ตลาดเพชรในช่วงปี 2020 ซบเซาลงอย่างมากเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคาดเดาทิศทางไม่ได้ ทำให้ยังไม่มีกล้าลงทุนกับสิ่งของมูลค่าสูงเท่าไรนัก มาถึงในปี 2021 กลับเป็นคนละเรื่อง เพราะอัตราการซื้อ-ขายเพชรพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงครึ่งหลังของปีที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเรื่องนี้สามารถสะท้อนแง่มุมหลายประเด็น ไม่ใช่เฉพาะความก้าวหน้าของวงการเครื่องเพชร แต่หมายถึงการบริการจัดการของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและอารมณ์ความรู้สึกของผู้ผ่านวิกฤติระดับโลก

เพชรขนาดยักษ์ที่ขายไปด้วยราคากว่า 12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ / ภาพ: FR24 News

     ตอนนี้เหมือนสถานการณ์ทางฝั่งยุโรปกำลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง Sotheby's และ Christie's องค์กรการประมูลชื่อดังของโลกเผยว่าพวกเขาขายเพชรได้จำนวนมากขึ้นอย่างน่าตกใจ รวมถึงเพชรขนาด 101 กะรัตที่เพิ่งประมูลออกไปด้วยราคาสูงถึง 12 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งผู้ซื้อเพชรเม็ดดังกล่าวนี้ใช้คริปโตในการชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมด ช่วงเวลานี้เหมือนกับทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปได้สวยทั้งสกุลเงินดิจิทัล อุปสงค์ของเพชร และทิศทางในการดำเนินต่อไปของผู้ประกอบการด้านอัญมณี ทว่าตัวเลขมูลค่ามหาศาลนั้นกำลังบ่งบอกอะไรให้เราได้รู้บ้าง นี่คือสิ่งที่เราต้องหาคำตอบ

แหวนเพชรขนาด 15 กะรัตที่มีมูลค่าประมาณ 120,000 เหรียญสหรัฐฯ ที่งานประมูลของ Christie's / ภาพ: Christie's

     สิ่งแรกที่สามารถวัดได้คือความคึกคักของตลาดที่มีมากขึ้นในลักษณะทวีคูณ เนื่องจากเพชรเป็นสมบัติล้ำค่าที่คนอยากเก็บสะสม มีความผันผวนไม่มากนัก อีกทั้งยังสามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น นอกจากนี้ความคึกคักของตลาดเพชรยังบ่งบอกอีกว่าการบริหารจัดการของผู้เกี่ยวข้องที่ดำเนินการบริหารทรัพยากร เพิ่มความลื่นไหลให้ตลาด และสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการบริการจัดการวัคซีนที่ทั่วถึง หลังจากผู้คนอดทนกับการล็อกดาวน์มาเป็นเวลานานนั้น นำมาซึ่งเหตุผลด้านอารมณ์ความรู้สึกที่ผู้คนมองว่าเพชรและอัญมณีต่างๆ ควรค่าแก่การเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองชัยชนะหลังผ่านวิกฤตการณ์ครั้งสำคัญของโลกมากที่สุด

อีกหนึ่งภาพของเพชรมูลค่ากว่า 12 ล้านเหรียญฯ ที่ถูกประมูลซื้อไปด้วยเงินคริปโต / ภาพ: AFN

     ผู้เชี่ยวชาญด้านกลไกตลาดเพชรก็ออกมาวิเคราะห์ว่าการเปิดประเทศต่างๆ ทั่วยุโรปและอเมริกา รวมถึงประเทศในแถบเอเชียบางส่วนจะช่วยรักษาโมเมนตัมของการซื้อ-ขายเพชรได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีกระแสใหม่ในโลกจิวเวลรีคือเพชรรีไซเคิล ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งการพัฒนาที่เดินหน้าอย่างรวดเร็วหลังสถานการณ์หลายพื้นที่ดีขึ้น ดังนั้นเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่ายิ่งการจัดการเพื่อให้ผ่านวิกฤติมีคุณภาพมากเพียงใด การพัฒนาในทุกๆ ด้านก็จะพุ่งทะยานตามไปอย่างรวดเร็ว หากยังไม่สามารถจัดการปัญหาและบริหารงานในภาพรวมได้ก็ไม่มีทางที่จะพัฒนาด้านใดด้านหนึ่งอย่างก้าวกระโดดและเดินตามกระแสโลกได้ทันท่วงที มากไปกว่านั้นถ้าเริ่มกลับมาเดินหน้าช้าเกินไปก็มีความเป็นไปได้ว่าจะก้าวไม่ทันโลกไปอีกพักใหญ่ๆ เลยทีเดียว ซึ่งต้องบอกว่าตอนนี้ตลาดเพชรที่เป็นตัวอย่างสำคัญในบริบทนี้เดินหน้าแบบไม่มีเบรกอย่างแท้จริง

 

ข้อมูล:

wwd.com