VOGUE GALA 2020 มาพร้อมคอนเซปต์ร่วมสมัยที่กลายเป็นหัวใจหลักของงานนี้อย่าง “Sustainability” หรือความยั่งยืน ซึ่งทางทีมงานโว้กทุกคนล้วนใส่ใจในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด ทุกองค์ประกอบของงานถูกรังสรรค์มาเพื่อตอบโจทย์และสะท้อนคำว่า “ยั่งยืน” ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ การผันแปรเปลี่ยนของเทรนด์ในยุคนี้ที่ความอลังการสอดคล้องไปได้กับกระแสความยั่งยืนในประเด็นต่างๆ วันนี้เราจะพาย้อนชมกันว่าแง่มุมที่โว้กตั้งใจนำเสนอส่งผ่านออกมาเป็นอย่างไรบ้าง

     เริ่มแรกเมื่อเดินเข้ามาผ่านสตูดิโอถ่ายภาพและงานนิทรรศการจัดแสดงไอเท็มผ้าไทยสำหรับประมูลจากแบรนด์ต่างๆ แล้วมุ่งหน้าสู่บรรยากาศห้องบอลรูมของโรงแรมคาเพลลาแล้ว ทุกท่านจะได้พบกับการตกแต่งดอกไม้ทั้งบนโต๊ะอาหารและบรรยากาศรอบๆ ที่อุดมสมบูรณ์ดูชุ่มฉ่ำมีชีวิตชีวาอย่างยิ่ง และที่สำคัญที่สุดเพื่อให้ล้อไปกับการจัดงานตามความตั้งใจเรื่องความยั่งยืนโว้กจึงหยิบเอาการตกแต่งต้นไม้และดอกไม้ที่สามารถนำไปปลูกหรือเลี้ยงต่อได้ โดยเราจะขอให้แขกภายในงานบริจาคเงินตามที่อยากได้เพื่อน้ำความสดชื่นเหล่านั้นกลับไปชื่นชมต่อที่บ้านได้

     เมื่อชื่นชมกับการตกแต่งจากดอกไม้นานาพันธุ์แล้ว แขกทุกคนจะได้นั่งโต๊ะดินเนอร์สุดพิเศษที่ยังคงล้อคอนเซปต์ไปได้อย่างน่าสนใจ อาหารมื้อพิเศษสำหรับโว้กกาล่าปีนี้เพิ่มมิติให้เลียนล้อไปกับโลกยุคใหม่มากขึ้นโดยฝีมือการรังสรรค์ของเชฟในโรงแรมคาเพลลาที่การันตีด้วยฝีมือ โดยเชฟเลือกใช้วัตถุจากโครงการหลวงทั้งหมด “จากฟรอนต์โรว์แฟชั่นโชว์สู่ยอดเขาสูง ที่ซึ่งผืนดิน สายน้ำ แสงแดด พืชพันธุ์ธัญญาหาร” คือคำนิยามของที่มาวัตถุดิบเหล่านี้ และจากยอดเขาสูงก็ได้มุ่งหน้าสู่สายน้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นสถานที่จัดงานโว้กกาล่าในปีนี้ ดินเนอร์มื้อนี้จึงไม่ใช่แค่อาหารรสชาติอร่อยแต่คือการลิ้มรสการเดินทางอันสวยงามกว่าจะเป็นเมนูดินเนอร์ในค่ำคืนสุดพิเศษ

     เมื่อมีอาหารในมื้อดินเนอร์ที่พิเศษแล้ว ก็ต้องแพริ่งควบคู่ไปกับไวน์ทีมีธีมล้อไปด้วยกัน ครั้งนี้โว้กกาล่าเสิร์ฟไวน์ออร์แกนิกจาก Wine Garage ทั้งไวน์ขาวและแดงควบคู่ไปกับอาหาร ความนุ่มลึกของรสชาติและคอนเซปต์ความออร์แกนิกในตัวไวน์เปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามแห่งวงการเครื่องดื่ม  โดยไวน์การาจเน้นย้ำเรื่องการไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สร้างระบบการจัดการอาหารเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมให้ครบวงจรมากขึ้น ไวน์ขวดต่างๆ ที่แพริ่งกับอาหารจึงให้ความอิ่มเอิบได้เพิ่มเติมจากรสชาติชั้นยอดในตัวเครื่องดื่มเอง

     สุดท้ายคงต้องพูดถึงโปรเจกต์ที่ทางโว้กร่วมมือกับโรงแรมคาเพลลารังสรรค์ “Vogue x Capella Thai Tote” กระเป๋ารุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่นที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมจากหลายชุมชนในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนชุมชม ครั้งนี้ทำให้รู้สึกว่าผ้าไทยโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น เป็นการใช้ผ้าไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด กระเป๋าโท้ตนี้สามารถสะท้อนการมีส่วนร่วมในการใช้ผ้าไทยให้ล้อไปกับยุคสมัยเพราะกระเป๋าผ้าไทยใบนี้จะกลายเป็น “everyday bag” ที่ทำให้ทุกคนได้ใช้แฟชั่นไอเท็มตอบสนองความยั่งยืนได้มากที่สุด ทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบรวมกันที่ทำให้งานโว้กกาล่าประจำปี 2020 ตอบโจทย์ความยั่งยืนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

1 / 13

2 / 13

3 / 13

4 / 13

5 / 13

6 / 13

7 / 13

8 / 13

9 / 13

10 / 13

11 / 13

12 / 13

13 / 13