ถ้านึกถึง ‘Dolce & Gabbana’ สาวกแฟชั่นคงคิดถึงไอเท็มที่เต็มไปด้วยสีสันและลวดลายอันเด่นชัดมาแต่ไกล ซึ่งแบรนด์สัญชาติอิตาเลียน ไม่ทำให้ผิดหวัง โดยการสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้ผ่านผลงานจิวเวลรีคอลเล็กชั่นใหม่อย่าง ‘Fine Jewellery Easy Rainbow’ อวดศิลปะการพันเส้นลวดสไตล์ ‘Filigree’ งานฝีมือจากช่างทองที่ดีที่สุดในอิตาลี กับการนำทองคำ 18 กะรัตสองเส้นมาพัน บิดเกลียว และสร้างสรรค์เป็นรูปทรงต่างๆ เป็นเทคนิคแบบดั้งเดิมตั้งแต่สมัยยุคกลางจากช่างทองชาวอาราบิกและชาวสเปน และได้ถูกนำมาเผยแพร่หลายในประเทศอิตาลีช่วงยุคเรเนซองซ์

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

Dolce & Gabbana ได้นำเทคนิคสุดประณีตนี้มารังสรรค์เป็นไฟน์จิวเวลรีร่วมกับอัญมณีหินสีหลายชนิดได้แก่ โทปาส อเมติสต์ ทัวร์มาลีน ซิทรินควอตซ์ แทนซาไนต์ โรโดไลต์ เพริดอต คุนไซต์ และแซฟไฟร์สีฟ้า ซึ่งผ่านการเจียระไนในรูปทรงและขนาดต่างๆ ก่อนนำมาล้อมด้วยทองบิดเกลียวดังกล่าว นำมาไล่เรียงเป็นสีสันแบบสายรุ้งและเชื่อมเป็น สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ต่างหูและแหวน รวมถึงการนำมารังสรรค์เป็นจี้ในรูปทรงไม้กางเขนและดอกไม้ เป็นโมทีฟที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะเก่าแก่ในคริสตจักร

1 / 2

2 / 2

โดยปกติแล้วคอลเล็กชั่นไฟน์จิวเวลรีจะถูกนำเสนอให้ออกมามีความอ่อนหวาน เท่ หรือคลาสสิก แต่ Dolce & Gabbana เลือกที่จะฉีกขนบด้วยการนำเสนอคอลเล็กชั่น ‘Fine Jewellery Easy Rainbow’  ผ่านแคมเปญที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุค 1990s สุดเย้ายวนด้วยลุคบิกินี่สีขาวและสีดำ เพื่อเน้นสีสันของจิวเวลรีทองคำและหินสี และยังสะท้อนกิจกรรมยอดนิยมในประเทศอิตาลีอย่างการล่องเรือบนทะเลในช่วงฤดูร้อน ถือว่าเป็นอีกผลงานที่น่าจับตามองในปีนี้ ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์จิวเวลรีอื่นๆ

1 / 5

2 / 5

3 / 5

4 / 5

5 / 5