VOGUE MORE

VOGUE MORE | สะท้อนตัวตนความปัจเจกไปกับ ‘หมิว-ณัชชา’ ครั้งแรกบนปกดิจิทัลโว้กกับ PRADA

‘หมิว-ณัชชา เตชะมงคลาภิวัฒน์’ ร่วมงานกับโว้กประเทศไทยและ PRADA เป็นครั้งแรกด้วยการถ่ายทอดตัวตนอันเปี่ยมเสน่ห์ผ่านแฟชั่นที่เปิดโลกแห่งความอิสระ

ช่างภาพ: เอกรัชต์ อุบลศรี
สไตลิสต์: สลาลี สมบัติมี
ผู้ช่วยสไตลิสท์: จันทร์จิรา วังอาจ
แต่งหน้า: ปรีชา ดวงเพชร
ทำผม: ภากร สีเสม
โปรดิวเซอร์: อรอุษา สัญหกาญจนานนท์
กราฟิก: ปุญญภรณ์ สีอ่อน 
โมชั่นกราฟิก: ธรรมนูญ เพ็งภักดิ์
ไดเร็กเตอร์วิดีโอ: นาทนาม ไวยหงษ์
ช่างภาพวิดีโอ: จงทรรศ ผจญแกล้ว
ตัดต่อ: ภัทราพร ทองสุข
ฝ่ายโฆษณา: ปัญจรักษ์ จันทนบุปผา

มนต์เสน่ห์ของความมั่นใจและเป็นตัวของตัวเองคือสิ่งสำคัญที่สามารถสะท้อนความโดดเด่นของปัจเจกบุคคลได้อย่างยอดเยี่ยม #VOGUEMORE ในครั้งนี้จึงพาทุกคนสัมผัสกับความยอดเยี่ยมในการตีความเรื่อง ‘Individuality’ ผ่านผลงานแฟชั่นแบรนด์ Prada คอลเล็กชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 โดย Miuccia Prada และ Raf Simons ที่นอกจากจะสวยสะกดตาบนรันเวย์ ยังสามารถต่อยอดนำมาเป็นสัญญะแห่งการแสดงตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ และความอิสระที่ถือเป็นเรื่องสำคัญของคนในสังคมโลกยุคใหม่โดยสมบูรณ์

‘หมิว-ณัชชา เตชะมงคลาภิวัฒน์’ คือนักแสดงสายเลือดใหม่ที่ก้าวขึ้นมามีบทบาทต่อวงการบันเทิงและเริ่มก้าวเท้าสู่แวดวงแฟชั่นอย่างมั่นคง ด้วยศักยภาพและผลงานการแสดงทำให้เธอโดดเด่นอย่างมาก มากไปกว่านั้นในฐานะคนในสังคมโลกยุคใหม่ที่เผยตัวตนผ่านโลกอินเทอร์เน็ต ตัวตนของเธอที่โดดเด่นจึงสอดคล้องกับแนวคอนเซปต์คอลเล็กชั่นฤดูใบผลิ/ฤดูร้อน 2025 ของปราด้า จนทั้ง 2 ฝ่ายโคจรมาร่วมเส้นทางแฟชั่นและแชร์ชุดความคิดแบบเดียวกันบนปกดิจิทัลของโว้กประเทศไทย จุดเริ่มต้นของหมิวกับคาแร็กเตอร์ที่เธอเผยว่า “หมิวเป็นคนร่าเริง ขี้เล่น เข้ากับคนง่าย และเป็นคนที่มีความสุขกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนคิดมาก ขี้น้อยใจ และเป็นคนเจ้าระเบียบขั้น ‘Perfectionist’ ในระดับหนึ่ง” ตัวตนที่เรียบง่ายแต่ซ่อนด้วยความสำคัญและมีระเบียบคือหนึ่งในตัวอย่างของความเป็นปัจเจกบุคคลที่อาจเรียบง่าย แต่ก็ไม่เหมือนคนอื่นเสียทีเดียว

เมื่อคอนเซปต์คือการเปิดกว้างและให้ความใส่ใจกับความเป็นปัจเจกบุคคลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปราด้าจึงนำเสนอผลงานที่เพียบพร้อมด้วยการบอกเล่าสไตล์ผ่านเสื้อผ้าที่สามารถปรับแต่งการสวมใส่ได้อย่างอิสระ นอกเหนือจากนี้ยังนำเสนอกลิ่นอายแฟชั่นหลากรูปแบบจากหลายยุคสมัย รวมถึงหลากหลายบริบทเชื่อมโยงกับแนวทางแฟชั่นของแบรนด์ที่สามารถคลุกเคล้าสิ่งต่างๆ ให้เข้ากันได้อย่างมีเอกลักษณ์และเป็นตัวเองที่สุด ซึ่งหัวใจสำคัญตรงนี้สามารถบ่งบอกถึงชุดระบบความคิดและวิถีชีวิตของผู้เสพงานศิลปะ เรื่อยไปจนถึงผู้ถ่ายทอดมนต์เสน่ห์ของปราด้าได้อย่างเช่นหมิว-ณัชชาคนนี้

เมื่อโว้กถามถึงเรื่องการนำเสนอตัวตนอย่าง ‘Individually’ คอนเซปต์ไอเดียหลักในการนำเสนอความแตกต่างและมีเอกลักษณ์ภายใต้กรอบโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย หมิวกล่าวว่า “หมิวมองว่าในยุคที่ทุกอย่างเปิดกว้างมากขึ้น เรามีโอกาสที่จะได้แสดงความเป็นตัวเองอย่างอิสระ ไม่ใช่แค่ผ่านการแต่งตัว แต่รวมถึงรูปลักษณ์ บุคลิก ทัศนคติ และวิธีแสดงออกต่อผู้อื่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้ หมิวคิดว่าการกล้าที่จะเป็นตัวเองอย่างมั่นใจเป็นสิ่งที่สำคัญมากในยุคนี้ ความแตกต่างไม่ใช่สิ่งที่ต้องปิดบัง แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนควรภูมิใจและนำเสนอสิ่งเหล่านั้นออกมา” เชื่อมโยงถึงเสื้อผ้าของปราด้าในคอลเล็กชั่นนี้ที่โดดเด่นด้วยไอเท็มหลายชิ้นที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีการผสมผสานทั้งเรื่องแพตเทิร์น ซิลูเอต และการตกแต่งรายละเอียดต่างๆ อย่างน่าสนใจ อาทิ เสื้อท็อปและเดรสดอกไม้ กระโปรงและกางเกงลายเข็มขัดประดับหัวเข็มขัดทอง หรือจะเป็นกางเกงตัวจิ๋วที่เปี่ยมด้วยลวดลายสไตรป์หลากสี




ไอเท็มต่างๆ ล้วนมีความแตกต่างและนำพาสาวกปราด้าค้นหาในสไตล์ที่ใช่ หรือจะประกอบในสิ่งที่ชอบให้เป็นสิ่งที่ใช่ด้วยการสไตลิ่งที่ลงตัวในแบบฉบับของตัวเอง ขอบเขตที่ไม่จำกัดแสดงภาพ ‘Free Will’ อันเป็นดั่งหัวใจสำคัญของคอลเล็กชั่น พร้อมด้วยโอกาสอันไร้ขีดจำกัด นวัตกรรมใหม่ๆ หรือแม้แต่สิ่งที่มนุษย์สามารถออกแบบเองได้แบบ ‘Individually’ ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ สวนทางกับเรื่อง ‘Algorithm’ หรือโครงสร้างทางระบบอินเทอร์เน็ตที่กำลังกรอบแนวคิดหรือกระแสบางอย่างให้วิ่งไปในทิศทางเดียวกัน การต่อต้านด้วยความแปลกใหม่ผ่านแนวคิดของมนุษย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ และหมิวก็สะท้อนเรื่องราวเหล่านี้ได้ผ่านการนำเสนอตัวตนในรูปแบบที่สดใหม่และมีความเป็นปัจเจกบุคคลระดับสูงในการร่วมงานกับโว้กและปราด้าในครั้งนี้

นอกจากคอนเซปต์ที่สะท้อนภาพออกมาคล้ายแนวคิดอันร่วมสมัยของหมิวแล้ว คอลเล็กชั่นนี้ยังมีความเชื่อมโยงกับนักแสดงสาวในแง่มิติความสวยงามอีกด้วย การผสมผสานระหว่างความคอนทราสต์ กลิ่นอายของเสื้อผ้าที่มีมิติความแมสคิวลีนแต่ก็เปี่ยมด้วยความเฟมินีนในเวลาเดียวกัน การผสมผสานรวมกันนี้จึงเป็นดั่งตัวอย่างของการนำเสนอตัวตนความเป็นปัจเจกบุคคลอันเป็นหัวใจสาคัญของคอลเล็กชั่นนี้ การผสมผสานรวมกันจึงเป็นดั่งตัวอย่างของการนำเสนอตัวตนความเป็นปัจเจกที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองผ่านแฟชั่นได้อย่างอิสระในหลากหลายรูปแบบ แตกต่างในเชิงบริบท เวลา สถานที่ และอื่นๆ อีกมากมาย แฟชั่นไอเท็มอาจไม่ได้สร้างโลกใหม่โดยสมบูรณ์ แต่การเปิดโอกาสให้คนได้ค้นหาผ่านความหลากหลายคือกุญแจสำคัญ ดั่งที่หมิวกล่าวว่า “คอลเล็กชั่นนี้มีดีเทลที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้ลองอะไรใหม่ๆ เป็นแนวที่หมิวไม่เคยใส่มาก่อน ซึ่งช่วยขยายมุมมองด้านการแต่งตัวของหมิวให้กว้างขึ้นไปอีก เรียกว่าเป็นความคุ้นเคยที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน” โดยไอเท็มชิ้นหลักในคอลเล็กชั่นนี้นอกเหนือจากชุดเดรสหรือกระโปรงที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ยังมีกระเป๋ารัดสายเข็มขัด รองเท้าหนังส้นสูงแบบปิดหน้าเท้า เสื้อเชิ้ต กางเกงขายาวสไตล์งานเทเลอริ่ง หรือจะเป็นบอมเบอร์แจ็กเก็ตที่ทั้งหมดแสดงถึงความหลากหลายด้านสไตล์ ยุคสมัย และการเปิดประตูความอิสระทางแฟชั่นให้แต่ละปัจเจกบุคคลได้เลือกสรรกันโดยแท้จริง

“Best Version of Myself” หมิวนิยามการร่วมงานกับโว้กและปราด้าที่มองเห็นสิ่งที่ดีที่สุดและเปิดโอกาสให้ได้นำเสนอตัวตนใหม่ๆ ที่มีเอกลักษณ์และยังคงความเป็นตัวเองอยู่ การขึ้นปกโว้กครั้งแรกของหมิวจึงเต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ โดยหมิวเสริมว่า “หมิวพยายามถ่ายทอดความเป็นตัวเองออกมาให้มากที่สุด ซึ่งพอได้เห็นผลลัพธ์แล้ว รู้สึกว่าคอลเล็กชั่นนี้ช่วยหมิวในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต้องขอบคุณทางทีมสำหรับโอกาสดีๆ แบบนี้ค่ะ” แน่นอนว่าเราอาจไม่ได้เห็นในเวอร์ชั่นนี้มาก่อน แต่ในขณะเดียวกันการนำเสนอตัวตนแบบเวอร์ชั่นที่ดีสุดผ่านมุมมองที่ไม่ละทิ้งความเป็นตัวเองคือจุดหมายสำคัญในการนำเสนอคอลเล็กชั่นนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และนี่คือครั้งแรกบนปกดิจิทัลของโว้กประเทศไทยของ ‘หมิว-ณัชชา เตชะมงคลาภิวัฒน์’


(สามารถอ่านบทความ VOGUE MORE ได้เพิ่มเติมที่ี่นี่)

WATCH

 
Close menu