แม้กาลเวลาหมุนผ่านมานานกว่า 175 ปี แต่เสือแพนเตอร์ที่ก้าวเข้ามาสร้างตำนานเคียงคู่ Cartier ยังคงเป็นอมตะเสมอมา ทั้งยังคอยฉายประกายแสงของเหล่าอัญมณีเม็ดงามที่ประดับอยู่บนจิวเวลรีและเรือนเวลาชิ้นงานสุดล้ำค่าที่ช่างฝีมือของเมซงได้รังสรรค์ขึ้น ช่วงเวลาได้ผ่านมาจนถึงจังหวะที่เหมาะสมแล้วของคาร์เทียร์ที่จะก้าวออกนอกกรอบเดิมๆ เพื่อสร้างสรรค์เหล่าสัตว์ป่าทั้งหลายให้ก้าวขึ้นมาเคียงคู่กับเสือแพนเตอร์แห่งคาร์เทียร์

เมื่อความสง่างามของสัตว์นานาชนิดได้เผยมนต์เสน่ห์ของผืนป่าอันกว้างใหญ่ให้กับเหล่าดีไซเนอร์และช่างฝีมือของคาร์เทียร์ เกิดเป็นชิ้นงานจิวเวลรีสุดไอคอนิกชิ้นใหม่ที่เต็มไปด้วยสีสันและเรื่องราวของสิ่งมีชีวิตในป่าใหญ่ไม่ว่าจะเป็น ยีราฟ, เสือ, ม้าลายและจระเข้ ภายใต้คอลเล็กชั่นจิวเวลรีใหม่ล่าสุดอย่าง Indomptables de Cartier เครื่องประดับในรูปแบบ Tête-à-Tête ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบเซอร์เรียลลิสม์และไฮเปอร์เรียลลิสม์ กำไลข้อมือที่นำเอาจุดเด่นของสัตว์แต่ละชนิดมาประดับเข้าด้วยกันโดยที่ยังมีเสือแพนเตอร์แห่งคาร์เทียร์เป็นราชาผู้ครองบัลลังก์

ซึ่งเสือแพนเตอร์ในคอลเล็กชั่นนี้ยังแฝงไปด้วยความพิเศษกว่าคอลเล็กชั่นอื่นๆ ที่เคยมีมา ผ่านการวาดลวดลายรูปแบบใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากลักษณะทางธรรมชาติของสัตว์ผู้รักสงบอย่างม้าลายและยีราฟ โดยการนำเอาลายพรางขาวดำของม้าลาย และลายจุดสีน้ำตาลทรงเรขาคณิตของยีราฟมาสร้างสรรค์เป็นลวดลายของเสือแพนเตอร์ตัวใหม่ที่ไม่มีใครเหมือน สะท้อนถึงตัวตนแห่งเจ้าป่าที่เต็มไปด้วยสไตล์สุดทันสมัย

‘ม้าลาย’ สัตว์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างลายพรางขาวดำสุดคลาสสิกที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้น ซึ่งในการสร้างงานจิวเวลรีชิ้นใหม่ล่าสุดนี้ คาร์เทียร์ตีความและสร้างสรรค์ความเฉพาะตัวของม้าลายขึ้นมาใหม่ โดยการผสมผสานเข้ากับความดุดันของนักล่าแห่งผืนน้ำอย่าง ‘จระเข้’ ผ่านผิวหนังขรุขระอันเป็นเอกลักษณ์ ประดับลงบนตัวม้าลาย เกิดเป็นสัตว์ป่าที่มีนิสัยรักสงบแต่แฝงไปด้วยความดุดันของนักล่าได้อย่างลงตัว

สัตว์อีกหนึ่งชนิดที่มีเอกลักษณ์สุดโดดเด่นด้วยลำคอที่สูงยาวสะดุดตา พร้อมดวงตากลมโตที่แสดงถึงความเป็นมิตรกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในผืนป่าอย่าง ‘ยีราฟ’ ได้ถูกนำมาเป็นองค์ประกอบสำคัญของป่าแห่งคาร์เทียร์ในครั้งนี้เช่นเดียวกับสัตว์ชนิดอื่น ซึ่งยีราฟในผืนป่าแห่งนี้ถูกนำมาสร้างความโดดเด่นด้านกราฟิกด้วยลายพรางอันเป็นเอกลักษณ์ของม้าลาย ที่ถูกนำมาถ่ายทอดลงบนตัวยีราฟให้มีความสะดุดตามากขึ้น เป็นการท้าทายในการสร้างสรรค์ผลงานที่หลุดจากกรอบเดิมๆ ของคาร์เทียร์อย่างมาก

แม้ป่าผืนนี้จะถูกเติมเต็มไปด้วยเหล่าสัตว์ที่เผยโฉมความเป็นมิตรอยู่เนืองๆ แล้ว คาร์เทียร์ยังได้เติมความสนุกสนานและสีสันแห่งชีวิตลงไปในคอลเล็กชั่นนี้ ผ่านเรื่องราวของสัตว์ผู้ล่าแห่งผืนน้ำอย่าง ‘จระเข้’ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทรงพลังและแฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งคมเขี้ยวที่คอยไล่ล่าเหยื่อตั้งแต่บรรพกาล มาพร้อมกับผิวหนังขรุขระผิวสัมผัสที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นมาให้ตอบรับกับดวงตาอันดุดันของสิ่งมีชีวิตนี้ จระเข้ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยชูความโดดเด่นของจิวเวลรีในคอลเล็กชั่นนี้โดยการหยิบเอาชิ้นส่วนขรุขระที่เป็นเอกลักษณ์ไปประดับลงบนลำตัวของม้าลายและยีราฟนับเป็นผลงานที่โชว์ความขบถทางศิลปะของเมซงได้อย่างมีชั้นเชิง

ในผืนป่าที่คาร์เทียร์ได้สร้างขึ้นมานี้แม้ว่าจะถูกปกครองด้วยราชาอย่างเสือแพนเตอร์ แต่ยังคงเกิดความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ เมื่อเสือแพนเตอร์ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อีกหนึ่งชีวิตที่ต่างหมายปองการก้าวขึ้นเป็นเจ้าแห่งผืนป่าที่จะครอบครองชีวิตของสรรพสัตว์ให้อยู่ใต้อาณัติของตน นับเป็นการประชันหน้ากันของความสง่างามที่พบเห็นได้ยาก ถ่ายทอดผ่านทุกท่วงท่าและอิริยาบถของเสือทั้งสอง เป็นการสร้างตำนานบทใหม่ที่แม้ว่าเสือจะแข็งแกร่งเพียงใด ยังคงต้องพ่ายแพ้ให้แก่เสือแพนเตอร์ผู้เป็นตำนานที่ครองบัลลังก์นี้มากว่า 175 ปี

แม้สัตว์ป่าเหล่านี้จะวนเวียนอยู่ในวัฏจักรแห่งชีวิต แต่มนต์เสน่ห์แห่งผืนป่าก็ได้รวบรวมความสง่างามของสรรพสัตว์บอกเล่าผ่านเครื่องประดับชิ้นงามจากคอลเล็กชั่น Indomptables de Cartier ซึ่งนับเป็นคอลเล็กชั่นที่คาร์เทียร์แหวกขนบและกรอบเดิมๆ ออกมาได้อย่างดีเยี่ยมและลงตัว เกิดเป็นงานประติมากรรมที่ผสมผสานศิลปะ ลวดลาย และงานกราฟิกได้ทันสมัย และมีสไตล์ในแบบฉบับของเมซง สำหรับผู้ที่สนใจในคอลเล็กชั่นนี้สามารถตามไปเลือกซื้อกันได้ที่ www.cartier.com เเละสามารถติดตามเรื่องราวน่าประทับใจของสัตว์ป่าจากคาร์เทียร์ได้ที่วิดีโอด้านล่างนี้