สัมผัสความหมายอันลึกซึ้งของ 'Spirit II' คอลเล็กชั่นจิวเวลรีชั้นสูงจาก Louis Vuitton
บทส่งท้ายของคอลเล็กชั่นจิวเวลรีชั้นสูงจาก Louis Vuitton ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณอันแกร่งกล้าของวีรสตรียุคใหม่
เดินทางมาถึงบทสุดท้ายของ SPIRIT II คอลเล็กชั่นจิวเวลรีชั้นสูงใหม่ล่าสุดจาก Louis Vuitton กับฝีมือการสร้างสรรค์ของ Francesca Amfitheatrof ไดเร็กเตอร์ฝ่ายสร้างสรรค์จิวเวลรีและนาฬิกาที่ครองตำแหน่งมาเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งเธอได้เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์จิวเวลรีของหลุยส์ วิตตองให้สามารถนำมาสวมในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น ด้วยการนำลวดลายโมโนแกรมอย่าง ตัวอักษรย่อ LV โมทีฟดอกไม้ และดาวที่เป็นมรดกงานดีไซน์ของแบรนด์มาตั้งแต่ก้าวแรกมาออกแบบเป็นรูปทรงเรขาคณิต และยึดเป็นแกนหลักในการสร้างสรรค์จิวเวลรีได้อย่างเฉลียวฉลาด รวมถึงผลงานจิวเวลรีชั้นสูงคอลเล็กชั่นนี้ กับการหยิบหนึ่งแกนดีไซน์นี้มาสร้างสรรค์เป็นผลงานจิวเวลรีชั้นสูงได้ถึง 30 ผลงาน แบ่งออกเป็นผลงาน 4 คอลเล็กชั่นย่อยดังนี้
Destiny
ทับทิมสีเลือดนกพิราบถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นผลงานจิวเวลรีชั้นสูง 10 ผลงาน เพื่อสื่อถึงพลังของความอ่อนโยนของผู้หญิง มีไฮไลต์เป็นสร้อยคอทองคำและแพลทินัม ประดับเพชรรูปทรงสามเหลี่ยมตัววีชิ้นเล็กๆ มาวางต่อกัน สร้างเป็นตัวเรือนที่มีความโค้งมนเข้ากับสรีระของผู้หญิง ประดับปลายสร้อยคอด้วยทับทิมรูปทรงแพร์ 34 เม็ด น้ำหนัก 3.13 กะรัตที่มีคุณลักษณะเหมือนกันทั้งระดับความใส โทนสี และความเข้มข้นของสี ซึ่งใช้เวลานานกว่า 3 ปีในการเฟ้นหาจากทั่วโลก
Liberty
อิสระในการได้ออกเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์หลากหลายเพื่อนำมาประยุกต์ใช้เป็นบทเรียนแห่งชีวิตคือชัยชนะแห่งเสรีภาพอย่างแท้จริง หีบทรังก์สุดไอคอนิกของแบรนด์จึงถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นจี้ทองคำขาวที่สามารถกดปุ่มเพื่อเปิดกล่องไปเจอแซปไฟร์สีน้ำเงินน้ำงามขนาด 1.99 กะรัตที่แอบซ่อนไว้อยู่ข้างใน และยังมีสร้อยคอประดับด้วยจี้ทองคำขาวรูปทรงโล่เหรียญรางวัล ตระการตาด้วยมรกต 5.14 กะรัต เพื่อเป็นรางวัลชัยชนะให้กับผู้หญิงนักผจญภัยที่เดินทางไปสู่จุดมุ่งหมายอันแน่วแน่
WATCH
Fantasy
จินตนาการที่ผู้บุกเบิกอย่าง Louis Vuitton วาดไว้ตั้งแต่เมื่อ 169 ปีก่อนยังคงถูกนำมาใช้สร้างสรรค์เป็นผลงานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เช่นเดียวกันกับผลงานจิวเวลรีชั้นสูงชิ้นนี้ เป็นการนำทองคำเหลืองรูปทรงตัววีและทองคำขาวประดับเพชรในรูปทรงเดียวกันมาเชื่อมต่อกันเป็นสร้อยคอสไตล์โซ่ ประดับเพชรชั้นยอดที่ถูกเจียระไนเป็นรูปทรงดาวโมโนแกรมสัญลักษณ์ของแบรนด์ น้ำหนักกว่า 2 กะรัต เพื่อสดุดีให้กับดีไซน์อันล้ำเลิศจากอดีตที่จะเป็นดาวค้างฟ้าไปถึงในอนาคต
Radiance
จิวเวลรีคือชุดเกราะที่ช่วยเสริมความเป็นตัวตน อัญมณีคือตัวสะท้อนจิตวิญญาณของผู้ครอบครองที่ไม่สามารถบรรยายได้ ฟราสเชสกาจึงนำสเปสซาร์ทีนสีส้มหายากมาประดับไว้ตรงใจกลางตัวเรือนที่เป็นดั่งเกราะทองคำรูปสามเหลี่ยมและทองคำรูปตัววีประดับเพชรต่อกันเป็นรูปทรงพีระมิด ซึ่งถูกนำมาดีไซน์หลักของเป็นผลงานคอลเล็กชั่นย่อยนี้เช่นสร้อยคอรูปทรงพีระมิดขนาดใหญ่ กำไลข้อมือสไตล์คัฟฟ์ที่วีรสตรีนิยมสวมบนข้อมือสองข้าง และต่างหูคัฟที่เพิ่มความเจิดจรัสให้กับวีรสตรีหญิงในยุคปัจจุบัน
WATCH
