ย้อนรอยเรื่องราชวงศ์สเปนกับฟุตบอลที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการผลัดยุคและความขัดแย้งทางการเมือง
วงการฟุตบอลสเปนผูกติดกับราชวงศ์อยู่ตลอด การเปลี่ยนแปลงสังคมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่แสดงออกผ่านฟุตบอล
“กษัตริย์ ฟุตบอล ความร้าวฉาน และความยิ่งใหญ่” คำนิยามของประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลสเปนคงจะเป็นแบบนี้ถ้าย้อนรอยกันอย่างเป็นทางการ เราจะเห็นสโมสรหลายต่อหลายแห่งใช้ชื่อคำนำหน้าว่า “Real” อย่างที่คนไทยคุ้นหูก็จะมี Real Madrid, Real Betis, Real Sociedad และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ความสลับซับซ้อนเบื้องหลังกลับทำให้เราอยากย้อนประวัติศาสตร์กลับไปดูว่ากษัตริย์แห่งอาณาจักรสเปนมีอิทธิพลต่อวงการกีฬาและพัฒนาความโดดเด่นด้านนี้ให้ประเทศอย่างไรบ้าง
ถ้วยรางวัล Copa de la Coronación ที่ Athletic Bilbao ถือครองเมื่อได้แชมป์ในปี 1902 / ภาพ: aupaAthletic
คำว่า “Royal” ในภาษาสเปนใช้คำว่า “Real” นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อสโมสรต่างๆ ที่คุ้นหูกันเป็นอย่างดี แต่ความเกี่ยวข้องระหว่างราชวงศ์สเปนกับฟุตบอลเกี่ยวโยงกันมาตั้งแต่เริ่มช่วงปี 1900 เป็นต้นมา ทางทีมฟุตบอลอาชีพนำโดย Carlos Padrós ประธานทีม Athletic Bilbao เสนอให้ตั้งทัวร์นาเมนต์การแข่งขันขึ้น และใช้ชื่อว่า “Copa de la Coronación” เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าอัลฟองโซที่ 13 แห่งสเปน ซึ่งถือเป็นหมุดบันทึกหมุดแรกที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างเป็นทางการว่าฟุตบอลกับราชวงศ์สเปนมีความเกี่ยวโยงกัน
ตราสโมสร Real Club Deportivo de La Coruña สโมสรแห่งแรกที่ได้ใช้ชื่อ Real นำหน้า / ภาพ: Real Club Deportivo de La Coruña
ต่อมาราชวงศ์ทรงให้การอุมปถัมภ์กับสโมสรฟุตบอลเพื่อพัฒนาฟุตในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากทีม Deportivo La Coruña ซึ่งต่อมาเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Real Club (RC) Deportivo La Coruña ซึ่งแสดงถึงการอุมปถัมภ์จากราชวงศ์สเปน และต่อมาก็มีทีมต่างๆ ได้รับชื่อพระราชทานนี้กันอีกหลายทีมอย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ความรุ่งโรจน์ของสโมสรและสัญลักษณ์ของราชวงศ์อย่างมงกุฎถูกใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญของตราสโมสรฟุตบอล จวบจนปัจจุบัน
WATCH
ตราสโมสร Real Madrid ที่นำมงกุฎออกขณะใช้ชื่อ Madrid FC ช่วงระหว่างการทำรัฐประหารในประเทศสเปน / ภาพ: Logos World
ยุคมืดและความโหดร้ายคืบคลานเข้าสู่วงการฟุตบอลผ่านเกมการเมือง ในช่วงปี 1923 สมาชิกราชวงศ์ทั้งหลายทรงอพยพออกจากประเทศเนื่องจากมีการทำรัฐประหาร และเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นในประเทศสเปน นำโดย Miguel Primo de Rivera เหมือนความดำมืดเข้าปกคลุม แรกๆ ยังไม่มีอะไรเกี่ยวพันกับฟุตบอลหรือสัญลักษณ์ของราชวงศ์ในวงการลูกหนังมากนัก แต่ต่อมาในปี 1929 สัญลักษณ์ทุกอย่างหรือแม้แต่สมาชิกราชวงศ์เองก็ถูกถอนรากถอนโคน มงกุฎที่เคยอยู่เด่นเป็นสง่าในตราสโมสรต่างๆ ถูกถอดออกจนเกลี้ยง เหลือเพียงชื่อสโมสรและตราสัญลักษณ์โล้นๆ เท่านั้น
นักเตะทีม Real Madrid ถ่ายภาพร่วมกับสมาชิกราชวงศ์สเปนในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ปี 1956 / ภาพ: The Real Madrid Story
การต่อสู้ของระบอบอันดำมืดด้วยกีฬาผ่านสัญลักษณ์ของราชวงศ์ หลังจากตึงเครียดมานานนับทศวรรษ ผู้นำเผด็จการอย่างนายพลฟรังโก้ก็อนุญาตให้ทีมยักษ์ใหญ่จากเมืองมาริดกลับมาใช้ตราสโมสรที่มีมงกุฎ พร้อมทั้งใช้ชื่อว่าเรอัล มาดริดเช่นเดิม ถึงแม้จะอยู่ในช่วงตึงเครียดแต่สโมสรจากเมืองมาดริด และสโมสรที่มีชื่อว่าเรอัลต่างๆ ยังคงภักดีกับราชวงศ์สเปนอยู่เสมอ ในปี 1956 มีเกมยุโรปสำคัญในเมืองเซอร์แวตต์ เหล่านักเตะต่างบินไปและถ่ายภาพร่วมกับสมาชิกราชวงศ์ ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ในเวลาต่อมา และมันกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้ผู้คนนึกถึงความน่าชังของระบอบเผด็จการฟรังโก้ ฟุตบอลกลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านระบอบอำนาจ และแสดงความภักดีต่อผู้อุปถัมภ์ต่อไป
ตราสโมสร Villarreal ที่มีมงกุฎประดับอยู่ หมายถึง Royal Village อันเป็นที่ตั้งของเมือง / ภาพ: Wiki Library
จะเห็นว่าหลายทีมในสเปนยังมีคงมงกุฎในตราสโมสร และทุกทีมผ่านเหตุการณ์เลวร้ายจากระบอบปกครองและสงครามเดียวกัน ถึงวันนี้ทุกทีมที่เคยมีมงกุฎและได้รับการอุปถัมภ์จากราชวงศ์ก็หันกลับมาใช้ตราสัญลักษณ์อันภาคภูมิใจอยู่เสมอ กษัตริย์ฮวน คาร์ลอสที่ทรงเคยเข้าไปปลุกใจนักเตะเรอัล มาดริดในเกมยุโรปปี 1956 ที่กล่าวไปก็ยังทรงเป็นแฟนบอลทีมจากมาดริดทีมนี้จวบจนปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีสโมสรอย่าง Villarreal ที่มีตรามงกุฎอันสื่อถึงชื่อ “Royal Village” ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่กษัตริย์เจมส์แห่งอารากอนที่ 1 ทรงก่อตั้งขึ้น หรือสโมสร Osasuna ที่ใช้ตรามงกุฎเพื่อสื่อถึงอาณาจักรโบราณที่เมืองของพวกเขาก่อตั้งอยู่ ทั้งหมดมีความเกี่ยวโยงกับประวัติศาสตร์ราชวงศ์สเปนทั้งสิ้น
กษัตริย์อัลฟองโซที่ 3 ผู้ทรงได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นกำเนิดความผูกพันระหว่างกีฬาฟุตบอลกับราชวงศ์สเปนอย่างเป็นทางการ / ภาพ: Harris Turtlelove
เรื่องราวฟุตบอลและราชวงศ์สเปนดูจะเป็นเรื่องที่แยกกันไม่ออก กีฬาเป็นวัฒนธรรมที่ชาวสเปนสืบทอดต่อเนื่องกันมานานนับศตวรรษ เรื่องราวของราชวงศ์ก็เป็นเรื่องที่ผู้คนเคารพนับถือมาโดยตลอด ทั้งนี้สัญลักษณ์ของราชวงศ์ยังกลายเป็นปฏิปักษ์ต่อความไม่ชอบธรรมที่ใครบางคนให้กำเนิดต่อประเทศยุโรปตอนใต้ประเทศนี้ ถึงวันนี้ชื่อเรอัลกลายเป็นชื่อปกติที่ใครหลายคนคุ้นหูแต่มีภาพจำประวัติศาสตร์เลือนลางไป แต่ถ้ากลับไปศึกษาประวัติศาสตร์สักนิดจะพบว่าความยิ่งใหญ่ดังกล่าวมีเรื่องราวเกี่ยวกับราชวงศ์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ข้อมูล:
WATCH