เปิดลายแทงแผนที่ 'The Landmark' โฉมใหม่ของแฟลกชิปสโตร์ในตำนานของ Tiffany & Co. บนถนน Fifth Avenue
เจาะทุกชั้นที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของแบรนด์จิวเวลรีเก่าแก่ Tiffany & Co. อย่างละเอียด ตั้งแต่ชุดเดรสสีดำของ Audrey Hepburn ใน Breakfast At Tiffany's หรือเพชรสีเหลืองในตำนาน Tiffany Diamond ต่างก็จัดแสดงอยู่ในตึกนี้ สาวกของทิฟฟานี่ แอนด์ โคห้ามพลาดที่จะไปเยืือนสักครั้งในชีวิต
หลังจากทำการปิดแฟล็กชิปสโตร์ที่โด่งดังที่สุดของแบรนด์บนย่านถนน Fifth Avenue เพื่อบูรณะและก่อสร้างเพิ่มเติมมานานกว่า 3 ปี ในที่สุด Tiffany & Co. ได้เปิดตัวโฉมใหม่ของตึกอายุ 186 ปีอย่างเป็นทางการและอลังการที่สุดในประวัติการณ์ โดยมีเหล่าเซเลบริตี้จากทั่วโลกกว่าร้อยชีวิตมาร่วมเฉลิมฉลอง พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น The Landmark ด้วยเป้าหมายในการเป็นตึก 10 ชั้นที่เป็นมากกว่าแค่ร้านจิวเวลรี ทว่าเสมือนพิพิธภัณฑ์รวบรวมผลงานดีไซน์ระดับไอคอนของประวัติศาสตร์ในรูปแบบงานศิลปะหลายแขนง รวมถึงยังมีคาเฟ่ฝีมือเชฟระดับมิชลินรองรับ ถือเป็นสถานที่ที่ต้องมาเยือนเมื่อเดินทางมานิวยอร์ก
1st Floor: Lost in Tiffany’s Facets
เมื่อก้าวแรกก็สามารถสัมผัสบรรยากาศและกลิ่นอายความเป็นทิฟฟานี่ แอนด์ โคได้อย่างอิ่มเอม ด้วยภาพวิวสวนเซ็นปาร์กสลับกับน่านฟ้ามหานครนิวยอร์กในรูปแบบงานศิลปะติดตั้ง Diamond Skyline ฝีมือการสร้างสรรค์ของสถาปนิก Hugh Dutton รวมถึงยังมีช่องจัดแสดงผลงานจิวเวลรีระดับตำนานถึง 2 ช่องให้ได้ชม นั่นคือสร้อยคออายุกว่า 100 ปีอย่าง Medusa Pendent และเพชรสีเหลือง Tiffany Diamond ที่มาพร้อมกับตัวเรือนใหม่อย่างนกกระตั้วจากผลงาน Bird On A Rock ล้อมรอบเพชรสีเหลืองขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
Tiffany Diamond หนึ่งในเพชรสีเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกของ Tiffany & Co.
WATCH
3rd Floor: Will you Tiffany me?
สาวกจิวเวลรีหลายคนต่างใฝ่ฝันว่าอยากจะถูกขอหมั้นด้วยแหวนเพชรน้ำงามที่อยู่ในกล่องสีฟ้าอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งชั้นนี้มีตัวเลือกแหวนหมั้นหลายขนาดหลากดีไซน์ให้เลือก และผนังทุกส่วนในบริเวณนี้จะถูกปกคลุมด้วยผ้าซาตินและผ้าไหมสีขาว ทำให้นึกถึงชุดแต่งงานสีขาว เพื่อต่อเติมจินตนาการในการเดินเข้าประตูวิวาห์ด้วยแหวนแต่งงานในฝันจากคนรัก
4th Floor: The House of Golden Icons
ส่วนนี้เปรียบเสมือน Wall of Fame ที่รวบรวมผลงานจิวเวลรีระดับไอคอนที่รังสรรค์ด้วยทองคำของทิฟฟานี่ แอนด์ โคจากทุกคอลเล็กชั่น อาทิเช่น Tiffany T, Tiffany Knot, Tiffany Hardware และ Tiffany Lock นอกจากนี้ยังมีแกลเลอรี 2 ห้อง 2 อัตลักษณ์ที่นำเสนอจิวเวลรีที่เป็นฝีมือการออกแบบของดีไซเนอร์ประจำบ้านอย่าง Elsa Paretti และ Paloma Picasso โดยห้องของเอลซ่าเป็นโทนสีฟ้าอความารีนแบบเรียบโก้มีสไตล์ออแกนิก ขณะที่ห้องของพาโลมาเป็นโทนสีแดงสไตล์จัดจ้านและลุ่มลึก
5th Floor: Miss Golightly’s Story
แน่นอนว่าทิฟฟานี่ แอนด์ โคต้องนำชุดเดรสสีดำที่นักแสดงหญิงระดับตำนาน Audrey Hepburn เคยสวมในภาพยนตร์เรื่อง Breakfast at Tiffany’s มาจัดแสดง ณ เดอะ แลนด์มาร์ก อันเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของป๊อปคัลเจอร์มายาวนานกว่า 8 ทศวรรษ พร้อมกับตัวเรือนของสร้อยคอที่ออเดรย์สวมในงานฉายรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ดังกล่าวในปี 1961 ซึ่งเป็นโมเมนต์ที่จารึกให้เธอเป็นผู้หญิงคนที่ 2 ในประวัติการณ์ที่ได้สวมเพชรสีเหลืองขนาด 128.54 อันโด่งดังอย่าง Tiffany Diamond ที่จัดแสดงอยู่ชั้นแรก
นักแสดงหญิง Audrey Hepburn สวมชุดเดรสสีดำของ Givenchy ในภาพยนตร์เรื่อง Breakfast At Tiffany's
6th Floor: Best Food at Tiffany’s
นอกจากจะเป็นส่วนของไอเท็มตกแต่งบ้านและไลฟ์สไตล์ทุกแขนงแล้ว ชั้นนี้ยังมีคาเฟ่ Blue Box Café ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากฉากแรกและชื่อของภาพยนตร์เรื่อง Breafast at Tiffany’s พร้อมเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มในทุกช่วงของวัน ทุกเมนูเป็นฝีมือการสร้างสรรค์ของเชฟระดับมิชลินชาวอเมริกัน-ฝรั่งเศส Daniel Boulud ทำให้สาวกทิฟฟานี่ แอนด์ โคสามารถเติมเต็มความฝันโดยการรับประทานอาหารเช้าที่เดอะ แลนด์มาร์กได้อย่างสนุกสนาน
7th Floor: Precious and Precision
คำว่าสวรรค์ชั้นเจ็ดนั้นไม่ได้เป็นแค่เพียงคำพูดติดปาก เพราะชั้นเจ็ดของเดอะ แลนด์มาร์กคือที่อยู่ของเหล่าผลงานจิวเวลรีชั้นสูงของทิฟฟานี่ แอนด์ โค ที่โดดเด่นด้วยการนำอัญมณีเม็ดโตหายากหลายชนิดมาเจียระไนและประดับบนตัวเรือนสุดซับซ้อนที่ต้องอาศัยความชำนาญและความประณีตของช่างรังสรรค์จิวเวลรีประจำบ้าน รวมถึงส่วนของนาฬิกาเรือนพิเศษที่เป็นการร่วมมือสร้างสรรค์กับแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่สัญชาติฝรั่งเศส Patek Philippe เพื่อเป็นการอวดความสามารถในการรังสรรค์ผลงานอันล้ำเลิศของแบรนด์
8th-9th Floor: I (He)art New York
มหานครนิวยอร์กคือแหล่งรวบรวมและสถานที่แจ้งเกิดของเหล่าผลงานศิลปะระดับตำนานจำนวนนับไม่ถ้วน ดังนั้นทิฟฟานี่ แอนด์ โคจึงสร้างบริเวณเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมเพื่อจัดแสดงผลงานศิลปะหลายแขนงไม่ใช่แค่เพียงจิวเวลรีชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นงานหัตถกรรม ภาพจิตรกรรม ศิลปะติดตั้ง หรือแม้แต่กระจกที่เห็นวิวของสวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์กก็ถูกนำมาแบ่งปันให้ผู้เยือนเดอะ แลนด์มาร์กได้สัมผัสประสบการณ์อันดื่มด่ำขณะมาเยือนมหานครที่ไม่เคยหลับใหล
10th Floor: Diamonds on the Roof
ส่วนสุดท้ายเป็นห้องที่จัดไว้เพื่อรับรองเหล่าแขกคนสำคัญระดับวีไอพีของทิฟฟานี่ แอนด์ โคเท่านั้น ทั้งปาร์ตี้น้ำชาหรืออาหารค่ำสุดอลังการก็สามารถถูกเนรมิตขึ้นมาภายในห้องชั้นบนที่สูงที่สุดของตึก กับดีไซน์เสมือนมีเพชรขนาดมหึมาหลายเม็ดล้อมรอบบริเวณภายนอกดาดฟ้าของเดอะ แลนด์มาร์ก พร้อมขึ้นแท่นเป็นงานสถาปัตยกรรมแปลกตาที่ผู้มาเยือนมหานครนิวยอร์กต้องชมและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำ
ภาพ : Courtesy of Tiffany & Co.
WATCH