SOCIETY

เปิดทุกเรื่องราวไม่ธรรมดาของ เคต มิดเดิลตัน จากหญิงสามัญชนที่ถูกวางตัวให้เป็นราชินีในอนาคต

รู้หรือไม่ว่า...การพบกันของเคต มิตเติลตัน กับเจ้าชายวิลเลียม ถูกจัดฉากและเตรียมการเอาไว้แล้วอย่างแยบยล...

     เคต มิดเดิลตัน หรือชื่อเต็มว่า แคทเธอรีน เอลิซาเบธ มิดเดิลตัน เกิดในตระกูลนักธุรกิจสามัญชนทั่วไป เป็นลูกสาวคนโตของ นายไมเคิล มิดเดิลตัน และนางแครอล มิดเดิลตัน ทั้งคู่ประกอบธุรกิจในนามของบริษัท "Party Pieces" ซึ่งเป็นบริษัทสั่งสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทางไปรษณีย์เพื่อจำหน่ายในงานปาร์ตี้สำหรับเด็กๆ เคตมีน้องสาวชื่อว่า ฟิลิปป้า และมีน้องชายอีกคนชื่อ เจมส์

     เคตดำเนินชีวิตไม่ได้ผิดแผกหรือแตกต่างไปจากลูกสาวนักธุรกิจคนอื่นๆ มากนัก เธอได้รับโอกาสในการเข้าศึกษาในโรงเรียนประจำดีๆ หลายแห่ง ก่อนที่จะเข้าสู่ระดับอุดมศึกษา เคตเลือกเข้าศึกษาต่อในคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ ณ ประเทศสก็อตแลนด์ ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของเคตนั้นเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน หรือการใช้ชีวิตที่เธอเองเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า "เธอยังเคยต้องทำงานพิเศษเป็นสาวเสิร์ฟค็อกเทลที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเหมือนกับนักศึกษาคนอื่นๆ อีกด้วย"

ข่าวลือของการพบรักที่ถูกวางแผนเอาไว้อย่างแยบยล

     ตลอดช่วงชีวิตหนุ่มสาวในมหาวิทยาลัย เคต มิดเดิลตัน คบหากับเพื่อนชายเพียงคนเดียวนั่นคือ รูเพิร์ต ฟรินช์ ซึ่งทั้งคู่ตัดสินใจจบความสัมพันธ์ในครั้งนั้นลงในช่วงเทศกาลคริสต์มาสประจำปี 2003 ก่อนที่ในช่วงเดือนเมษายน ปี 2004 เคตจะเริ่มสานสัมพันธ์ครั้งใหม่กับเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ อย่างเป็นทางการ และเริ่มกลายเป็นที่จับจ้องของสาธารณชน และสื่อจำนวนมากทั่วโลก เนื่องจากในเวลานั้นพระโอรสทั้งสองของมกุฎราชกุมารแห่งวินด์เซอร์อย่าง เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี่ ถือเป็นหนุ่มฮอตที่เป็นที่หมายปองของสาวคนดังและเซเลบริตี้ทั่วอังกฤษ กระทั่งมีข่าวซุบซิบลงให้เห็นกันทุกวัน

     ความรักของเจ้าชายวิลเลียม และเคต มิดเดิลตัน ดำเนินไปท่ามกลางกระแสข่าวมากมาย หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นภาพหลุดสมัยที่เคตยังเป็นนักศึกษาในชุดเดรสซีทรู ซึ่งเธอสวมใส่เมื่อครั้งขึ้นไปแสดงโชว์ในงานแฟชั่นโชว์ “Art of Seduction'' เมื่อปี 2002 ที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ ภาพถ่ายของเคตในชุดเดรสดังกล่าวถูกนำไปตีข่าวอย่างสนุกสนานว่า “เป็นชุดที่ทำให้เจ้าชายวิลเลียมตกหลุมรักเคตเป็นครั้งแรก” กระทั่งที่พระองค์ทรงยอมเสียเงินจำนวนมากถึง 200 ปอนด์ เพื่อให้ได้ที่นั่งแถวหน้าสุดและได้ยลโฉมหญิงสาวที่เขาตกหลุมรัก กระนั้นหลายสื่อก็ต่างตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการเตรียมการของฝ่ายครอบครัวเคต มิดเดิลตันด้วย ที่จะทำให้ดยุกแห่งเคมบริดจ์ประทับใจในตัวเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน และยังเป็นเรื่องที่เล่าลือกันสนุกปากมาจนถึงทุกวันนี้

งานแต่งงานสุดไอคอนิกแห่งยุค

     ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มชัดเจนในสายตาของประชาชนชาวอังกฤษ เมื่อครั้งที่เคตเดินทางไปร่วมงานประดับยศทางทหารของเจ้าชายวิลเลียมในปี 2008 (หรือหลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานถึง 4 ปีเต็ม) ในครั้งนั้นสื่อหลายสำนักต่างมั่นใจแล้วว่า เคต มิดเดิลตัน คือดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ในอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งข้อสันนิษฐานดังกล่าวก็เป็นจริงตามคาด เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2010 สำนักพระราชวังแห่งอังกฤษมีแถลงการณ์ออกมาอย่างเป็นทางการว่า "เจ้าชายวิลเลียมได้ทรงหมั้นหมายกับหญิงผู้เป็นที่รัก เคต มิดเดิลตันแล้ว ที่ประเทศเคนยา" ก่อนที่ในช่วงเดือนเมษายนปีต่อมา ทั้งคู่จะตัดสินใจเข้าพิธีเสกสมรสกัน ที่ในเวลานั้นนับว่าเป็นงานพิธีเสกสมรสของราชวงศ์อังกฤษที่คนทั่วโลกจับตามองอย่างมาก และเคตก็ไม่ทำให้ผิดหวัง...

     พิธีเสกสมรสในครั้งนั้นได้รับการจารึกเอาไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ของราวงศ์อังกฤษสมัยใหม่ว่าตระการตาและสวยงามราวเทพนิยายก็ไม่ปาน ถูกจัดขึ้นที่่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งเคตได้เลือกสวมใส่ชุดเจ้าสาวฝีมือของ Sarah Burton ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ Alexander McQueen โดดเด่นด้วยซิลูเอตที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุควิกตอเรียน ตกแต่งแขนยาวและปกด้วยผ้าลูกไม้ ส่งให้ชุดนี้ขึ้นแท่นเป็นชุดแต่งงานไอคอนิกบนหน้าประวัติศาสตร์แฟชั่นชุดแต่งงานที่คนทั่วโลกใช้เป็นต้นแบบอย่างแพร่หลาย



WATCH




ครอบครัวเคมบริดจ์แสนอบอุ่น 

     หลังจากเข้าพิธีเสกสมรส เคต มิดเดิลตัน ได้รั้งตำแหน่ง “ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์” และกลายเป็นสมาชิกราชวงศ์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จากทั้งบุคลิกภาพ และการวางตัวในฐานะของสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงที่ได้รับความชื่นชมมาโดยตลอด เจ้าชายวิลเลียม และเคต มิดเดิลตัน สร้างครอบครัวเคมบริดจ์ขึ้นอย่างอบอุ่นและเป็นที่ชื่นชมของสาธารณชน โดยมีพระโอรสและพระธิดารวมทั้งสิ้น 3 พระองค์ อันได้แก่ เจ้าชายจอร์จ, เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และเจ้าชายหลุยส์ตามลำดับ ซึ่งในทุกๆ ปีเราจะได้เห็นฝีมือการลั่นชัตเตอร์ของดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ในโอกาสสำคัญต่างๆ ทั้งโอกาสครบรอบวันประสูติของพระโอรสและพระธิดา หรือกระทั่งบนบัตรอวยพรคริสต์มาสประจำปี ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ประชาชาวอังกฤษต่างรอคอยทุกปี สะท้อนให้เห็นถึงทักษะและความสามารถด้านการถ่ายภาพและความหลงใหลในงานศิละปะภาพถ่ายไม่เสื่อมคลาย กระทั่งที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อุปถัมภ์หอศิลป์ National Portrait Gallery ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

แฟชั่นไอคอนแห่งยุค

     นอกจากความสามารถด้านการถ่ายภาพที่ได้รับความชื่นชมจากเหล่าแฟนคลับราชวงศ์ทั่วโลกแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่กลายเป็นที่จับจ้องก็เห็นจะหนีไม้พัน “การแต่งตัว” ที่ถูกขนานนามว่าเป็นดั่ง “แฟชั่นไอคอนแห่งยุค” ของราชวงศ์อังกฤษปัจจุบันต่อจาก ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ดังที่ล่าสุดเธอได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วบนพรมแดงงานฉายภาพยนตร์ No Time To Die รอบปฐมทัศน์ ณ กรุงลอนดอน ในชุดกระโปรงยาว เย็บตัดต่อเคปด้านหลัง ปักประดับเลื่อมสีทองสุดตระการตาตลอดทั้งชุด โดยฝีมือของ Jenny Packham เมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมา

     สไตล์การแต่งตัวของดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ได้รับการวางแผนและตระเตรียมเป็นอย่างดี เพื่อให้สมกับฐานะของเจ้าฟ้าชั้นสูงแห่งราชวงศ์อังกฤษ เราจึงได้เห็นเคต มิดเดิลตัน ในชุดที่สง่างาม และสวยสะดุดตาอยู่เสมอ จนเกิดเป็นกระแสนิยม Kate’s Effect ที่ทำให้แบรนด์ดังหลายแบรนด์สามารถขายแฟชั่นไอเท็มชิ้นเดียวกันกับที่ดัชเชสเลือกไปสวมใส่หมดได้ภายในเวลาไม่กี่นาที สร้างแรงกระเพื่อมให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างมากทีเดียว กระนั้นดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ก็หาใช่คนที่สุรุ่ยสุร่ายหรือฟุ่มเฟือยกับการแต่งตัวเสียเมื่อไหร่ เพราะหลายครั้งที่เราได้เห็นเธอเลือกหยิบชุดเก่ามาสวมใส่อีกครั้ง ทั้งบนพรมแดงงานสำคัญ ไปจนถึงชีวิตประจำวัน สะท้อนให้เห็นถึง “ความสมถะ” ที่มีอยู่ในตัวตนของเธออย่างเต็มเปี่ยม จนได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อทั่วโลกอย่างล้นหลาม อีกทั้งยังเข้ากับกระแส Sustainability ที่กำลังพูดถึงอย่างเข้มข้นอยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่นทั่วโลกเวลานี้อีกด้วย

จากสามัญชน สู่ 'ราชินีในอนาคต'

     ความนิยมชมชอบในตัวเคต มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พุ่งทะยานถึงจุดสูงสุดเมื่อครั้งที่เธอตัดสินใจเข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายวิลเลียม กระทั่งที่นิตยสาร Time ยังเคยจัดอันดับให้เคต มิดเดิลตัน เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลของโลก3 ปีติดต่อกัน ได้แก่ปี 2011, 2012 และ 2013 ซึ่งสามารถการันตีได้ว่า “เธอคือหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคนหนึ่งบนหน้าประวัติศาสตร์"

     เป็นที่ทราบกันดีว่า เจ้าชายวิลเลียม พระโอรสองค์โตของเจ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์วินด์เซอร์ ทรงถูกวางตัวเอาไว้เป็นประมุขในอนาคตแห่งเครือจักรภพ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์อย่าง เคต มิดเดิลตัน ก็ได้ถูกวางตัวเอาไว้เป็น “ราชินีในอนาคต” เช่นเดียวกัน ตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่เจ้าชายวิลเลียมทรงงานโดยมีเคต มิดเดิลตัน อยู่เคียงข้างพระองค์ ได้สร้างภาพลักษ์ใหม่ให้กับสถาบันกษัตริย์แห่งอังกฤษได้ไม่น้อย ทั้งในแง่ของการเข้าถึงพสกนิกรมากขึ้น, การรับฟังเสียงรอบข้าง หรือกระทั่งการปรับตัวให้เข้ากับโลกสมัยใหม่อย่างทันท่วงที ทั้งหมดนั้นกลายเป็นความคาดหวังสำคัญของประชาชนอังกฤษและประเทศอื่นๆ ในเครือจักรภพว่า เจ้าชายวิลเลียม และเคต มิดเดิลตัน นี่เองที่เป็นความหวังใหม่ของสถาบันกษัตริย์ยุคใหม่อย่างแท้จริง

     และล่าสุดในโอกาสครบรอบ 40 ปี วันคล้ายวันเกิดของราชินีในอนาคต วันที่ 9 มกราคม ปี 2022 ที่ผ่านมา ทางสำนักพระราชวังเคนซิงตันจึงได้เผยแพร่ภาพถ่ายชุดใหม่ล่าสุดจำนวน 3 ภาพของดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ โดยฝีมือของช่างภาพ Paolo Roversi ถ่ายที่ Kew Gardens เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมามีการเปิดเผยว่า เคตมีโอกาสได้ร่วมคิดคอนเซปต์ภาพถ่ายชุดดังกล่าวด้วยตัวเอง โดยผลงานชุดนี้ซ่อนกลิ่นอายภาพถ่ายในแบบของเซซีล บีตัน ช่างภาพคนสำคัญที่รับใช้สถาบันประมุขอังกฤษมาช้านาน ซึ่งสื่อ The Telegraph ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเอาไว้ว่า "ภาพถ่ายทั้งสามนำเสนอเรื่องราวสามช่วงเวลา 'อดีต ปัจจุบัน และอนาคต' โดยภาพถ่ายใบแรกนำเสนอดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ในลักษณะที่คล้ายกับควีนวิกตอเรียในวัยเยาว์ ส่วนภาพถ่ายใบที่สองเป็นภาพโทนสีซีเปียที่มีความเป็นกันเองมากขึ้น เข้าถึงได้ง่าย เพราะเป็นการยิ้มตรงมาที่กล้องด้วยท่าทางที่ชวนให้นึกถึงเจ้าหญิงไดอาน่า และภาพถ่ายใบที่สามเป็นภาพที่ดัชเชสฯ สวมใส่ชุดกระโปรงสีแดง เปี่ยมไปด้วยออร่าของความเป็นสาวสมัยใหม่ สะท้อนให้เห็นถึงช่วงเวลาแห่งอนาคตที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้านี้"...

ข้อมูล : Wikipedia-Kate Middleton, Telegraph UK, Britist Vogue และ Vogue US

WATCH