VOGUE SHOPPING

โดนใจสายแฟ (ชั่น) สไตล์ญี่ปุ่น SIAM Takashimaya ขนทัพ 7 แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ที่เดียว

เตรียมไปช้อปกันได้เลย

สายแฟ (ชั่น) คนไหนทั้งรักทั้งหลงแฟชั่นสไตล์ญี่ปุ่นต้องถูกใจอย่างแน่นอน เพราะ SIAM Takashimaya ณ ไอคอนสยาม ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นแท้แบบฟูลสเกลแห่งแรกในประเทศไทย ขนทัพหลากหลาย แบรนด์แฟชั่นส่งตรงจากรันเวย์ญี่ปุ่นมาให้เหล่าบรรดาสาวๆ ได้้ชมได้ช้อปกันอย่างจุใจ ที่สำคัญคือ เอ็กซ์คลูซีฟที่ สยาม ทาคาชิมายะ ที่เดียวเท่านั้นอีกต่างหาก! วันนี้โว้กจะพาไปแนะนำแบรนด์ที่น่าสนใจพร้อมอัพเดทไอเท็มใหม่ๆ จากคอลเลคชั่นล่าสุดของทุกแบรนด์กันด้วยเลยทีเดียว

 

Classic Brand

เราขอเริ่มด้วย 5 แบรนด์ที่นำเสนอความคลาสสิคในสไตล์แบบญี่ปุ่นสมัยใหม่ที่เน้นซิลูเอตเรียบง่ายสวมใส่สบาย ผสมผสานเข้ากับความหรูหรา หากมีกลิ่นอายของความโมเดิร์นเคลือบผสมอยู่อย่างลวดลายแบบใหม่และการจับคู่สี โดยคลาสสิคแบรนด์นี้ประกอบด้วย Jun Ashida, Tae Ashida, Yuki Torii, Muller of Yoshiokubo และ Akira Naka

Jun Ashida (จุน อชิดะ) 

โดดเด่นที่ความหรูหราและสง่างาม เพราะ Jun Ashida แบรนด์นี้มีกลุ่มลูกค้าหลักอย่างภริยาท่านทูต คนในราชวงศ์รวมไปถึงผู้นำต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น เน้นที่คุณภาพในการเลือกเนื้อผ้าและมาตรฐานในการทอผ้าและตัดเย็บตามแบบฉบับแฟชั่นชั้นสูง และแน่นอนในคอลเล็กชั่น AW 2019 นี้ยังคงเน้นที่ความหรูหราดูดี โดยได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านสไตล์ญี่ปุ่นโบราณที่ทำจากงานฝีมือทั้งสิ้น และบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่ลูกอมและขนมหวานที่เคยถูกมอบให้เป็นของขวัญในวันแต่งงานหรือวันเกิดของคนในราชวงศ์นั่นเอง

Tae Ashida (ทาเอะ อชิดะ)

ลูกสาวของ Jun Ashida ออกแบบและแตกไลน์เสื้อผ้าที่เน้นความหรูหราแต่ผสมผสานเทรนด์แฟชั่นในปัจจุบัน เป็นเดย์แวร์ที่เน้นผ้าและลายกราฟฟิคที่สวมใส่ได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีกิมมิคเล็กๆที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่นการใช้ผ้าคาดเอวที่ทำจากหนังนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสมาช่วยขับให้ลุคดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น สำหรับคอลเลกชั่น AW 2019 ได้แรงบันดาลใจจากความหลากหลายของสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงไป สไตล์เสื้อผ้าจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยการนำเอาทั้งวัสดุที่หลากหลายมาปรับใช้ด้วยกันอย่างประณีตและลงตัวมากยิ่งขึ้น



WATCH




Yuki Torii (ยูกิ โทริ) 

Ready to wear ที่โดดเด่นในการเลือกใช้วัสดุและสีที่ตัดกัน เน้นซิลูเอตที่คลาสสิกสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน สำหรับคอลเล็กชั่น AW 2019 นี้มีเอกลักษณ์อยู่ที่การนำเอาวัสดุต่างชนิดมาผสมผสานกันทั้งแบบ Knit, Shaggy บวกกับการตัดเย็บที่พิถีพิถัน ยังรวมถึงการเอา patch work ที่เคยเปิดตัวเมื่อ 25 ปีที่แล้วกลับมาอีกครั้ง พร้อมสีสันที่สดใสให้ลุคที่มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

Muller of Yoshiokubo (มุลเลอร์ ออฟ โยชิโอะคูโบะ)

เอกลักษณ์ของแบรนด์มาจากดีไซน์ของเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้หลายแบบ ก่อนหน้านี้ Yoshio Kubo เคยเป็นผู้ช่วยให้กับดีไซเนอร์ Robert Danes ที่นิวยอร์กมาก่อน ซึ่งนั่นทำให้เขาได้แรงบันดาลใจในการทำเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นแรกๆ มาจากกลุ่มนักเลงในเมืองลอสแอนเจลิส และสำหรับคอลเล็กชั่น AW 2019 เขาได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปนิกชื่อดัง Luis Barragán จากยุคโมเดิร์นที่ฉีกกฎความเรียบเนี้ยบด้วยการใช้สีสันที่ฉูดฉาดเข้ามาสร้างความจัดจ้านในชิ้นงานให้ออกมาในรูปแบบของสไตล์เม็กซิกัน

Akira Naka (อากิระ นากะ)

Akira Naka เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของผ้าถักจากเมือง Antwerp ก่อนที่จะกลับมาสร้างแบรนด์ของตนเองที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2006 โดยแบรนด์ของเขามีเอกลักษณ์ที่ความร่วมสมัยและการผสมผสานหลายสิ่งลงไป โดยคอลเล็กชั่น AW 2019 ได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นเช่น สวนสไตล์ญี่ปุ่นและบ้านในแบบของคนญี่ปุ่น

 

High Street Fashion

มาถึงอีก 2 แบรนด์ที่นำเสนอความเป็นไฮตรีทแฟชั่นได้เป็นอย่างดีกับแบรนด์ Fray I.D และ SNIDEL ที่จับเอาความเป็นสตรีทในปัจจุบันมาตีความใหม่ โดยใช้ผ้าเนื้อดีมารังสรรค์ความคูลและดึงเอาเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ให้เผยออกมาได้อย่างเต็มที่

Fray I.D (เฟรย์ ไอดี)

แบรนด์ไฮสตรีทแฟชั่นที่เน้นกลุ่มวัยรุ่นและความทันสมัยตามเทรนด์แฟชั่น เนื้อผ้าและการตัดเย็บเปี่ยมคุณภาพและสวมใส่สบายได้ทุกวัน โดยคอลเล็กชั่น AW 2019 มาในนิยามของคำว่า Lean and Sensual ที่มีเอกลักษณ์ของความเบาสบาย หากเน้นกระชับที่สัดส่วนของช่วงเอวเป็นพิเศษสื่อถึงความ Sensual ยังมีเครื่องประดับแนว Natural and Antique เลือกใช้โทนสี Depth และยังผสมผสานการเลือกใช้เนื้อผ้าทั้งแบบคอตตอนและลินินเพื่อสร้างลุคที่มีกลิ่นอายวินเทจ

SNIDEL (สไนเดล)

สำหรับแบรนด์ SNIDEL กับคอลเล็กชั่นใหม่นี้ ได้คอนเซปต์มาจาก Oriental Romantica หญิงสาวในชุดซิลูเอตบางเบาและพลิ้วไหวมีความเป็น modernism ตัดกับกลิ่นอายวินเทจเล็กน้อยโดยมีโทนสีพาสเทลในแบบนู้ดและแบบเอิร์ธโทน นอกจากนี้ยังมีเทคนิคพิเศษอย่างการย้อมผ้าแบบพิเศษที่ทำให้ได้โทนสีที่มีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น และการนำวัสดุแบบ Handcraft มาใส่ลงไปในรายละเอียดของเสื้อผ้าในคอลเล็กชั่นนี้ด้วย

 

เต็มอิ่มกับ 7 แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นที่นำเทรนด์โดดเด่นมาเลยใช่ไหม แต่นี่ยังเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของแต่ละแบรนด์เท่านั้น หากสาวๆ คนไหนอยากเห็นฟูลคอลเล็กชั่นของแต่ละแบรนด์ก็ตามไปเช็คลิสต์และอัพเดตเทรนด์กันได้เลยที่ ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้า สยาม ทาคาชิมายะ ณ ไอคอนสยาม ถ.เจริญนคร โทร. 02-0117500 FB: Siam Takashimaya /IG: Siamtakashimayaofficial

 

WATCH

คีย์เวิร์ด: Siam Takashimaya Japanese