้สร้างเครื่องบอกเวลาในตำนานอย่าง Gerald Genta ผู้ได้รับโจทย์ให้สร้างนาฬิกาจากเหล็กกล้าที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครภายในเวลา 24 ชั่วโมงก่อนวันงานเท่านั้น เมื่อเข็มนาฬิกาบนหน้าปัดหมุนจนครบวัน เจอรัล เจนตา ได้นำเสนอนาฬิกาข้อมือรุ่นรอยัค โอ๊ค ที่เปลี่ยนโลกของงานดีไซน์ไปตลอดกาล ด้วยทรงหน้าปัดแปดเหลี่ยม ที่มีน็อตสกูรหกเหลี่ยมฝังอยู่ตามมุม โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมวกกันน็อคดำน้ำในอดีต ที่เจอรัลได้พบเห็นตอนเดินทางผ่านแม่น้ำ Geneva เขาคิดว่าถ้าน็อตแปดตัวที่ขันอยู่ตรงกระจกหน้าส่งผลให้หมวกกันน็อคกันดำได้ นาฬิกาข้อมือรุ่นนี้ก็ต้องทำได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามที่เจอรัลคาดไว้ พร้อมด้วยดีไซน์ไอคอนิกแปลกใหม่กว่านาฬิการุ่นอื่น ชื่อรอยัล โอ๊คนั้นตั้งตามชุดเรือรบน้ำดำ 8 ลำของราชวงศ์อังกฤษเมื่อปี 1651 เป็นชื่อที่เหมาะเจาะกับนาฬิกาแปดเหลี่ยมที่ใช้งานใต้น้ำได้อย่างรอยัล โอ๊ค
ตัวอย่างสเกตช์แรกของนาฬิกาข้อมือโรยัล โอ๊คในงาน Basel World Fair ปี 1972
เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของนาฬิกาข้อมือรุ่นรอยัล โอ๊ค ทาง โอเดอมาร์ ปิเกต์ จึงเผยโฉมนาฬิกาคอลเล็กชั่นพิเศษออกมาหลายโมเดลจากหลากรุ่นที่มีจำนวนลิมิเตด ทุกเรือนจากคอลเล็กชั่นนี้จะมีลัญลักษณ์ที่ผลิตจากทองคำ 22 กะรัตเขียนว่า “50 YEARS” บน Oscillating Weight ในฝาหลังที่ทำจากแซปไฟร์ เพื่อเพิ่มความพิเศษให้กับแฟนๆนักสะสม งานนี้ยังมีการเปิดตัวนาฬิกาข้อมือรุ่นใหม่อย่าง Royal Oak “Jumbo” Extra Thin ที่มีกลไกเซลฟ์ไวนด์ดิ้ง คาลิเบอร์รุ่น 7121 ซึ่งถูกพัฒนามากว่า 5 ปี ด้วยขนาดหน้าปัด 39 มิลลิเมตร มีดีไซน์ให้เลือกถึง 4 ตัวเรือน เริ่มจาก สเตนเลส สตีล ที่เด่นด้วยลาย Petite Tapisserie สุดปราณีตบนหน้าปัดสี Bleu Nuit, Nuage 50 ที่เกิดขึ้นจากการเทคนิคกัลวานิค บาธ ซึ่งเป็นกรรมวิธีให้ความละเอียดในสัดส่วนการผสมสี ในอุณหภูมิที่ถูกต้อง และเวลาที่พอเหมาะถึงจะได้สีน้ำเงินเสมือนท้องฟ้าที่มีเมฆสีดำหยดลงไป ส่วนตัวเรือนพิงก์โกลด์นั้นมาพร้อมกับหน้าปัดสีสโมคเกรย์ และหน้าปัดสีทองสโมคสำหรับที่ตัวเรือนเยลโลวโกลด์ โดดเด่นด้วยหน้าปัดลายเปอตีต์ ทาพิสเซอรี ในส่วนของตัวเรือนแพลตทินัมนั้นเพิ่มความพิเศษบนตัวหน้าปัดด้วยสีเขียวสโมคกรีนแบบไล่เฉดสีซันเบิร์สต์ เพิ่มความน่าสนใจให้กับคอลเล็กชั่นครบรอบ 50 ปีที่มีการเปิดตัว ณ เมืองเลอ บราซูส์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
WATCH
แน่นอนว่ารุ่นออริจินัลอย่างตัวรอยัล โอ๊ค เป็นอีกหนึ่งดาวเด่นในคอลเล็กชั่นนี้ และเสริมกองทัพด้วยรุ่นรอยัล โอ๊ค โครโนกราฟ ด้วยวิวัฒนาการงานดีไซน์ที่ร่วมสมัยมากขึ้นในขนาด 34 และ 41 มิลลิเมตร ตัวเรือนทั้งบนและล่างถูกเพิ่มความโค้งมนและขนาดที่ใหญ่ขึ้น การเชื่อมตัวเรือนและสายแบบกลมกลืนทำให้ดูเพรียวรับกับสรีระ มาในหลายวัสดุทั้งตัวเรือนและหน้าปัด
นาฬิกาข้อมือรอยัล โอ๊ค โครโนกราฟ และ นาฬิกาข้อมือรอยัล โอ๊ค ขนาด 38 และ 41 มิลลิเมตร เซลฟ์ไวนด์ดิ้ง มาพร้อมกับสัญลักษณ์ 50 YEARS ในฝาหลัง และถูกรังสรรค์ด้วยวัสดุและหน้าปัดที่หลากหลาย รวมถึงรุ่นแบล็กเซรามิก
เสริมความอลังการให้สมวาระ 50 ปีกับรุ่นนาฬิกาที่เป็นประวัติการณ์อย่างโรยัล โอ๊ค คอลเล็กชั่นนี้ยังมีการนำเสนอดีไซน์พิเศษอื่นเช่นนาฬิการุ่นโรยัล โอ๊ค จัมโบ้ เอ็กซ์ตร้า-ธิน แบบงานโอเพนเวิร์คมีให้เลือกทั้งพิงก์โกลด์ 18 กะรัตและสเตนเลส สตีล พร้อมกลไกคาลิเบอร์ 7142 ซึ่งเพิ่มความประณีตในการออกแบบเพื่อโชว์งานโอเพนเวิร์คแบบเด่นชัด
คอลเล็กชั่นรอยัลโอ๊ค "จัมโบ้" เอ็กซ์ตร้า-ธิน โอเพนเวิร์ค ขนาดหน้าปัด 41 มิลลิเมตร เซลฟ์ไวนด์ดิ้ง คาลิเบอร์ 7142 สเตนเลส สตีลและพิงก์โกลด์ Oscillating Weight ในฝาหลังสัญลักษณ์ 50 YEARS
นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวนาฬิกาดีไซน์ใหม่เรือนแรกของโอเดอมาร์ ปิเกต์เช่น Royal Oak Selfwinding Fly Tourbillon Openworked ที่มาในสีโมโนโครมในวัสดุสเตนเลส สตีลขนาดหน้าปัด 41 มิลลิเมตรพร้อมกับกลไกตูร์บิญองที่เพิ่มความโมเดิร์นให้กับครอบครัวตัวบอกเวลาเก่าแก่สุดคลาสสิค
นาฬิกาข้อมือรุ่นรอยัล โอ๊ค เซลฟ์ไวนด์ดิ้ง ฟลาย ตูร์บิญอง ขนาดหน้าปัด 41 มิลลิเมตร โมโนโครม สเตนเลส สตีล
งานนี้ยังมีดาวประดับฟ้าอีกดวงอย่างนาฬิกาข้อมือรุ่น Code 11.59 by Audemars Piguet Perpetual Calendar มากับตัวเรือนพิเศษอย่างไวท์โกลด์ 18 กะรัต ที่ประดับด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินประกายระยับบนแผ่นแก้วอเวนเจอรีนที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยบังเอิญ ด้วยการทำเศษทองแดงหล่นลงไปในขณะที่แก้วกำลังหลอมละลาย จึงทำให้เกิดเอฟเฟคลวดลายเสมือนดาวประกายบนหน้าปัด มาพร้อมกับตัวดวงจันทร์ในช่องบอกวันแรม และหน้าปัดย่อยอีกสองวงที่แสดงเวลาทั้งเดือนและวันที่ ที่แตกต่างไปจากรุ่นอื่นๆ สมกับวาระครบรอบเรือนเวลาที่ผ่านการพิสูจน์กาลของโอเดอมาร์ ปิเกต์มาร่วมห้าทศวรรษได้อย่างดีเยี่ยม
นาฬิกาโค้ด 11.59 บาย โอเดอมาร์ ปิเกต์ เพอเพตเชียล คาเลนดาร์ ขนาดหน้าปัด 41 มิลลิเมตร คาลิเบอร์ 4309
ข้อมูลและภาพ : Audemars Piguet
WATCH