Vogue Thailand

WATCHES & JEWELLERY

บทที่ 2 ของ 'ศิลปะแห่งความสมดุล' ใน Cartier จิวเวลรีชั้นสูงคอลเล็กชั่น 'En Équilibre'

เมื่อสองขั้วตรงกันข้าม ถูกหลอมหลวมเอาไว้ด้วยกัน คอนเซ็ปต์ของเครื่องประดับชั้นสูงที่ท้าทายตามแบบฉบับของเมซง Cartier

โดย Amanda Ampornmaha
31 ตุลาคม 2568

     "En Équilibre" ผลงานเครื่องประดับชั้นสูงประจำปี 2025 จากเมซง Cartier ถ่ายทอดความบริสุทธิ์ของเส้นสายควบคู่ไปกับความแข็งแกร่งของรูปทรง สร้างจังหวะของการเติมเต็มและเว้นว่างได้อย่างกลมกล่อม ทั้งยังโดดเด่นด้วยการใช้สีเฉพาะตัว ตั้งแต่เฉดอ่อนนุ่มไปจนถึงโทนเข้มจัดจ้านที่เปี่ยมด้วยความกล้าหาญ สะท้อนความสามารถในการประสานสิ่งตรงข้ามให้เข้ากันได้อย่างงดงาม คอลเล็กชั่นนี้ถือเป็นบทที่สองของ "En Équilibre" ซึ่งยังคงยึดมั่นในแนวคิดเรื่อง 'ศิลปะแห่งความสมดุล'

     "หนึ่งในโจทย์ท้าทายอย่างแท้จริงสำหรับแผนกเครื่องประดับชั้นสูงของเรา คือการถอดรหัสองค์ความรู้ด้านเทคนิคจากผลงานต้นแบบระดับตำนานที่เต็มไปด้วยควาพิถีพิถันและทักษะช่างฝีมือชั้นสูง แล้วนำมาเนรมิตเป็นผลงานอันเลอค่าที่่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก" Alexa Abitbol ผู้อำนวยการประจำเวิร์กช็อปสร้างสรรค์เครื่องประดับชั้นสูงกล่าว

 

 

Article

SCALERA ประติมากรรมแห่งแสง

แหวนวงนี้ดึงเอามิติความลึกและการเล่นกับความโปร่งใส สีเขียวของมรกตมรกตแซมเบียขนาด 6.12 กะรัตถูกส่งผ่านร็อกคริสตัล ที่ถือเป็นหนึ่งในวัสดุเอกลักษณ์ของ Cartier นับตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 แถบคริสตัลบางเฉียบถูกสอดแทรกอยู่ระหว่างองค์ประกอบแต่ละชั้นมอบสัมผัสอันเบาสบายราวกับเส้นสายของเพชรล่องลอยอยู่กลางอากาศ
นับเป็นบทพิสูจน์แห่งทักษะความชำนาญที่แท้จริงด้วยจังหวะของลวดลายกราฟิกอันแยบยล สะท้อนความงามอันทรงพลังแบบเครื่องประดับจากยุคทศวรรษ 1930 ได้เหนือกาลเวลา

 

 

Article

VETRATA ความสมมาตรและจรัสประกายแสง 

ดาวเด่นของสร้อยเส้นนี้คือเพชรเจียระไนสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 8.15 กะรัต รูปทรงเรขาคณิตรังสรรค์เป็นผลงานอันสง่างามที่ชวนให้นึกถึงเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมแห่งยุคอาร์ตเดโค ช่างผู้ชำนาญของ Cartier ร้อยเรียงเพชรทรงเดียวกันอีกกว่า 20 เม็ดที่เปล่งประกายตัดสลับจังหวะกับออนิกซ์สีดำ สร้างความสมมาตรที่คมชัดและพลังของลวดลายกราฟิก ประกอบกับโครงสร้างทรงโค้งมน ความท้าทายครั้งใหญ่นี้คือการทำให้ชิ้นงานมีความยืดหยุ่นแลดูอ่อนช้อยและสามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย ช่างฝีมือจึงออกแบบกลไกข้อต่ออย่างพิถีพิถันและแม่นยำซึ่งตอกย้ำพลังแห่งความคิดและทักษะชั้นสูงของเมซง

 

 

Article

BYZAS พลังแห่งความแตกต่าง

สร้อยคอเส้นนี้สะท้อนคู่สีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Cartier มานานกว่าศตวรรษ อย่างการเลือกใช้แซปไฟร์เซย์ลอนทรงลูกแพร์ 11.70 กะรัต คู่กับมรกตแซมเบีย 8 เม็ด รวม 9.31 กะรัต การออกแบบเผยลวดลายกราฟิกที่ขับเน้นรูปทรงสี่เหลี่ยมขอบมนของมรกต ผ่านเส้นโค้งเว้าสวนทางกันอย่างมีจังหวะ จี้แซปไฟร์โดดเด่นท่ามกลางเส้นสายสร้อยที่สลับระหว่างพื้นที่ เติมเต็มและช่องว่างเพื่อสร้างสมดุลระหว่างตัวเรือนและอัญมณี ลวดลายโครงสร้างแบบเปิดมอบพลังให้กับชิ้นงาน ส่วนเพชรทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสและทรงเหลี่ยมแบบยาวที่ประดับตามริมขอบช่วยเติมเต็มความสะดุดตา

 

 

Article

HALIADE การเคลื่อนไหวของเกลียวคลื่น

แซปไฟร์สีน้ำเงินเข้มเม็ดเดี่ยวจากมาดากัสการ์ ขนาด 41.85 กะรัต โอบล้อมไปด้วยด้วยประกายระยิบระยับของโครงสร้างทรงเกลียวคลื่น ช่างฝีมือประสานศิลปะการฝังอัญมณีและการประกอบข้อต่ออย่างประณีตแม่นยำเพื่อให้ได้ชิ้นงานที่อ่อนช้อย ยืดหยุ่นแนบรับกับสรีระรอบฐานลำคอได้อย่างพอดี ตัวสร้อยรังสรรค์ขึ้นจากท่อนโลหะประดับเพชรขนาดเล็กที่ร้อยเรียงเป็นเส้นสายทรงโค้งตัดสลับกันกับสีน้ำเงินสดของแซปไฟร์ทรงคาลิบร์ที่มาเพิ่มมิติให้กับดีไซน์ การเลือกใช้โครงสร้างแบบเปิดและการเล่นกับขนาดที่โอบรับอัญมณีเม็ดหลักของสร้อยเส้นนี้พิสูจน์ถึงความเป็นเลิศของช่างฝีมือ

 

 

CAFAYETE มวลวัสดุแห่งสีสัน

ผลงานชิ้นนี้ถือกำเนิดจากการสำรวจพลังของสีสันที่ถ่ายทอดผ่านวัสดุอันล้ำค่า ดังจะได้เห็นจากการจัดวางโอปอลคู่สุดตระการตาไว้ที่ใจกลางของสร้อยเส้นนี้ โอปอลทั้งสองเม็ดเปล่งประกายสีเหลือบรุ้งอย่างงดงามท่ามกลางกรอบของแสงสะท้อนโทนแดง ส้ม และเหลืองจากแซปไฟร์ทั้งสามสี สายสร้อยรังสรรค์ด้วยตาข่ายที่ถักทอจากเยลโลว์โกลด์และโรสโกลด์พร้อมประดับแซปไฟร์อุมบาเพื่อประกายสีที่ดูอบอุ่นละมุนตา ไม่ว่าจะเป็นความสมดุลระหว่างอัญมณีที่เลือกใช้ การเหลือบของเฉดสี และดีไซน์โค้งเว้ารับกับทรงของอัญมณี ทุกองค์ประกอบสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

 

Article

PANTHERES REFLEXIO ขั้วตรงข้ามท่ามกลางสัดส่วนอันสมมาตร

คู่อัญมณีสีตัดกันคือจุดเด่นของสร้อยคอเส้นนี้ ทัวร์มาลีนสีเขียว 74.10 กะรัต และจี้ปะการังสีแดง 14.91 กะรัต ทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างสีแดงและสีเขียวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Cartier มากว่าศตวรรษ ตัดกับความละมุนละไมของบรรดาลูกปัดทัวร์มาลีนทรงบาร็อกที่เรียงตัวเป็นเส้นสายระย้าจากการร้อยด้ายอย่างประณีต เพื่อเสริมความโดดเด่นให้กับคู่สีนี้ คาร์เทียร์เลือกใช้ดีไซน์แบบสมมาตร โดยวางเสือแพนเตอร์สองตัวที่เผชิญหน้ารอจังหวะพุ่งกระโจนเข้าหากัน สัตว์สัญลักษณ์ประจำเมซงทั้งสองโดดเด่นด้วยความสมจริง ไม่ว่าจะเป็นทรวดทรง ลายเส้น ความถูกต้องตามกายวิภาค ดวงตามรกตอันเฉียบคม ลวดลายจุดดำไปจนถึงปลายออนิกซ์ที่อุ้งเท้า ใส่ใจทุกรายละเอียดเพื่อมอบชีวิตให้กับเครื่องประดับเส้นนี้

 

 

Article

NEMOROSA ดุจดอกไม้ที่ผลิบาน

มรกตโคลอมเบียสองเม็ดน้ำหนักรวมกว่า 5.37 กะรัต มอบกลิ่นอายอาร์ตเดโคให้กับเครื่องประดับชั้นสูงที่ผสานความงดงามของพฤกษาและรูปทรงเรขาคณิต เม็ดแรกเจียระไนเป็นทรงลูกแพร์กลายเป็นจี้อันโดดเด่น ส่วนเม็ดที่สองเจียระไนเป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบเอเมรัลด์คัตประดับอยู่ใจกลางดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานซึ่งประดับด้วยเพชร ออนิกซ์ และร็อกคริสตัล การฝังมรกตทั้งสองเม็ดต้องอาศัยความประณีตขั้นสูงสุดเพราะรังสรรค์ด้วยเทคนิคแบบล่องหน ทำให้มรกตดูราวกับลอยอยู่กลางอากาศ กรอบจี้และสายสร้อยประดับประดาไปด้วยเพชรแวววาวตัดกันอย่างลงตัวกับออนิกซ์สีดำซึ่งทำให้เกิดลวดลายที่มีมิติมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าชิ้นงานนี้โดดเด่นสะดุดตาด้วยพลังเปี่ยมอารมณ์อย่างแท้จริง

 

(สามารถอ่านเรื่อง แกะลุคแขกคนสำคัญของ Cartier ในงานกาล่าดินเนอร์ เปิดตัวจิวเวลรีชั้นสูง En Équilibre ได้ที่นี่)

รูปภาพ และ ข้อมูล : Courtesy of Cartier
TAGS : Cartier