WATCHES & JEWELLERY

เจาะลึกความพิเศษของนาฬิกาอัญมณีเรือนหรูที่ถูกออกแบบมาให้ทั้งสวยงามและใส่ได้จริง

เทคนิคการรังสรรค์นาฬิกาที่โดดเด่นทั้งเรื่องกลไกการขับเคลื่อน และเปิดมาตรฐานความสวยงามรูปแบบใหม่จาก Audemars Piguet

     เมื่อพูดถึงการไล่เรียงอัญมณีบนเรือนนาฬิกาหลายคนคงนึกถึงความสวยงามและมูลค่าของเม็ดหินเลอค่าประดับรายล้อมหน้าปัด แต่ถ้ามองถึงเทคนิคการรังสรรค์นาฬิกาจะเห็นความลงตัวระหว่างเรือนนาฬิการุ่นคลาสสิกกับอัญมณีที่สอดประสานกันอย่างลงตัว Audemars Piguet ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่ที่ใส่ใจเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี เพราะความละเอียดลออในการสร้างสรรค์เรือนบอกเวลาแต่ละเรือนล้วนกลั่นออกมาจากกระบวนการคิดของผู้ออกแบบ และการผลิตจากช่างฝีอชั้นครู ที่ได้ผลลัพธ์สุดท้ายเป็นนาฬิกา 2 รุ่นใหม่อย่าง Royal Oak Selfwinding ขนาด 37 มิลลิเมตร

     โมเดล15452 จากโอเดอมาร์ ปิเกต์ถือเป็นนาฬิกาประดับอัญมณีอันมีเอกลักษณ์​เฉพาะตัว ครั้งนี้แบรนด์เลือกนำเสนอนาฬิกาโรยัล โอ๊ค เซลฟ์ไวนด์ดิ้งที่โดดเด่นด้วยหน้าปัดดีไซน์กิโยเช่ กรอบหน้าปัดทรง 8 เหลี่ยม ให้กลิ่นอายความแข็งแกร่งในขณะเดียวก็สอดรับกับการประดับตกแต่งอัญมณี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่แบรนด์นาฬิการะดับโลกล้วนพัฒนาผลงานให้โดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ  โอเดอมาร์ ปิเกต์ ก็เล็งเห็นความสำคัญในจุดนี้และรังสรรค์ผลงานระดับมาสเตอร์ให้แฟนนาฬิกาได้ยลโฉมกันอย่างชัดเจน

     อัญมณีจำนวน 40 เม็ดคือจำนวนที่พอดิบพอดีในการประดับลงบนขอบตัวเรือน และยิ่งอัญมณีที่มาในรูปทรงบริลเลียนคัตยิ่งสอดรับกันอย่างพอดี ซึ่งในโมเดลใหม่ล่าสุดโอเดอมาร์ ปิเกต์ เลือกขัดเหลี่ยมอัญมณีให้เหมาะสมกับเอกลักษณ์ของแบรนด์พอดี ดังนั้นเมื่ออัญมณีจำนวน 40 เม็ดสะท้อนแสงจะเห็นสีแดงส้มและชมพูสะดุดตา จำนวนอัญมณีบนตัวเรือน 124 เม็ดยาวไปจนถึงหมุดเชื่อมสายนาฬิกา จะเห็นถึงแสงทีสะท้อนไล่เฉดสีงดงามราวกับงานศิลปะ บุษราคัม โกเมนและพลอยสเปสซาไทท์สีส้ม (Orange Spessartite Garnet) ที่ถูกจัดวางแบบไล่โทนสี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของรอยัล โอ๊คที่นำเสนอโทนสีในเฉดอบอุ่น



WATCH




     “Perfect Contrast” ความเปรียบต่างระหว่างหน้าปัดกับอัญมณีสรรสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับตัวเรือนโดยรวมได้อย่างดี บริเวณเครื่องหมายตำแหน่ง 12 นาฬิกาของตัวเรือนไวท์โกลด์ประดับเพชรตัดกันดีกับสีโรเดียมของลายกรองด์ ทาพิสเซอรี ส่วนเรือนพิงค์โกลด์ก็โดดเด่นด้วยสีเบจ ส่วนนี้ทำให้นาฬิกาทั้ง 2 เรือนกลายเป็นนาฬิกาโทนโมโนโครมที่มีการสร้างสมดุลความสวยงามด้วยการตัดกันของสีอัญมณีและสายหนังตกแต่งลายซาตินแสดงถึงความลักชัวรีในเวลาเดียวกัน

     สิ่งสำคัญที่สุดอีกจุดหนึ่งของเรือนบอกเวลาสุดหรูหราคือเรื่องกลไก ความพิเศษของแบรนด์นาฬิกาชั้นนำทั่วโลกล้วนมีคาแรกเตอร์แตกต่างกัน วันนี้เราเลือกหยิบนาฬิกา 2 เรือนจากโอเดอมาร์ ปิเกต์มานำเสนอเพราะความไม่ธรรมดาเช่นกัน โดยทั้ง 2 เรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกคาลิเบอร์ 3120 นำเสนอรายละเอียดอันประณีต ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคเซอร์คิวลาร์ เกรนิง (Circular Graining) การขัดเหลี่ยมมุมและเทคนิคขัดลายวงกลมโคตส เดอ เฌแนฟ (Côtes de Genève) ที่บริเวณส่วนบริดจ์ของนาฬิกา (Bridges) อีกทั้งฝาหลังแซฟไฟร์ยังเผยให้เห็น Oscillating Weight ที่รังสรรค์จากทอง 22 กะรัตสลักลวดลายของตราประจำตระกูลของโอเดอมาร์และปิเกต์

     นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดของแบรนด์อย่างอักษรย่อ AP และชื่อแบรนด์ มากไปกว่านั้นทั้ง 2 เรือนยังโดดเด่นเรื่องการใช้งาน เพราะสามารถเก็บพลังงานได้มากถึง 60 ชั่วโมง การเปลี่ยนวันที่แบบ Instant-Jump และมีเมนเพลทที่ทำให้บาลานซ์บริดจ์มั่นคง ซึ่งแสดงให้เห็นว่านี่คือความชำนาญในการรังสรรค์นาฬิกาให้ทั้งสวยงามน่าหลงใหลและใส่ได้จริงอันเป็นนาฬิกาในอุดมคติของสาวๆ หลายคน

WATCH