เผยเสน่ห์และความงดงามอันวิจิตรบนเรือนเวลาประดับเพชรสีดำ ‘Vanguard Rose Skeleton’ จาก Franck Muller

     นับเป็นช่วงเวลากว่า 30 ปี ที่แบรนด์นาฬิกาหรูอย่าง “Franck Muller” ได้คอยสร้างสรรค์ความงดงามอันประณีตให้แก่เรือนเวลาต่างๆ ได้อย่างไร้ที่ติ แต่คงต้องเล่าย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1992 ปีที่แบรนด์นาฬิกาอย่างแฟรงก์ มูลเลอร์ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นจากความตั้งใจของช่างนาฬิกาชั้นครูในชื่อเดียวกันนี้ ทั้งยังเป็นการร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกาและนักธุรกิจอย่าง วาร์ทัน เซอร์เมกส์ (Vartan Simakes) จนกลายมาเป็นแบรนด์เรือนเวลาที่มีดีไซน์ร่วมสมัย และเลื่องชื่อในด้านความประณีตของการสร้างสรรค์กลไกจักรกลสุดพิเศษที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน ผสานไปด้วยนวัตกรรมเฉพาะตัวของแบรนด์ที่สร้างขึ้น ณ โรงงานในหมู่บ้านเกนต์ออด (Genthod) ของเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

     จนเมื่อปี 2021 ที่แฟรงก์ มูลเลอร์ได้เปิดตัวคอลเล็กชั่นเรือนเวลาสุดเอ็กซ์คลูซีฟอย่าง “Vanguard Rose Skeleton” คอลเล็กชั่นที่มัดรวมความอ่อนหวานในแบบฉบับเฟมินีนเอาไว้ด้วยกัน พร้อมสะท้อนถึงตัวตนที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันอ่อนโยนของหญิงสาวผ่าน “ดอกกุหลาบ” กุญแจชิ้นสำคัญที่สื่อถึงเรื่องราวของสตรีเพศได้อย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นลวดลายโค้งมนที่ดูนุ่มนวลผูกมัดเข้ากับดอกกุหลาบสีสวย จัดวางอยู่บนตัวเรือนไวต์โกลด์ประดับเพชรเม็ดงามกว่า 422 เม็ด แรงบันดาลใจแห่งความสวยงามที่ถ่ายทอดตัวตนสู่ Vanguard Rose Skeleton Black Diamonds คอลเล็กชั่นนาฬิกาซึ่งได้ปล่อยออกมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมานี้

     หลังจากความงดงามของหญิงสาวได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี สู่การถ่ายทอดตัวตนแบบใหม่ผ่านเรือนเวลา “Vanguard Rose Skeleton Black Diamonds” เรือนเวลาเวอร์ชั่นใหม่ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์อันน่าเย้ายวนใจด้วยเทคนิคการเคลือบพีวีดี (PVD) สีดำ ลงบนตัวเรือนไวต์โกลด์และสะพานจักรกล ช่วยเสริมภาพอันงดงามของนาฬิกาคอลเล็กชั่นนี้ให้มีความน่าลุ่มหลงมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยการประดับเพชรเจียระไนบริลเลียนต์คัตสีดำจำนวน 422 เม็ดบนตัวเรือน และประดับอัญมณีเจียระไนบริลเลียนต์คัตอีก 75 เม็ดบนหน้าปัด เผยให้เห็นเสน่ห์ความงดงามอันวิจิตรแห่งแวงการ์ด โรส สเกเลตัน แบล็ก ไดมอนดส์ได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน

     ไม่เพียงแต่ความวิจิตรแสนประณีตของตัวเรือนเวลาเท่านั้นที่สร้างความแตกต่างให้กับคอลเล็กชั่นนี้ แต่ด้วยความซับซ้อนและความสวยงามของเหล่าอัญมณีซึ่งถูกคัดเลือกผ่านกรรมวิธีที่พิเศษและเฉพาะตัวของแบรนด์ ตั้งแต่ก่อนและหลังการประดับลงในตำแหน่งอันสวยงามและสมบูรณ์ของมัน ตลอดจนการสร้างสรรค์โทนสีใหม่ที่เป็นการตอกย้ำถึงผลงานซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ายวนใจผ่านโทนสีทั้ง 4 ที่มีความเข้มและโดดเด่นแตกต่างกันไป ทั้งยังเป็นเฉดสีที่สื่อถึงความสดใสมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นสีเขียวที่ถูกวาดด้วยมือลงบนใบไม้และเพชร เฉดสีแดงเชอร์รี่ที่ประดับด้วยทับทิม หรือจะเป็นสีเขียวมินต์และเพชรสีเขียว รวมถึงสีชมพูพาสเทลที่ถูกจับคู่เข้ากับแซฟไฟร์สีชมพู โดยทั้งหมดมาในฉากหลังสีขาวอันโดดเด่น สะท้อนถึงความรู้สึกอบอุ่นที่เรามักสัมผัสได้ในธรรมชาติท่ามกลางสายลมของฤดูใบไม้ผลิ มาในดีไซน์ที่ถูกออกแบบมาอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการลบขอบมุมด้วยมือของเหล่าช่างฝีมือ ผสมผสานไปด้วยกรรมวิธีการขัดด้านแบบซาตินและลงยาทีละชั้น ตลอดจนการจัดวางหน้าปัดย่อยวินาที ไว้ด้านบนรูปดอกกุหลาบที่ตำแหน่งหกนาฬิกา ก่อนจะปิดผนึกความงามของห้วงเวลาด้วยกระจกแซฟไฟร์ที่มีค่าความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับอัญมณีอย่างทับทิมหรือไพลิน ประกอบเข้ากับสายหนังจระเข้ที่ถูกตัดเย็บมาอย่างสมบูรณ์แบบถ่ายทอดผ่านเฉดสีเดียวกันกับดอกกุหลาบที่ประดับอยู่ส่วนกลางของตัวเรือนเวลา นับเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่แฟรงก์ มูลเลอร์จงใจมอบความพิเศษนี้ให้กับผู้สวมใส่โดยเฉพาะ

     นอกจากภายนอกที่ถูกออกแบบมาอย่างงดงาม การขับเคลื่อนภายในตัวเรือนก็อาศัยการผลิตด้วยขั้นตอนที่ซับซ้อนและพิถีพิถันไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขนาดกลไกของคาลิเบอร์ 1540 วีเอส 17 ขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ผลิตขึ้นแบบเอ็กซ์คลูซีฟจากโรงงานของแบรนด์เอง พร้อมทั้งการเคลือบพีวีดี บนสะพานจักร ยิ่งช่วยให้เผยความโดดเด่นของบรรดาดอกไม้ที่เป็นเสน่ห์ของคอลเล็กชั่นนี้ได้มากกว่าที่เคย ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการออกแบบเรือนเวลาระดับโลกด้วยการติดตั้งตลับลานคู่และสำรองพลังงานได้นานถึง 4 วัน นับเป็นชัยชนะของการออกแบบได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยชิ้นส่วนขนาดเล็กจิ๋วกว่า 153 ชิ้น ที่ถูกนำมาร้อยเรียงและประกอบเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวกับขบวนเกียร์เฟืองทั้งหมดที่สามารถมองเห็นได้จากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เผยให้เห็นการทำงานของกลไกที่สอดคล้องกันไปมาได้อย่างน่าประทับใจ

     เสน่ห์อันเย้ายวนของแวงการ์ด โรส สเกเลตัน แบล็ก ไดมอนด์สยังคงเชิญชวนให้เราได้เข้าไปสัมผัสกับความละเอียดลออของงานดีไซน์ที่สอดประสานไปกับความเป็นเลิศในด้านผู้นำนวัตกรรมของเรือนเวลา ทำให้เห็นถึงผลงานการออกแบบอันวิจิตรแฝงไปด้วยความบางและความงามระหงที่ถูกบรรจุมาในตัวเรือนอันหรูหรา เสริมความโดดเด่นด้วยเพชรสีดำที่ส่องประกายภายใต้รูปลักษณ์และเทคนิคเฉพาะทางของแฟรงก์ มูลเลอร์