เมื่อแรกพูดถึงชื่อของ ‘แอน ทองประสม’ โว้กก็กล้าที่จะการันตีได้เลยว่า ไม่มีใครในประเทศนี้ไม่รู้จักนางเอกดาวค้างฟ้าคนนี้ เพราะไม่เพียงประสบการณ์หลายทศวรรษในสนามแข่งขันของอุตสาหกรรมบันเทิงไทยเท่านั้นที่การันตีความเป็นหนึ่งของผู้หญิงคนนี้ ทว่าความสามารถที่ฉายแสงตั้งแต่ผลงานการแสดงเรื่องแรกเมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่น ก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ แอน ทองประสมก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแถวหน้าของวงการบันเทิงไทย พร้อมสมญานาม ‘เจ้าหญิงแห่งวงการละคร’ ที่ไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วย...

     ทว่าเมื่อช่วง 4-5 ปีให้หลังมานี้ แอน ทองประสม ดูเหมือนจะเป็นเหมือนชื่อที่ถูกแฟนละครหลงลืมไปบ้าง ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากความบ้าดีเดือดและความตั้งใจจริงของเธอที่อยากจะควบตำแหน่งนางเอกในตำนาน ไปพร้อมๆ กับการเป็นคนเบื้องหลัง ในฐานะของผู้จัดละคร ที่แอนออกปากกับโว้กเองว่า “มันช่างนรกเสียเหลือเกิน” เพราะไม่เพียงแค่ช่วงชีวิตคนเบื้องหลังหลายปีจะกลืนกินความสวยงามของเธอในฐานะของดาวหน้ากล้องไปจนเกือบหมด ทว่าเธอยังต้องเจอกับคัลเจอร์ช็อกอีกหลายอย่างที่เปิดโลกให้เธอรู้ว่า “ชีวิตของคนเบื้องหลังนั้นเหนื่อยกว่าที่เราคิด เพราะตอนที่เราอยู่หน้ากล้อง เราไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย เราไม่รู้เลยว่าในขณะที่เรากำลังแต่งหน้าอยู่ หลังบ้านเขากำลังเตรียมอะไร และเราไม่เคยรู้เลยว่าทีมงานเบื้องหลังเขาต้องทำงานก่อนเราหลายเดือน และทำงานหลังเราอีกหลายเดือน” ทั้งหมดนั้นคือบทเรียนที่เข้าปะทะหน้านางเอกมากฝีมืออย่างจังเมื่อเธออยากลองดีหันมาจับงานผู้จัดสักครั้ง แม้ว่าหลายคนจะเตือนเธอแล้วก็ตาม

     เมื่อถามว่าในมิติของการเป็นผู้จัดละครนั้นแอนถือว่าตัวเองประสบความสำเร็จไหม...แอนตอบโว้กทันทีว่า “ประสบความสำเร็จ” ทว่าแอนยังเล่าต่อไปอีกว่า หลังจากเหตุการณ์ที่แอนต้องป่วยหนักจนทรุด นั่นเองคือจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้เธอสัญญากับตัวเองว่าเธอจะไม่กลับไปโหมตัวเองแบบนั้น และนับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เธอหันกลับมาดูแลตัวเอง พร้อมรับละครในฐานะนักแสดงอีกครั้ง

     การกลับมาวาดลวดลายในฐานะของนักแสดงมากฝีมือแห่งยุค 90’s อีกครั้งของแอน ทองประสม ไม่ใช่เรื่องงายอย่างที่ใครคิด แอนให้คำจำกัดความกับโว้กไว้ว่า “มันเหมือนปลาที่เคยอยู่ในน้ำเย็นจัด และกระโดดไปในบ่อน้ำร้อนจัด” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องมาประกบคู่กับเหล่านักแสดงรุ่นน้องที่แจ้งเกิดใหม่ไม่เว้นวัน อีกทั้งเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และการถูกฝึกมาอีกรูปแบบหนึ่งที่แตกต่างจากนักแสดงยุคนี้ ก็ส่งผลอย่างมากต่อการทำงานในวงการบันเทิงของเธอ กระทั่งที่แอนต้องยอมกระโจนลงไปคลุกคลีกับนักแสดงรุ่นใหม่ เพื่อเป็นการยืนยันกับสัญชาตญาณของนักแสดงยุค 90’s อย่างเธอว่า โลกมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

     ความแตกต่างอย่างหนึ่งที่น่าสนใจที่แอน ทองประสม ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้กับโว้กก็คือ การสื่อสารของนักแสดงยุคเก่าและนักแสดงยุคใหม่นั้นไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง ในขณะที่นักแสดงรุ่นใหม่ตรงไปตรงมา ทุกอย่างถูกสื่อสารออกมาเหมือนการเขียนแคปชั่นบนอินสตาแกรม ไม่ต้องอ้อมค้อม นักแสดงรุ่นลายครามอย่าง แอน ทองประสม กลับรู้สึกคุ้นชินกับการสื่อสารแบบอ้อมแอ้มเสียมากกว่า กระนั้นในความคิดของแอน ทองประสม เธอมองว่าขั้วความต่างของนักแสดงต่างยุคสามารถแก้ไขได้ด้วยการรับฟังกันและกัน หลายครั้งที่เธอฟังในสิ่งที่เด็กรุ่นใหม่พูด ดูในสิ่งที่เด็กรุ่นใหม่ดู และก็หลายครั้งที่เด็กรุ่นใหม่มักจะเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาแลกเปลี่ยนเรื่องราวใหม่ๆ กับเธอเช่นกัน

     “แอนมองว่านักแสดงเด็กสมัยนี้ เขาไม่ได้เด็กเท่าเรา เมื่อเทียบกับตอนที่เราเด็กเท่าเขา เพราะโลกที่เขาอยู่มันมรสุมเยอะกว่าเรามาก พวกเขาเลยจะค่อนข้างนิ่ง และมั่นคง ไม่เลอะเทอะเหมือนตอนที่เราเด็กๆ มันคือสกิลในการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน”

     สำหรับแอน ทองประสมแล้ว Passion คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงาน ถ้าไม่มีสิ่งนี้ก็เหมือนไม่มีแรงขับเคลื่อนชีวิตให้ทำอะไรต่อ ซึ่งเธอยอมรับว่าเธอยังสนุก ยังอยากรู้เห็น และอยากสร้างสรรค์ผลงานให้คนอื่นได้ชื่นชมเรื่อยๆ แม้แต่ตามกระแสของโลกที่หมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้นางเอกดาวค้างฟ้ายังให้ข้อคิดไว้ว่า “แอนยังตามโลก แต่ก็ตามโลกเท่าที่แรงเราไหว แต่ก็จะไม่ฝืน เราต้องมีจุดยืนของเรา อย่างเช่นคำแสลงบางคำที่เราไม่รู้จัก เราก็ไม่จำเป็นต้องไปใช้มันหรอก เพื่อทำให้บัญชีอินสตาแกรมเราดูใหม่หรือเก๋ เรารู้ว่าคืออะไร และเราก็แค่เลือกใช้”

     แอน ทองประสม คือนักแสดงหญิงในวงการบันเทิงไทยเพียงไม่กี่คนที่เปลี่ยนตัวเองตามบทบาทที่ได้รับมาแล้วหลายร้อยรูปแบบ เราเห็นเธอคนนี้แต่งองค์ทรงเครื่องตั้งแต่ตัวละครคาแร็กเตอร์ซอมซ่อ ไปจนถึงบทบาทของราชนิกุลและหญิงผู้สูงศักดิ์ จนหลายคนตั้งคำถามว่า จริงๆ แล้วแอน ทองประสม ในชีวิตจริงเป็นอย่างไร...

     “แอนเป็นเด็กไม่รุงรังมาก ชอบแต่งตัวสบายๆ ใช้ชีวิตง่าย จะไม่ใช่สวยโก้แต่ใช้ชีวิตลำบาก เพราะแอนเป็นคนที่ทำงานวันหนึ่งร้อยกว่าอย่าง เพราะฉะนั้นเสื้อผ้าของแอนมันจะต้องไปกับร่างกายระหว่างวัน แต่ถ้าออกงาน เราจะรู้ว่างานนี้มันมีความต้องการของงานประมาณนี้ บางงานเราก็แต่งตัวจัดเต็ม เพราะเรารู้แล้วว่าเขาต้องการพลังงานประมาณนี้ เราก็แค่สวมบทบาทนั้น แต่การสวมบทบาทที่ว่านี้มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนหลอกลวงหรือปลอม เพราะแอนเป็นคนที่เชื่อในทุกบทบาทที่ตัวเองเล่น การนั่งตรงนี้หรือการไปงานวันนั้น มันก็ล้วนแล้วแต่เป็นตัวเราทั้งสิ้น และเป็นตัวเราในรสชาติที่แตกต่างออกไป วันนี้แอนมาในลุค Ralph Lauren ก็เป็นอีกคาแร็กเตอร์หนึ่ง แต่มันก็คือตัวแอน เราแค่อินไปกับทุกอย่างที่มันอยู่ตรงหน้าก็เท่านั้นเอง”

     เกือบ 40 ปีของแอน ทองประสม เธอยอมรับว่ามีบางครั้งที่อยากจะเกษียณตัวเอง มีความรู้สึกอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่เธอก็พยายามสลัดมันออกไปทุกครั้ง แต่เธอก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร เพียงแต่เรารับรู้เอาไว้ แต่เธอคนนี้ก็ยืนยันกับโว้กว่า “แอนยังไปไหว ยังชอบในสิ่งที่ทำ และสุดท้ายแอนเชื่อว่าสัญชาตญาณมันจะบอกเราเองว่าเราควรหยุดตอนไหน...”

     ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของบางช่วงตอนจากบทสัมภาษณ์เต็ม ความยาวเกือบ 20 นาทีที่โว้กได้นั่งจับเข่าคุยกับ แอน ทองประสม นางเอกดาวค้างฟ้าแห่งวงการบันเทิงไทย ถึงทุกมุมมองเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง พร้อมตามไปฟังบทสัมภาษณ์เต็มๆ ของเธอคนนี้ได้ทาง Youtube: Vogue Thailand ในวันที่ 23 ธันวาคม 2022 ที่จะถึงนี้