WATCHES & JEWELLERY

VOGUE SCOOP | รวมโมเมนต์สร้างนิยามใหม่ของอุตสาหกรรม JEWELRY ประจำปี 2024

ในปี 2024 อุตสาหกรรมจิวเวลรีและแฟชั่นระดับโลกเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตื่นเต้น ด้วยการผสานนวัตกรรมและดีไซน์คลาสสิกพร้อมบทบาทที่โดดเด่นของคนไทยในฐานะผู้ขับเคลื่อนสำคัญในวงการเครื่องประดับระดับโลกอย่างแท้จริง

     ในปี 2024 อุตสาหกรรมจิวเวลรีและแฟชั่นระดับโลกได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและความน่าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ปีนี้ไม่ได้เป็นเพียงปีแห่งการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ที่สะท้อนความสร้างสรรค์อันไร้ขอบเขต หรือการแต่งตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่ยังเป็นปีที่โลกได้เห็นถึงบทบาทสำคัญของประเทศไทยในฐานะหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมลักชัวรีระดับโลก ความก้าวหน้าทางนวัตกรรมที่นำมาใช้ในงานออกแบบจิวเวลรี ผสานกับมรดกวัฒนธรรม งานฝีมืออันทรงคุณค่าที่ยังคงรักษาไว้ กลายเป็นกระแสที่ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ความสำเร็จของศิลปินและบุคคลที่มีชื่อเสียงชาวไทยที่ได้รับการยอมรับจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ และสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์และความหรูหรา ปัจจุบันศิลปินไทยและแบรนด์ไทยต่างมีบทบาทสำคัญในงานอีเวนต์ระดับโลก เป็นตัวแทนที่สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับวงการแฟชั่นและจิวเวลรี และเป็นอีกหนึ่งพลังที่ผลักดันอุตสาหกรรมนี้ให้เติบโตไปอย่างไม่หยุดยั้งในปี 2024

 

 

'วิน-เมธวิน' และ 'ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก' สองตัวแทนของไทยรับตำแหน่งเฮาส์แอมบาสเดอร์ Tiffany & Co.

ในปีนี้ นอกจากเราจะได้เห็นศิลปินหนุ่ม วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร สร้างชื่อเสียงในฐานะนักแสดงและผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ เขายังได้รับการจับตามองในฐานะเฮาส์แอมบาสเดอร์คนแรกของ Tiffany & Co. ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยบทบาทสำคัญนี้เกิดขึ้นหลังจากที่วินร่วมงานกับแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี 2023 ไม่ว่าจะเป็นงานเปิดตัวคอลเล็กชั่น Tiffany Lock ร้านป๊อปอัพที่สิงคโปร์ และงานเครื่องประดับชั้นสูง Diamonds & Wonder ในกรุงเทพฯ วินยังได้ร่วมงานสำคัญอย่างการเปิดตัวแฟล็กชิปสโตร์ The Landmark บนถนน Fifth Avenue ในนิวยอร์ก ร่วมกับแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก เช่น Jimin วง BTS และ Gal Gadot อีกทั้งยังเปิดตัวแฟชั่นเซ็ตในฐานะแอมบาสเดอร์ที่แสดงถึงความเรียบหรูและเสน่ห์อันโดดเด่นของเขา

ในขณะเดียวกัน ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ ก็ได้สร้างความภาคภูมิใจในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์หญิงคนแรกของ Tiffany & Co. จากประเทศไทย ใบเฟิร์นได้แสดงถึงความงดงามอันไร้กาลเวลาและบุคลิกอันเปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่เข้ากับภาพลักษณ์ของแบรนด์อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการร่วมงานเปิดตัวคอลเล็กชั่นหรือการปรากฏตัวในอีเวนต์ระดับโลก ใบเฟิร์นสามารถสะท้อนความหรูหราและร่วมสมัยของทิฟฟานี่แอนด์โคได้อย่างงดงาม

การได้ทั้งวินและใบเฟิร์นมาเป็นตัวแทนของแบรนด์ในปีเดียวกัน ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงบทบาทของศิลปินไทยในเวทีโลก ทั้งสองได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในวงการบันเทิง แต่ยังสร้างแรงกระเพื่อมในวงการจิวเวลรีและแฟชั่นระดับโลกอีกด้วย

 

 

การกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของลิซ่า ในมิวสิกวิดีโอผลงานเดี่ยว "Rockstar" พร้อมสไตลิ่งจิวเวลรีชิ้นสะดุดตา ให้ทุกคนอยากแต่งตามอย่าง 'Grillz' จิวเวลรีประดับเขี้ยว

ใครที่ชื่นชอบในแฟชั่นจิวเวลรีต้องสะดุดตากับ Grillz เมื่อลิซ่าสวมใส่ในมิวสิกวิดีโอคัมแบ็กที่เป็นเพลงแรกของเธอในค่าย LLOUD แฟนๆ ทั่วโลกจึงรออย่างใจจดใจจ่อ และเมื่อเพลงปล่อยก็กลายเป็นไวรัลทั่วทั้งโซเชียลรวดเร็ว ที่ถือว่าเป็นการเปิดตัวครั้งยิ่งใหญ่ของลิซ่าในนามของศิลปินเดี่ยว หลังจากสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอย่าง BLACKPINK ได้แยกย้ายกันไป ซึ่งมิวสิกวิดีโอนี้นับว่าเป็นเพลงแรกหลังจากลิซ่าก่อตั้งค่าย LLOUD ในทีเซอร์ของมิวสิกวิดีโอเพลง “Rockstar” เราได้เห็นลิซ่าในลุคที่ฉีกกฎและแหวกแนว การแต่งกายตรงตามคอนเซปต์เช่นเดียวกับชื่อเพลง สิ่งที่เป็นที่พูดถึงกันอย่างล้นหลามคือจิวเวลรีที่ดูเป็นร็อกสตาร์แบบฟิวเจอร์ริสติก โดยเฉพาะจิวเวลรีเงินสุดเท่ที่สะดุดตาผู้คนชิ้นหนึ่งที่ลิซ่าสวมใส่บนฟันของเธอ ถือเป็นจิวเวลรีชิ้นที่นับว่าไม่ได้เป็นจิวเวลรีที่นิยมสวมใส่กันนักในเอเชีย แต่หลายๆ ท่านอาจเคยเห็นผ่านตากันมาแล้วบ้างกับจิวเวลรีประเภทนี้ในป๊อปคัลเจอร์ โว้กจึงจะมาเปิดประวัติโดยย่อเกี่ยวกับจิวเวลรีประเภทนี้ที่เรียกว่า “กริสซ์” (Tooth Grillz) แท้จริงแล้วกริสซ์ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ตามประวัติศาสตร์มีการเผยให้เห็นว่าราชวงศ์และขุนนางใช้กริสซ์ครอบฟันเป็นเครื่องประดับเพื่อแสดงสถานะทางสังคมอันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึง ความมั่งคั่ง เงินทอง และอำนาจ กริสซ์ได้รับความนิยมอย่างมากในวัฒนธรรมฮิปฮอปและป๊อปในยุค 80s จนกระทั่งกลายเป็นกระแสหลักเมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว ปัจจุบันนี้ ผู้มีชื่อเสียงหลายคน ดาราฮอลลีวู้ด ศิลปินชื่อดัง และล่าสุดลิซ่านำเครื่องประดับชิ้นนี้มาใช้ในงานทันตกรรมเพื่อความสวยงาม สร้างภาพลักษณ์และมิติให้กับแฟชั่น กริสซ์กลายเป็นเทรนด์เครื่องประดับที่น่าจับตามอง โดยเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนที่หลงใหลในจิวเวลรีทั่วโลกสวมใส่

นอกจากนี้ในทีเซอร์มิวสิกวิดีโอ “Rockstar” ลิซ่าสวมแอ็กเซสเซอรี่แบบจัดเต็มทั้งตัว จากวัสดุเครื่องเงินและอะคริลิก และจะขาดไปไม่ได้กับเครื่องประดับชิ้นที่สะดุดตาอย่างเครื่องประดับฟันสีเงินรูปดาวห้าแฉกที่คัสตอมจากแบรนด์เครื่องประดับของเกาหลีใต้ Saeminium ครั้งนี้ถือว่าลิซ่าฉีกกฎแห่งวงการ K-POP อย่างแท้จริง ทั้งเครื่องประดับการแต่งกายที่แตกต่างจากลิซ่าเมื่ออยู่ในวงเกิร์ลกรุ๊ป BLACKPINK ภายใต้ค่าย YG Entertainment และ เพลงโซโล่เพลงแรกในค่าย LLOUD ตอนนี้เธอดูได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองและความสามารถที่ซ่อนอยู่ออกมาให้ผู้คนทั่วโลกได้ชื่นชมมากยิ่งขึ้น และแฟชั่นของเธอที่ทรงอิทธิพลก็น่าจับตามองอยู่เสมอเช่นกัน

 

 



WATCH




Chanel เปิดตัวจิวเวลรีช้ินใหม่ 'Premiere sound' ที่ผสมผสานนาฬิกา สร้อยคอ และหูฟังในชิ้นเดียวกัน

จิวเวลรีชิ้นใหม่จากชาเนล “Première Sound Watch” ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เมื่อเหล่าคนดังผู้ทรงอิทธิพลในโลกแฟชั่น Jennie-Kim, Lana Del Rey และ Lily-Rose Depp ร่วมโปรโมต และด้วยความที่เทรนด์สวมหูฟังเป็นเครื่องประดับกำลังมาแรง ชาเนลจึงเปิดตัวเครื่องประดับสุดล้ำ คือนาฬิกาสร้อยคอพร้อมสายหูฟังที่มีชื่อว่า Première Sound Watch ซึ่งเป็นการนำดีไซน์คลาสสิกของนาฬิกาข้อมือรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของชาเนล Première Édition Originale มาปรับโฉม โดยเพิ่มความยาวของสายโซ่คล้องสายหนังให้เป็นสร้อยคอสไตล์โซตัวร์ ตัวเรือนสตีลชุบทองคำเหลืองประดับเม็ดมะยมโอนิกซ์ทำหน้าที่เป็นจี้บอกเวลาด้วยระบบกลไกควอตซ์ เพิ่มความโมเดิร์นด้วยการติดสายหูฟังเข้ากับสร้อย ตกแต่งโลโก้ซีไขว้สัญลักษณ์ของชาเนลที่เพิ่มความเงางามและความแข็งแรงด้วยกระจกแซปไฟร์ จุกหูฟังซิลิโคนช่วยให้นุ่มสบายหูเวลาสวมนานๆ มีปุ่มควบคุมระดับเสียง ปุ่มรับโทรศัพท์ และไมโครโฟนขนาดจิ๋ว Arnaud Chastaingt ผู้อำนวยการสตูดิโอสร้างสรรค์นาฬิกาของชาเนลเผยถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบว่าเขาอยากนำความตั้งใจของโคโค่ ชาเนลผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมาสืบสานต่อ ด้วยการนำไอเท็มที่มีรหัสของชาเนลมาสร้างสรรค์ใหม่ให้เข้ากับความนิยมในยุคปัจจุบัน

ยังไม่ทันประกาศวางขายอย่างเป็นทางการ นาฬิกาชิ้นนี้ก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม เพราะ Jennie Kim จากวง BLACKPINK สวมไปในงานเปิดร้านป๊อปอัปจิวเวลรีคอลเล็กชั่น Coco Crush ในประเทศเกาหลีใต้เมื่อเดือนกรกฎาคม และเดือนถัดมาศิลปินหญิงระดับตำนาน Lana Del Rey ก็สวมขึ้นไปเล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศฝรั่งเศสแมตช์กับชุดกระโปรงผ้าทวีดสุดคลาสสิก จากนั้นจึงเปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยแคมเปญที่ได้แบรนด์แอมบาสเดอร์ Lily-Rose Depp มาร่วมแสดง

 
 

Cartier เลือก 'เจฟ-ซาเตอร์' ศิลปินมากความสามารถแห่งปี แต่งตั้งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของประเทศไทย

Cartier แบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาสัญชาติฝรั่งเศส ประกาศแต่งตั้ง “เจฟ ซาเตอร์” แบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของประเทศไทย จากก่อนหน้านี้ คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส และ ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร ได้รับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์จิวเวลรีชั้นสูงที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกอย่างคาร์เทียร์

เจฟ ซาเตอร์ เป็นคนที่มีความคิดเปิดกว้าง มีความเป็นตัวของตัวเอง และบุคลิกที่แตกต่าง พร้อมทั้งความสามารถ คือสิ่งที่ทำให้เจฟโดดเด่นและได้รับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์คนล่าสุดของคาร์เทียร์ประจำประเทศไทย อีกทั้งผลงานทางด้านดนตรีของเขายังได้รับการยอมรับทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศอย่างล้นหลาม โดยในปี 2024 เจฟได้ร่วมงานสำคัญของแบรนด์หลายครั้ง เช่น งานฉลองครบรอบ 100 ปีของคอลเล็กชั่น Trinity ที่กรุงปารีสในเดือนกุมภาพันธ์ และงานเปิดร้านใหม่ของ Cartier ที่ศูนย์การค้า The Exchange TRX ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ ในเดือนพฤศจิกายน เขายังได้เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองของ Cartier ที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นภายใต้บรรยากาศดวงดาว อีกทั้งร่วมเผยแฟชั่นเซ็ตท่ามกลางต้นคริสมาสต์ของคาร์เทียร์ ณ สยามพารากอน มอบความสุขให้แฟนๆ ส่งท้ายปีเก่าปีนี้ การร่วมงานของเจฟกับ Cartier ทุกครั้งเจฟสามารถสะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นตัวของตัวเอง และมุ่งมั่นเดินตามเส้นทางของตน ซึ่งสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ ทำให้เขาเป็นตัวแทนที่เหมาะสมในการนำเสนอความงดงามและศิลปะการออกแบบที่ไม่เหมือนใครของ Cartier

เมื่อประกาศว่าเจฟได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของคาร์เทียร์เจฟเผยว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากคาร์เทียร์ การร่วมงานกับคาร์เทียร์ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่าและได้สร้างแรงบันดาลใจให้ผมในหลายด้าน ทั้งความสวยงามของเครื่องประดับที่เป็นเอกลักษณ์และศิลปะการออกแบบที่ไม่เหมือนใครของคาร์เทียร์” เจฟกล่าวเสริม “ผมหวังว่าจะได้ผสมผสานความเป็นตัวเองและบทบาทของผมเข้ากับชิ้นงานและเครื่องประดับเหนือกาลเวลาของคาร์เทียร์ในการร่วมงานครั้งต่อๆ ไปครับ”

 

 

Bvlgari เชิดชูจิวเวลรีชั้นสูงคอลเล็กชั่น “Tobugas” พร้อมแคมเปญกับศิลปินชื่อดังระดับโลกมากมาย

Bvlgari Studio เปิดตัวจิวเวลรีคอลเล็กชั่นใหม่ ‘BVLGARI TUBOGAS’ อย่างยิ่งใหญ่ในมหานครนิวยอร์ก ณ เพนต์เฮาส์แห่ง Skylight ที่ The Refinery ในกรุงนิวยอร์ก คอลเล็กชั่น “Tubogas” จิวเวลรีอันประกอบไปด้วยแถบสีทองยืดหยุ่นที่เกิดจากการดีไซน์อย่างชาญฉลาดที่ผสมผสานระหว่างประเพณี และนวัตกรรมที่ไม่เหมือนใครด้วยเทคนิคล้ำสมัย และงานฝีมือสุดประณีต รังสรรค์เป็นเครื่องประดับสุดไอคอนิก ที่มีโครงเส้นเป็นเอกลักษณ์ และมีความพลิ้วไหว โดยมีเหล่าเซเลบริตี้มากมายปรากฏตัวในงานพร้อมดื่มด่ำไปกับเส้นทางวิวัฒนาการของคอลเล็กชั่น Tubogas และรับชมการแสดงมากมายที่สร้างบรรยากาศให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ในห้องกระจกที่สามารถมองเห็นเส้นขอบฟ้าของนิวยอร์ก พบกับนางแบบสาว Naomi Campbell ปรากฏตัวในชุดสีดำสุดเซ็กซี่ พร้อมสวมสร้อยคอ Tubogas Stellar Diamond ซึ่งเป็นผลงานชิ้นเอกที่เฉลิมฉลองเทคนิคเฉพาะของบุลการีที่ทำจากทองคำ 3 แถบที่โค้งมน สะท้อนถึงจิตวิญญาณของช่างทำเครื่องประดับชาวโรมันได้เป็นอย่างดี พร้อมประดับด้วยเพชร นอกจากนั้นยังมีคนดังอีกมากมายที่ปรากฏตัวในชุดราตรี พร้อมสวมเครื่องประดับเลอค่า มาในงานเพื่อชื่นชมศิลปะกันอย่างคับคั่ง อาทิ นักแสดงมากความสามารถ Dakota Johnson และ Damson ldris

อีกหนึ่งอีเวนต์ยิ่งใหญ่แห่งปีในประเทศไทย ต้องยกให้กับงานเปิดตัวคอลเล็กชั่นนี้ที่ Emsphere ในรูปแบบงานเปิดตัวคอลเล็กชั่นเครื่องประดับอัญมณีสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จัดขึ้น ณ ใจกลางกรุงเทพฯ หลังเปิดตัวมาแล้วก่อนหน้านี้ที่มหานครนิวยอร์กในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยครั้งนี้บุลการี ทูโบกาส ได้เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ เพื่อเผยโฉมภายในงานเลี้ยงฉลองแห่งค่ำคืนที่น่าจดจำ เพื่อสะท้อนถึงอัตลักษณ์อันแข็งแกร่งของการหล่อหลอมอย่างเข้มแข็งระหว่างความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และงานหัตถศิลป์สไตล์อิตาเลียนอันไร้กาลเวลาของคอลเล็กชั่นใหม่นี้ ภายใต้การผสมผสานอย่างกลมกลืนของสององค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ บุลการี ระหว่าง ทูโบกาสและเยลโลว์โกลด์ซึ่งตอกย้ำถึงการเป็นโลหะอันล้ำค่าเหนือกาลเวลาที่ยังคงหยั่งรากลึกอยู่ในดีเอ็นเอของแบรนด์ โดยเทคนิค ทูโบกาส อันเป็นไอคอนิกนี้เป็นการที่หลอมรวมมรดกประเพณีการสร้างสรรค์อันเหนือกาลเวลาเข้ากับความทันสมัย และกลายมาเป็นการแสดงออกถึงสไตล์อันร่วมสมัย โดยสามารถสวมใส่ได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ รวมถึงในทุกโอกาส ซึ่งถือเป็นงานศิลปะล้ำยุคที่สามารถตีความใหม่ได้อย่างไม่มีสิ้นสุด ภายในงานได้พบกับเหล่าแขกคนสำคัญ นำโดย แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล พร้อมทั้ง Friend of the House อย่าง ใหม่-ดาวิกา และ มาย-ภาคภูมิ นอกจากนี้ยังมีเซเลบริตี้จากหลายประเทศในแถบเอเชีย ประกอบด้วย Pia Wurtzbach, Hồ Ngọc Hà, และ Luna Maya และที่ขาดไม่ได้คือเหล่าเซเลบริตี้ชาวไทยที่มาร่วมงานอย่าวคับคั่ง ประกอบด้วย นานิ-หิรัญกฤษฏิ์, สกาย-วงศ์รวี, แพต-ชญานิษฐ์, เดียน่า ฟลีโป, ภีม-วสุ, พลอย หอวัง, มิ้นท์-รัญชน์รวี และ โยโกะ-อาภัสรา นอกจากนี้ยังมี Jean-Christophe Babin ประธานกรรมการบริหารของแบรนด์ร่วมถ่ายภาพร่วมกับลิซ่าอีกด้วย

 

 

ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ กับบทบาทสำคัญในงานจิวเวลรีชั้นสูงของ Louis Vuitton

ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ ในฐานะเฮาส์แอมบาสเดอร์ของ Louis Vuitton ได้ร่วมงานเปิดตัวคอลเล็กชั่นจิวเวลรีชั้นสูงประจำปี 2024 Awakened Hands, Awakened Minds ที่จัดขึ้นในเมืองแซงต์โทรเปซ ประเทศฝรั่งเศส งานนี้ถือเป็นคอลเล็กชั่นเครื่องประดับชั้นสูงที่ใหญ่ที่สุดและทรงคุณค่าที่สุดของหลุยส์ วิตตอง โดยผลงานการออกแบบทั้งหมดเป็นฝีมือของ Francesca Amfitheatrof ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ด้านจิวเวลรีและนาฬิกา โดยญาญ่าปรากฏตัวในโททัลลุคจากแบรนด์พร้อมเครื่องประดับชั้นสูงที่ประกอบด้วยสร้อยคอดีไซน์เกลียวกำไล และแหวนที่ตกแต่งด้วยเพชรและนิลสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามและสง่างาม

คอลเล็กชั่น Awakened Hands, Awakened Minds นำแรงบันดาลใจมาจากศตวรรษที่ 19 ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงและความเจริญรุ่งเรืองในด้านนวัตกรรมและงานฝีมือ สะท้อนถึงความภาคภูมิใจในศิลปะ savoir-faire ที่ทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นศูนย์กลางของโลกในยุคนั้น โดยคอลเล็กชั่นนี้มีชิ้นงานอันโดดเด่นถึง 220 ชิ้น แบ่งเป็น 13 ธีมที่หลากหลาย เช่น Victoire สร้อยคอที่มีดีไซน์หอไอเฟลกลับหัวประดับด้วยเพชร Monogram Flower Cut และ Coeur de Paris ที่เป็นเพชรสีน้ำตาลอมชมพูเข้มขนาด 56.23 กะรัต นับเป็นจิวเวลรีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Louis Vuitton

Awakened Hands, Awakened Minds ไม่เพียงเฉลิมฉลองความรุ่งเรืองของฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 แต่ยังถ่ายทอดจิตวิญญาณของงานฝีมืออันประณีต และความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่สิ้นสุดในโลกแห่งจิวเวลรี การเดินทางครั้งนี้ของญาญ่าถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทสำคัญที่สะท้อนความสามารถของศิลปินไทยบนเวทีระดับโลก

 

 

Jin จากบอยแบนด์เกาหลีใต้ BTS ได้รับการแต่งตั้งเป็นแอมบาสเดอร์ระดับโลกคนแรกของ FRED

หลังจากออกจากกรมฯ 'จิน' ศิลปินชายชื่อดังแห่งบอยแบนด์เกาหลีใต้ ‘BTS’ ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ก็ได้รับอีกหนึ่งบทบาทสำคัญอย่างเป็นทางการ การกลับมาครั้งนี้ Fred ได้เลือกศิลปินและนักแต่งเพลงชาวเกาหลีใต้ชื่อดัง Kim Seok-jin หรือที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อ Jin จากบอยแบนด์เกาหลีใต้ BTS ให้เป็นแอมบาสเดอร์ระดับโลกคนแรก เนื่องด้วยจินเป็นศิลปินที่มีพลังอันโดดเด่น และมีความสามารถทางศิลปะการดนตรี และยังเป็นบุคคลที่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนคลับอย่างสูง ปัจจัยเหล่านี้จึงผลักดันให้จินก้าวไปสู่ความเป็นสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนเหมือนกับแบรนด์และผู้ก่อตั้ง เฟรด ซามูเอล จินกล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า “รู้สึกเป็นเกียรติและรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเฟรด” ในบทบาทใหม่ของเขาครั้งนี้  แฟนๆ เตรียมจับตามองผลงานที่จินและแบรนด์เฟรดจะร่วมมือกันปีหน้าได้อีกเลย เพราะจากสิ้นปีนี้แบรนด์ได้เผยแฟชั่นเซ็ตภาพจินสวมจิวเวลรีในแคมเปญ 'Sunny FREDland' ฉลองเทศกาลแห่งความสุขในดินแดนที่ความมหัศจรรย์ในเทศกาลแห่งความสุขที่เปล่งประกาย จินมาพร้อมด้วยจิวเวลรีไอคอนิกจากเมซงในคอลเล็กชั่น Force 10 และ Pain de Sucre ที่เปล่งประกายอย่างมีเสน่ห์ในทุกช่วงเวลาและเติมเต็มความสุขในช่วงเวลาอันแสนวิเศษส่งท้ายปี ปีหน้าจินกับเฟรดจะร่วมกันสร้างสรรค์แคมเปญใดต้องรอติดตาม

 

 

Chaumet จากปารีสสู่ Iconsiam กรุงเทพฯ การเดินทางของเครื่องประดับชั้นสูง

Chaumet แบรนด์เครื่องประดับชั้นสูงระดับตำนานจากปารีส ได้เปิดตัวบูติกแห่งแรกในประเทศไทย ณ ไอคอนสยาม ศูนย์การค้าชั้นนำที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 เป็นต้นไป บูติกแห่งนี้เป็นมากกว่าสถานที่จำหน่ายเครื่องประดับ แต่เป็นพื้นที่ที่สะท้อนความงดงามเหนือกาลเวลาของเมซงโชเมต์ ผสมผสานงานฝีมืออันวิจิตรและดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ในบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

การเปิดตัวบูติกในกรุงเทพฯ เป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของโชเมต์ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ต่อจากการเปิดบูติกในกรุงกัวลาลัมเปอร์และฮานอยเมื่อปี 2023 โดยสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของแบรนด์ต่อศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับศิลปะและงานฝีมืออย่างลึกซึ้ง ซึ่งสอดคล้องกับดีเอ็นเอของโชเมต์ ที่ให้ความสำคัญกับความประณีตและความงดงามอันไร้กาลเวลา การเลือกกรุงเทพฯ เป็นสถานที่ตั้งบูติกแห่งแรกในประเทศ ไม่เพียงตอบโจทย์ด้านธุรกิจเท่านั้น แต่ยังสะท้อนความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมที่ลงตัว

ชาร์ลส์ เหลียง ซีอีโอของโชเมต์ กล่าวว่าการออกแบบบูติกนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Place Vendôme ศูนย์กลางแห่งความหรูหราในปารีส พื้นที่ภายในบูติกถูกตกแต่งในสไตล์อพาร์ตเมนต์ปารีเซียง โดดเด่นด้วยแสงและดีไซน์ที่ทันสมัย พร้อมด้วยโทนสีน้ำเงินเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ตัดกับสีทองอันหรูหรา ผนังที่ตกแต่งด้วยลวดลายข้าวสาลีทองคำเปลวที่ทำขึ้นด้วยมือ สะท้อนความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือระดับสูง นอกจากนี้ ยังมีประติมากรรมนูนต่ำของมงกุฎที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ของโชเมต์ ในฐานะ 'ช่างทำมงกุฎแห่งราชสำนัก' ซึ่งเป็นไฮไลต์ของพื้นที่จัดแสดง

โดยบูติกนี้จะเน้นไปที่เครื่องประดับชั้นสูง และคอลเล็กชั่นอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ อาทิ เครื่องประดับชั้นสูงคอลเล็กชั่น Joséphine รังสรรค์ขึ้นจากความสง่างามเรียบหรูเป็นเอกลักษณ์ของโชเมต์ และคอลเล็กชั่น Liens ได้นำแรงบันดาลใจจากกูตูร์ รังสรรค์ความหมายใหม่กับลวดลายเชิงสัญลักษณ์ของโชเมต์ ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความผูกพัน โครงสร้างของเครื่องประดับจึงมีความโค้งมนล้อมรอบอัญมณีอันล้ำค่าอย่างอ่อนโยน และคอลเล็กชั่น Bee My Love เครื่องประดับรูปทรงรังผึ้ง เจียระไนทรงหกเหลี่ยมขัดเงาให้พื้นผิวเงาวาวดั่งกระจก ผสานกับเพชรเจียระไนแบบบรีย็องคัต สร้างสรรค์เป็นดีไซน์โปร่งบางได้ลวดลายที่ชวนให้นึกถึงผึ้งที่กำลังรวบรวมน้ำหวานจากดอกไม้ และคอลเล็กชั่น

 

 

รันเวย์คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2025 เปรียบดั่งการทำนายแอ็กเซสเซอรี่ที่จะกลายเป็นไอเท็มฮิตในปีหน้า!

เครื่องประดับในคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2025 เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด สำหรับผู้ที่หลงใหลในแฟชั่น เพราะแอ็กเซสเซอรี่ที่ปรากฏในรันเวย์ปีนี้ไม่เพียงแค่เสริมความสมบูรณ์ให้กับชุดต่างๆ แต่ยังสะท้อนถึงแนวคิดและคอนเซปต์ที่ลึกซึ้งจากแต่ละแบรนด์ ที่มีความโดดเด่นในรายละเอียดและการนำเสนอ ที่อาจกลายเป็นไอเท็มแฟชั่นสุดฮิตในอนาคตอันใกล้ เครื่องประดับเหล่านี้ไม่เพียงแค่เติมเต็มความงาม แต่ยังสื่อสารความหมายและอารมณ์ที่แบรนด์อยากถ่ายทอด สะท้อนพลังและทิศทางใหม่ๆ ที่กำลังจะเขย่าวงการแฟชั่นในปี 2025 นี้ อาทิเช่น

Chanel แฟชั่นโชว์เผยแอ็กเซสเซอรี่ที่น่าสนใจตั้งแต่ลุคแรกๆ ที่เราจะเห็นนางแบบในเสื้อผ้า และเครื่องประดับโทนสีคลาสสิกขาวดำ ไปจนถึงการเล่นกับโทนสีพาสเทลเพิ่มความหวาน และสนุกสนานเข้าไปกับโชว์ พร้อมกับรายละเอียดของเครื่องประดับต่างๆ ที่มีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ผสมกับความสวยสง่างามเมื่อทุกคนสวมเครื่องประดับชิ้นประณีตโดดเด่นในรูปทรงทั้งสาม นก ขนนก และกรงนก

Miu Miu S/S 2025 ผสมผสานสไตล์ 70s และความโมเดิร์นไว้อย่างน่าทึ่ง ภายใต้คอนเซปต์ 'Salt Looks Like Sugar' (เกลือก็ดูเหมือนน้ำตาล)  โดย Miuccia Prada ที่ถนัดในการพลิกแพลงมุมมอง เล่าคอนเซปต์นี้ด้วยแอ็กเซสเซอรี่ที่เตะตาอย่าง เข็มขัดสีเงินและสีทองลายดอกไม้น่าตกใจยิ่งขึ้นเมื่อคาดบนชุดสไตล์สปอร์ต อย่างชุดว่ายน้ำที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งแปลกตา และรองเท้าส้นสูงสีสวยที่ทุกลุคจะใส่คู่กับถุงเท้ายาวที่หุ้มแค่ข้อเท้า และอีกคู่ที่มีรูปทรงคล้ายรองเท้าเด็ก ผสมความเป็นรองเท้าแตะ และส้นสูงได้อย่างน่ารัก ไม่แน่เทรนด์นี้อาจกลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมในเร็วๆนี้ก็ได้ และสุดท้ายชาร์มห้อยกระเป๋าไอเท็มแห่งปีนี้มิวมิวก็ดีไซน์ออกมาได้อย่างไม่น่าผิดหวัง ถือว่าคอลเล็กชั่นนี้ผสมผสานสิ่งที่ไม่น่าจะเข้ากันไว้ได้อย่างลงตัว

Bottega Veneta หนึ่งในไอเท็มที่ถูกแชร์ลงโซเชียลกันมากมาย ด้วยความน่ารัก และความเก๋ ดอกไม้ยังเป็นสัญลักษณ์ยอดฮิตในทุกๆ สถานการณ์ โดยเฉพาะฤดูใบไม้ผลินี้ เมื่อนำมาเป็นพร็อพที่ผสานงานฝีมืออันประณีตจึงเป็นชิ้นโปรดของใครหลายๆ คน นอกจากนั้นยังมีถุงใบเล็กสีแดงกำในมือเก๋ๆ คู่กับกระเป๋าใส่กีตาร์ และอีกใบที่หน้าตาคล้ายกับตะกร้าในซูเปอร์มาร์เก็ตด้วยเส้นหนังยึดกันเป็นตาราง และมีที่จับเป็นสีแดงเป็นชิ้นที่ดูตลกปนเท่ดี กระเป๋าใบสุดท้ายกระเป๋าหนังนุ่มสีแดงเบอร์กันดีทรงยอดฮิตแห่งปี

Chloé มาในโทนสีหวานละมุนเช่นเคย พร้อมนำรูปทรงหอยชนิดต่างๆ ผสมกับโซ่ และจิวเวลรีสีทอง สร้อยคอ และเข็มขัดโดดเด่นด้วยเทคนิคดัดลวดสีทองเป็นคำว่า Chloe อยู่ในส่วนต่างๆ ของแอ็กเซสเซอรี่อย่างสวยงามลงตัว คุมโทนเพื่อเพิ่มความสดใสด้วยการสอดแทรกหินสีฟ้าในเครื่องประดับให้เข้ากับชุดที่ใส่ อีกทั้งเพิ่มความกุ๊กกิ๊กด้วยชาร์มห้อยกระเป๋าผสมผสานหลายวัสดุ ทั้งจี้สีทอง ริบบิ้น และเชือกเข้าไว้ด้วยกันถือเป็นไอเท็มติดกระเป๋าที่ต้องมี

 

 

Piaget ครบรอบ 150 ปี เผยคอลเล็กชั่นจิวเวลรีชั้นสูงแลนิทรรศการ “Essence of Extraleganza” เดินทางเฉลิมฉลองไปทั่วโลก

Piaget เฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปี ด้วยการเผยโฉมคอลเล็กชั่นไฮจิวเวลรีล่าสุด ในชื่อ “Essence of Extraleganza” หรือ 150 year anniversary collection ที่หยิบแรงบันดาลใจของชิ้นงานที่เรืองรองและสร้างจุดเปลี่ยนให้กับวงการนาฬิกาและจิวเวลรีมากมายในยุค 1960 และ 1970 มาตีความให้เข้ากับยุคสมัยยิ่งขึ้น ทั้งยังสะท้อนค่านิยมหลักของแบรนด์และชวนเซอร์ไพรส์ในทุกมิติกับนิทรรศการหลายที่ทั่วโลก ทั้งในกรุงปารีส กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกรุงโซล

ในกรุงปารีสที่จัดแสดงคอลเล็กชั่นใหม่ ชื่อ “Extraleganza” มาจากการผสมคำ “Extravagance” กับ “Elegance” แรงบันดาลใจในการรังสรรค์เครื่องประดับชั้นสูงคอลเล็กชั่นนี้คือช่วงปี 1960-1979 ซึ่งเป็นช่วงที่ผลงานของแบรนด์ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจิวเวลรีและนาฬิกา นิทรรศการแบ่งเป็น 3 ธีมคือ Extraleganza, Piaget Society และ When Mastery Ignite Artistry โดย 'อาโป-ณัฐวิญญ์' และบรรณาธิการด้านแฟชั่นฝ่ายดิจิทัลโว้กประเทศไทยได้ไปเยือน พร้อมดื่มด่ำกับผลงานอันล้ำค่าของเมซงอย่างใกล้ชิด และเซเลบริตี้ชื่อดังอย่าง Rosamund Spike, Yao Tong Ella Richards

ยังคงเดินหน้าเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปีของเมซง กับการจับมือกับ Abu Dhabi Investment Office (ADIO) แห่งกรุงอาบูดาบี จัดงาน “Essence of Extraleganza” High Jewellery กับนิทรรศการไฮจิวเวลรีคอลเล็กชั่นล่าสุดที่เมซงหยิบแรงบันดาลใจของชิ้นงานที่สร้างจุดเปลี่ยนให้กับวงการนาฬิกาและจิวเวลรี มาตีความให้โมเดิร์นเข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น สะท้อนค่านิยมหลักของแบรนด์ที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสร้างสรรค์ ความขบถนอกกรอบ และรสนิยมอันล้ำสมัย อีกทั้งเชื่อมโยงอดีตเข้ากับปัจจุบัน เพื่อตอกย้ำความเป็นเลิศแห่งงานหัตถศิลป์และการเป็นผู้ผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับชั้นสูงของเพียเจต์มาตลอด 150 ปี ซึ่งงานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่ Emirates Palace Mandarin Oriental โดยมีแขกคนสำคัญจากประเทศไทยอย่าง อาโป-ณัฐวิญญ์ อีกเช่นเคย พร้อมกับเหล่าเซเลบริตี้มากมายร่วมงาน 

ปิดท้ายด้วยงานช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเพียเจต์ก็ได้จัดนิทรรศการ “Essence of Extraleganza” นิทรรศการส่วนตัวระดับโลกครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง ที่ Aston House, Walkerhill กรุงโซล งานนี้ได้รับเกียรติจากแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก อย่าง Lee Junho, นักแสดงสาว Go Minsi, เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ และแขกผู้ทรงเกียรติอีกมากมาย Lee Junho ถ่ายทอดความประณีตของเพียเจต์ผ่านเรือนเวลา Altiplano Precious Skeleton High Jewelry Watch ที่ประดับด้วยไพลินคู่กับต่างหู Limelight Gem of Rose ที่ถูกดีไซน์ใหม่ให้เป็นเข็มกลัดสุดพิเศษสำหรับโอกาสนี้ ในขณะเดียวกัน นักแสดงสาว Go Minsi ได้ถ่ายทอดเสน่ห์อันไร้ที่สิ้นสุดของอัญมณีจากเพียเจต์ ผ่านเซ็ตเครื่องประดับ Glowing Weave ที่ประกอบด้วยสร้อยคอ ต่างหู และแหวน ประดับด้วยมรกตอันเลอค่าสะท้อนถึงความประณีตทางงานฝีมือ ความสัมพันธ์กับแฟชั่นที่ร่วมสมัย สร้างสรรค์เป็นการเฉลิมฉลองแห่งความสุขสร้างความประทับใจอันเจิดจรัสให้แก่ผู้ร่วมงานทุกคน ถือเป็นการปิดท้ายปีแห่งการเฉลิมฉลองได้อย่างสวยงาม

 

 

ครั้งแรกในรอบ 25 ปีของ Patek Philippe เผยโฉมนาฬิกาคอลเล็กชั่นใหม่ล่าสุดกับรุ่น "Cubitus"

นับเป็นข่าวเซอร์ไพรส์แห่งวงการนาฬิกาที่แบรนด์ Patek Philippe หนึ่งในแบรนด์นาฬิกาที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะในแวดวงนักสะสมและผู้หลงใหลในนาฬิกาหรู ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 180 ปี ชื่อเสียงด้านคุณภาพ และความประณีต ทำให้เป็นแบรนด์ที่โดดเด่นและผู้คนตามหาอย่าง  Aquanuat และ Nautilus นาฬิกาสายสปอร์ตที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด ปีนี้แบรนด์จึงพัฒนาและเผยโฉมคอลเล็กชั่นใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี ด้วยแนวคิดแบบ 'Elegant Sporty' กับนาฬิการุ่น "Cubitus" ที่โดดเด่นด้วยตัวเรือนสี่เหลี่ยมตกแต่งด้วยมุมอันโค้งมน มาพร้อมหน้าปัดสีคลาสสิกและกลไกหลายรูปแบบตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงหน้าปัดอันซับซ้อนด้วยรายละเอียด

ปาเต็ก ฟิลิปป์ยังคงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ไว้อย่างครบถ้วน เพิ่มเติมคือวิธีการปรับแต่งรูปทรงและความหนาบางให้เข้ากับผู้สวมใส่ การพัฒนาที่ผลลัพธ์ออกมาหน้าตาเรียบง่ายแต่ซ่อนด้วยรายละเอียดเบื้องหลังอันลึกซึ้ง สอดผสานกับมุมมองการเดินหน้าของเมซงที่มีเรือนเวลาแต่ละรุ่นเหมือนเป็นหมุดบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นในแต่ละยุคสมัย ซึ่งครั้งนี้เน้นย้ำเรื่องรูปทรงเรขาคณิตชวนให้นึกถึงศิลปะยุค Art Deco ผสมผสานปรับแต่งให้มีความโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น ด้วยขนาดหน้าปัด 45 มิลลิเมตรเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกชัดเจนถึงกลิ่นอายความสปอร์ต

โดย ปาเต็ก ฟิลิปป์ ยังคงรายละเอียดความพิเศษตามแบบฉบับของแบรนด์แอบซ่อนไว้ในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์ 'Calatrava Cross' เรื่อยไปจนถึง ‘Rug’ ที่มีความแตกต่างเฉพาะตัว นอกจากเรือนเวลาแล้วทางแบรนด์ยังนำเสนอคัฟลิงก์คอลเล็กชั่นใหม่ที่สอดรับกับความงดงามของตัวเรือน ทำจากวัสดุไวต์โกลด์และวัสดุสลักลายเช่นเดียวกับบนหน้าปัดนาฬิกา ถือว่าการเปิดตัวครั้งนี้คือก้าวใหญ่ของปาเต็ก ฟิลิปป์ที่ห่างหายจากการออกโมเดลใหม่มานานเกิน 2 ทศวรรษ วันนี้แฟนพันธุ์แท้นาฬิกาจะได้สัมผัสความสง่างามสดใหม่ที่สุดของสุดยอดแห่งแบรนด์นาฬิกา

(สามารถอ่านเรื่อง VOGUE SCOOP | สรุปรวบทุกโมเมนต์สำคัญ THAI POWER 2024 เมื่อคนไทยทลายกำแพงไปอีกขั้น! ได้ที่นี่)

WATCH