ย้อนรอยเส้นทางของกระโปรงเทนนิส กระโปรงสุดไอคอนิกจากคอร์ตเทนนิสถึงรันเวย์แฟชั่น
โว้กชวนสาวๆ ย้อนรอยดูเส้นทางอันรุ่งโรจน์ของกระโปรงเทนนิสจากคอร์ตกีฬาสู่ไอเท็มสุดไอคอนิกในโลกแฟชั่น
“แฟชั่นจะวนกลับมาอีกครั้ง” เป็นวลีที่ได้รับการพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่า และล่าสุดด้วยการกลับมาของ “กระโปรงเทนนิส” ไอเท็มแฟชั่นที่ฮิตถล่มทลายจนกลายเป็นเทรนด์ จนหลายๆ คนต้องซื้อไว้ติดตู้และหาไอเดียแมตช์กระโปรงเทนนิสกันให้วุ่น เพราะแม้จะเป็นแฟชั่น Y2K ที่เคยฮิตเมื่อยุค 2000s แต่ความสวยชิกนั้นยังคงอยู่ และยังแมตช์ได้ทั้งสไตล์คุณหนูสุดน่ารัก ไปจนถึงสไตล์สปอร์ตเลยทีเดียว แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าการวนกลับมาใหม่ คือเส้นทางของกระโปรงเทนนิสที่สลัดคราบสปอร์ตแวร์แล้วก้าวออกจากคอร์ตแล้วมาเฉิดฉายในวงการแฟชั่นจนพบเห็นได้ทั่วไป บทความนี้จะพาไปย้อนรอยดูความเป็นมาของกระโปรงเทนนิสจากคอร์ตสู่รันเวย์
ภาพ: Bust
เทนนิสเป็นกีฬาที่อยู่เคียงคู่กับกระโปรง โดยมีประวัติมาตั้งแต่ยุควิกตอเรีย (ช่วงปลายศตวรรษที่ 18) มีภาพวาดในปี 1896 ที่แสดงว่าผู้หญิงในยุคนั้นเล่นเทนนิสด้วยชุดเดรสยาวกรอมเท้าและเต็มไปด้วยรายละเอียด ซึ่งดูไม่คล่องตัวเท่าไหร่นักสำหรับการเล่นกีฬา จนกระทั่งในปี 1922 ก็ได้เกิดเรื่องราวที่เป็นการเขย่าวงการเทนนิส เมื่อ Suzanne Lenglen สวมกระโปรงสั้นระดับหัวเข่า และโพกผมด้วยผ้าพันคอผ้าไหมลงแข่ง Wimbledon จนทำให้สื่อต่างตำหนิว่าไม่เหมาะสม แต่นั่นก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวและการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้น
ลุคเขย่าวงการของ Suzanne Lenglen เป็นไอเดียการออกแบบของ Jean Patou ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Jean Patou (ซึ่งในปัจจุบันคือแบรนด์ Patou) โดยเขาได้กล่าวว่า “การพัฒนาไม่ใช่การปฏิวัติ นั่นคือคติประจำใจของผม” อาจกล่าวได้ว่าโมเมนต์นี้คือจุดที่ทำให้เทนนิสและแฟชั่นได้หลอมรวมกัน จนกระโปรงสั้น กระโปรงจีบ และเสื้อแขนสั้นเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในวงการเทนนิส
แต่นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อวงการเทนนิสต้องสั่นสะเทือนอีกครั้งจากการที่ Gussie Moran ลงแข่งโดยสวมกระโปรงเทนนิสแบบ Miniskirt (และสวมกางเกงลูกไม้ไว้ภายใต้กระโปรง) ทำให้ช่างภาพทั้งสนามต่างรัวชัตเตอร์บันทึกภาพของเธอไม่หยุด ซึ่งลุคนี้ของเธอได้รับการออกแบบจาก Ted Tinling แม้สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นจะกลายเป็นเรื่องอื้อฉาว แต่เมื่อเข้าสู่ยุค 70s ที่กระโปรงเทนนิสเริ่มมีความแฟนซีมากขึ้น Ted Tinling ก็กลายเป็นดีไซเนอร์ที่โดดเด่นที่สุดในวงการเทนนิส
ภาพยนตร์ Clueless ปี 1995
WATCH
ภาพยนตร์ Mean Girls ปี 2004
กระโปรงเทนนิสมีการผันไปตามกระแสนิยมของแต่ละยุคสมัย และเป็นที่นิยมมากขึ้นในช่วงระหว่างยุค 80s – 90s มีการใช้ผ้าเดนิมมาเป็นวัสดุสำหรับผลิตกระโปรง ไปจนถึงวัสดุอื่นๆ ที่หลากหลายมากขึ้น มีการเพิ่มเติมลูกเล่น ดีเทล และสีสันให้กับกระโปรงเทนนิสแบบ Miniskirt มากมาย และเนื่องจากกระโปรงเทนนิสนั้นทั้งสวมใส่สบาย ใช้งานได้อเนกประสงค์ และเป็นการแสดงออกถึงตัวตนของผู้สวมใส่ ทำให้นักเทนนิสหญิงนิยมใส่กระโปรงเทนนิสทั้งในและนอกคอร์ตการแข่งขัน จนทำให้กระโปรงเทนนิสกลายเป็นหนึ่งในแฟชั่น Y2K ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงปลายยุค 90s จนถึงช่วงต้นยุค 2000s
จากซ้าย: MIU MIU, Prada, Balmain, Burberry และ Patou
นั่นแสดงให้เห็นว่าแฟชั่นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับชีวิตของเราเสมอ และแฟชั่นก็ถือกำเนิดขึ้นจากไลฟ์สไตล์หลายๆ อย่างในชีวิตประจำวันของผู้คน ผ่านการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงดีไซน์ไปตามยุคสมัย และจะวนกลับมาใหม่อีกครั้งเมื่อถึงเวลาอันสมควร ดังเช่นในปี 2022 นี้ ที่เราจะเห็นว่าหลายแบรนด์ได้หยิบกระโปรงเทนนิสมาปัดฝุ่น เพิ่มไอเดีย แล้วส่งขึ้นรันเวย์อีกครั้ง ตั้งแต่ MIU MIU, Prada, Balmain, Burberry, Patou และอีกหลายๆ แบรนด์ ทำให้สาวสายแฟ (ชั่น) มีกระโปรงเทนนิสให้สไตลิ่งลุคกันอย่างจุใจ
WATCH