เปิดเส้นทางจุดเริ่มต้นกว่าจะมาเป็นแบรนด์จิวเวลรีหรูระดับท็อปเทียร์อย่าง Graff ต้นกำเนิดจากแดนผู้ดี โดย ลอเรนซ์ กราฟฟ์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่มีความหลงใหลในอัญมณีน้ำงามอันล้ำค่า ย้อนกลับไปในปี 1960 จุดเริ่มต้นจากบริษัทจัดจำหน่ายเพชรและอัญมณีที่ได้ชื่อว่าเป็นร้านขายเพชรโด่งดังที่สุดในลอนดอน ภายหลังหันมาจับธุรกิจจิวเวลรีภายใต้ความร่วมมือของนักออกแบบและช่างฝีมือ สร้างสรรค์ออกมาเป็นจิวเวลรีชั้นสูงที่มอบความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติที่งดงามไม่เหมือนใคร และในปี 2013 นับว่าเป็นเกียรติยศอันสูงส่งในฐานะแบรนด์จิวเวลรี ที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิอังกฤษ และก้าวเข้าสู่วงการจิวเวลรีชั้นสูงหรือไฮจิวเวลรี

สองอัญมณีเลื่องชื่อที่กราฟฟ์ได้ครอบครอง คือ The Graff Lesedi La Rona เพชรเจียระไนทรงสี่เหลี่ยม (Emerald Cut) เป็นเพชรที่มีความใสของเนื้อเพชรระดับสูงสุดเท่าที่เคยมีมา โดยมีน้ำหนักถึง 302.37 กะรัต และเพชรสีชมพูที่มีน้ำหนัก 13.33 กะรัต เป็นสมบัติชิ้นที่หาได้ยาก เพื่อเป็นการเชิดชูความงามอันเป็นตัวแทนของความเป็นผู้หญิงและความโรแมนติกผสานความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติของอัญมณีชิ้นนี้ได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้จิวเวลรีชั้นสูงไม่ใช่ศาสตร์แขนงเดียวที่กราฟฟ์เชี่ยวชาญ จากชื่อเสียงเรื่องการคัดสรรแต่เพชรน้ำงามและงานดีไซน์เหนือกาลเวลาที่ไม่เหมือนใครทั้ง 7 ดีไซน์ได้แก่ Promise, Icon, Flame, Constellation, Paragon, Legacy และ Laurence Graff Signature นำเสนอความงดงามของเพชรควบคู่ไปกับมรดกด้านการเจียระไน ทำให้แหวนหมั้นและแหวนแต่งงานของกราฟฟ์ขึ้นมาอยู่ชั้นแนวหน้าของวงการเวดดิ้ง และกลายเป็น “แหวนในฝัน” ของว่าที่เจ้าสาวมากมายทั่วโลก

 

ผลงานชิ้นไฮไลต์จาก 3 คอลเล็กชั่น

ที่กราฟฟ์รังสรรค์จิวเวลรีเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันที่สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน

 

 

The Graff Butterfly Collection

คอลเล็กชั่นที่สื่อถึงความสวยงามของจิตวิญญาณอันเป็นอิสระ ถ่ายทอดผ่านรูปลักษณ์ของผีเสื้อที่โบยบินในฤดูร้อนอันสดใสทำให้เพชรและอัญมณีทุกชิ้นดูมีชีวิตชีวาไปด้วยกันกับรูปลักษณ์ผีเสื้อสะท้อนอุปนิสัยรักสนุกและมีความเฟมินีนแบบไร้ขีดจำกัด นอกจากจิวเวลรีทั่วไปอย่างแหวน ตุ้มหู หรือสร้อยคอแล้ว ในคอลเล็กชั่นนี้ยังมีนาฬิกาประดับเพชรที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้คอนเซปต์เดียวกันด้วย

The Tilda’s Bow Collection

คอลเล็กชั่นที่มาในดีไซน์ของโบว์ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งมีความละเอียดประณีตในเส้นสายตัวเรือนที่โค้งมน การพับ และการผูกปมราวกับเป็นโบว์ที่ผูกขึ้นมาจริงๆ โดย Anne-Eva Geffroy ผู้อำนวยการด้านการออกแบบของกราฟฟ์เผยว่าแรงบันดาลใจของคอลเล็กชั่นนี้มาจากโมเมนต์ที่หญิงสาวเพิ่งผูกโบว์บนชุดเดรสเสร็จ ซึ่งเป็นโมเมนต์ที่เธอรู้สึกว่าน่าประทับใจ ทั้งนี้ภายใต้รูปลักษณ์ที่กราฟฟ์ตั้งใจออกแบบมาให้เฟมินีน ละเอียดอ่อน และชวนลุ่มหลงนี้ คือการสื่อถึงสาวผู้กล้าฝันและกล้าไล่ตามความฝันของตัวเอง

The Graff Wild Flower Collection

คำสรรเสริญแด่สวนดอกไม้สไตล์อังกฤษอันสดใสที่เบ่งบานอย่างเต็มที่ ผ่านดีไซน์รูปดอกไม้ที่มาทั้งแบบดอกเดียวและแบบช่อ เผยให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ทันสมัยและกล้าหาญ โดยได้แรงบันดาลใจจากการค้นหาตัวตนและกล้าที่จะแสดงความเป็นตัวเองออกมา พร้อมสนับสนุนให้ผู้หญิงทุกคนโอบรับความงามตามธรรมชาติของตัวเองอย่างมั่นใจ