เจาะประวัติจิวเวลรีชั้นสูงที่ 'ใหม่-ดาวิกา' และ 'มาร์ค ต้วน' สวมเข้าร่วมงานกาล่าดินเนอร์ของ Bulgari

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา แบรนด์จิวเวลรีเก่าแก่จากประเทศอิตาลี Bulgari ได้ยกเหล่าผลงานจิวเวลรีชั้นสูงมากกว่า 140 ชิ้น จากคลังในกรุงโรมมาจัดแสดงภายในงาน 'Bulgari High Jewelry Trunk Show' ณ บ้านปาร์คนายเลิศ ในกรุงเทพมหานคร โดยมีเหล่า Friend of the House of Bulgari อย่างนักแสดงหญิง 'ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่' และศิลปินจากประเทศเวียดนาม 'Ho Ngoc Ha' ไปจนถึงเหล่าเซเลบริตี้จากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาร่วมงาน และนอกจากนี้ในค่ำคืนเดียวกัน เคป๊อปซูเปอร์สตาร์สุดฮอต 'มาร์ค ต้วน' แห่งวง GOT7 ก็ได้เซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการปรากฏตัวในงานกาล่าดินเนอร์เพื่อฉลองความสำเร็จของงานจัดแสดงจิวเวลรี พร้อมสวมจิวเวลรีดีไซน์แปลกตาคล้ายกับเหรียญที่หลายคนอาจจะไม่เห็นกันบ่อยบนพรมแดงมาประกบคู่ถ่ายภาพกับใหม่ที่สวมจิวเวลรีประดับอัญมณีสีชมพูเข้มชิ้นอลังการไม่แพ้กัน โดยสร้อยคอของทั้งคู่เป็นผลงานระดับตำนานที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก โว้กประเทศไทยจึงขอพาเจาะลึกประวัติน่าสนใจเกี่ยวกับความพิเศษของจิวเวลรีชั้นสูงเหล่านี้

 

 

1 / 3

2 / 3

3 / 3

สร้อยคอจิวเวลรีชั้นสูงที่ใหม่สวมมีชื่อว่า Imperial Spinel Necklace เป็นผลงานจากคอลเล็กชั่นจิวเวลรีชั้นสูงเมื่อปี 2021 อย่าง 'BULGARI Magnifica' ที่ประดับด้วยสปิเนลสีชมพูเข้มที่มีน้ำหนัก 131.21 กะรัต นับเป็นสปิเนลที่ขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งถูกขุดพบในประเทศทาจิกิสถาน ก่อนจะนำมาเจียระไนเป็นรูปทรงหมอนและประดับอยู่ตรงกลางตัวเรือนไทเทเนียมประดับเพชรที่ขึ้นเรือนยากและมีน้ำหนักเบากว่าทองคำขาวหลายเท่า ล้อมรอบด้วยมรกตจากประเทศโคลอมเบียรูปทรงคาโบชงรวม 93 กะรัต โดยบุลการีมักจะคัดสรรอัญมณีสีสดจากทั่วโลกเพื่อมาสร้างสรรค์เป็นผลงานจิวเวลรีชั้นสูงภายใต้คอนเซปต์ Master of Colors ทำให้จิวเวลรีสุดตระการตาชิ้นนี้มีราคาสูงกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งใหม่ได้สไตลิ่งเข้ากับตุ้มหูสปิเนลและแหวนมรกตได้อย่างมีชั้นเชิง ถือเป็นลุคสง่างามสมกับตำแหน่ง Friend of the House of Bulgari คนแรกของประเทศไทย

Imperial Spinel Necklace สร้อยคอจิวเวลรีชั้นสูง ตัวเรือนไทเทเนียมประดับสปิเนล มรกต และเพชรจาก Bulgari

ส่วนสร้อยคอจิวเวลรีชั้นสูงและแหวนที่มาร์คสวมนั้นเป็นผลงานจากคอลเล็กชั่น Monete เป็นการนำเหรียญโบราณจากคลังสะสมของบุลการีที่มีอายุมากกว่าหลายพันปีที่ถูกขุดพบในสถานโบราณในประเทศกรีกและประเทศอิตาลี มาประดับบนตัวเรือนทองคำเหลืองและทองคำกุหลาบเพื่อแมตช์เข้ากับสีของเหรียญที่มักทำมาจากทองสัมฤทธิ์  และด้วยลวดลายที่แตกต่างกันและมีเรื่องราวน่าค้นหา จึงทำให้ผลงานแต่ละชิ้นจากคอลเล็กชั่นนี้กลายเป็นผลงานที่มีชิ้นเดียวในโลก ซึ่งจิวเวลรีสไตล์นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงปี 1950s ทั้งในทวีปยุโรปและประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะในหมู่ดาราฮอลลีวู้ดที่เป็นนักสะสมจิวเวลรีตัวยงเช่น Elizabeth Taylor และนอกจากมาร์คยังสไตลิ่งลุคนี้ด้วยนาฬิกาข้อมือรุ่น Octo Roma ที่โดดเด่นด้วยกลไกชั้นสูงอย่างตูร์บิยงที่ประดับอยู่ตรงกลางหน้าปัดสีดำแมตช์เข้ากับสายหนังจระเข้สีดำที่เชื่อมกับตัวเรือนทองคำ ซึ่งเข้ากับโทนสีของจิวเวลรีจากคอลเล็กชั่น Monete อย่างสมบูรณ์แบบ

 

จิวเวลรีคอลเล็กชั่น Monete และนาฬิกาข้อมือรุ่น Octo Roma จาก Bulgari