PRADA Spring/Summer 2025 ฉลองสไตล์แบบปัจเจก พร้อมโอบรับ 'ความน่าเกลียด' อย่างท้าทาย!
มันท้าทายให้คนดูอย่างเราๆ กล้าที่จะสำรวจความงดงามที่อยู่นอกเหนือนิยามเก่า และกล้าที่จะโอบรับความน่าเกลียดและแปลกประหลาด พร้อมกับเฉลิมฉลองพลังของการเป็นตัวของตัวเองโดยไม่ต้องขออนุญาตหรือการรองรับจากใครๆ ผลงานนี้ สวยหรือไม่? น่าเกลียดเพียงใด? บางทีอาจจะทั้งสองอย่าง แต่ถ้าจะมีอะไรที่เราได้ไปจากโชว์นี้ของ Prada ก็คือ การสอนให้เราได้รู้ว่า นิยามของทั้งสองสิ่งนี้ไม่ได้อยู่ไกลกันเลย #PRADA #PRADASS25
Prada เป็นแบรนด์ที่หลงใหลในความขัดแย้งเสมอมา และโชว์ประจำฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ซึ่งนำโดย Miuccia Prada ดีไซเนอร์นักรัฐศาสตร์สาวผู้ลึกลับ และ Raf Simons ผู้ชอบความล้ำสมัย ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง คอลเลกชั่นนี้เหมือนเป็นการเดินผ่านหลายความจริงที่ดำเนินไปพร้อมกัน ทุกลุคเป็นภาพสะท้อนของปัจจุบัน ทั้งยุ่งเหยิง ท้าทาย แต่ก็แฝงไปด้วยความงดงาม คอลเลกชั่นนี้ไม่ได้แค่เล่นกับกระแสที่กำลังมาแรง แต่ยังถอดประกอบและปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นลุคที่ให้ความรู้สึกทั้งความล้ำอนาคตและนึกถึงความหลัง ที่ดูวุ่นวายแต่กลับตั้งใจอย่างมีสไตล์
โชว์เปิดตัวด้วยลุคที่เหมือนหลุดออกมาจากภาพยนตร์ไซไฟ Blade Runner (ภาพยนตร์ในดวงใจของ Simons) เต็มไปด้วยการตัดเย็บคมกริบ เนื้อผ้าที่ให้สัมผัสแบบอุตสาหกรรม และพื้นผิวโลหะที่ทำให้นึกถึงโลกอนาคตที่ดูมืดมน ไม่ใช่ชุดแห่งอนาคตแบบเรียบเท่สุดสลีคเท่านั้น ลุคที่ว่านี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความ "น่าเกลียด" ด้วยขอบชายผ้าที่ดูดิบ โครงเสื้อเล่นวอลูม และลายพิมพ์ที่ขัดแย้งกัน ซึ่งแสดงให้เห็นได้ชัดถึงสไตล์ของ Raf Simons ซึ่งชื่นชอบการรื้อโครงสร้างและเฉลิมฉลองความเป็นปัจเจก ทุกชิ้นเหมือนหลุดมาจากโลกแห่งเทคโนที่ทั้งหม่นหมองและเท่ขรึมไปพร้อมๆ กัน
แต่ความสนุกไม่ได้หยุดแค่นั้น คอลเล็กชั่นยังหักเลี้ยวหมุนกลับอย่างแรงไปสู่แนวคิดที่ Prada ในยุค Alpha น่าจะได้รับมาใช้แบบเต็มๆ อย่าง “Brat Summer” และลองนึกภาพของ Childless Cat Ladies (วาทกรรมเด็ดแห่งปีเพื่อให้นิยามของกลุ่มผู้หญิงหัวสมัยใหม่ในโลกปัจจุบันกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง) กับท่าทีเฮี้ยวๆ ไม่แคร์โลกของพวกเธอบนเสื้อยืดพิมพ์ลายตัวใหญ่ที่จับคู่กับกระโปรงจีบและรองเท้าแพลตฟอร์มหนาๆ ที่ดูเหมือนขโมยจากตู้เสื้อผ้าของวัยรุ่นใจแตก ที่ทั้งดูดื้อรั้น ยุ่งเหยิง และเฉลิมฉลองความเป็นตัวของตัวเองในโลกที่เต็มไปด้วยความพยายามให้เหมือนคนอื่น การผสมผสานระหว่างสไตล์อนาคตแบบดาร์กๆ ของ Raf และความขบถแบบซุกซนของ Miuccia ทำให้คอลเล็กชั่นนี้สนุกและยากจะคาดเดา
ถ้าย้อนกลับไปดูในคลังผลงานเก่าเก็บของ Prada เราจะเห็นร่องรอยแห่งความเป็นตัวของตัวเองที่ไร้ขีดจำกัดกลับมาอีกครั้งในผลงานชิ้นนี้ เราเห็นเส้นสายคล้ายๆ กับงาน “ugly chic” ของ Prada ในยุค 90s ที่เน้นความเหลี่ยม ความบิดเบี้ยวในสัดส่วนที่ดูมีเสน่ห์กลับมาอีกครั้ง ในขณะที่ Raf Simons ก็นำความเป็นกบฏของวัยรุ่นที่เขาชื่นชอบมาปรับใช้ แม้จะดูมืดหม่น แต่ก็มีความโรแมนติกสุดไพเราะในตัวเอง คอลเล็กชั่นนี้ทำให้ทั้งสองนักออกแบบกลับไปหาสิ่งที่เคยทำให้พวกเขาโดดเด่น ขณะที่ก็ยังผลักดันขอบเขตให้ไปสู่ทิศทางใหม่ได้อย่างน่าสนใจ
อุปกรณ์เสริมเพิ่มความ Brat ในคอลเล็กชั่นนี้ก็สร้างมู้ดใหม่ๆ ได้ดี ทั้งกระเป๋าใบใหญ่ในสีสันนีออนและทรงที่ดูจับวางแบบผิดที่ผิดทางแต่ก็เท่ ทำให้เรารู้สึกเหมือนเจอ Prada ในจักรวาลคู่ขนาน รองเท้าแพลตฟอร์มสานส้นหนาที่ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดมาจากยุค 90s กลับมาอีกครั้ง (Thanks God!) พร้อมแว่นตากันแดดทรงตาแมวที่โดดเด่นเพิ่มความ attitude ซ่าส์ก๋าเก๋าเข้าไปเต็มๆ
แต่สิ่งที่อาจทำให้หลายคนถกเถียงก็คือ คอลเล็กชั่นนี้ตั้งใจท้าทายความคุ้นเคยของคนดูอย่างไม่เกรงใจเลย มันไม่ใช่แฟชั่นที่คนทั่วไปจะหยิบไปใส่ได้ง่ายๆ บางครั้งการผสมผสานระหว่างเลเยอร์ที่ยุ่งเหยิงและการตัดเย็บที่ไม่อิงกับความคุ้นเคยใดๆ อาจทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเดินชมงานศิลปะมากกว่าดูเสื้อผ้า แต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้ นี่คือสิ่งที่ทำให้ Prada โดดเด่น ขณะที่คนบางกลุ่มอาจจะรู้สึกว่าคอลเล็กชั่นนี้เข้าถึงยากเกินไป นอกจากนี้ การเน้นที่ความเป็นปัจเจกในทุกลุค แม้จะสร้างความน่าสนใจ แต่ก็อาจทำให้หลายคนรู้สึกว่าไม่มีความเป็นเอกภาพในการเล่าเรื่อง ทุกชุดเหมือนเป็นบทจากเรื่องราวต่างๆ กันไป บางคนอาจต้องการเรื่องราวที่มีความเชื่อมโยงกันมากกว่านี้ แต่ก็นั่นแหละ นี่คือสิ่งที่การเฉลิมฉลองความเป็นปัจเจกในโลกปัจจุบันควรเป็น มันคือความขัดแย้งระหว่างอดีตและอนาคต ความน่าเกลียดและความงาม ที่ Prada นำเสนอได้อย่างชัดเจน
และแน่นอนว่า คอลเล็กชั่นนี้ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นผลงานแฟชั่นที่ทุกคนต้องชอบ แต่มันตั้งใจให้คุณ คิด วิเคราะห์ และแยกแยะ ด้วยการดึงแรงบันดาลใจจากผลงานเก่าของทั้ง Miuccia Prada และ Raf Simons กลับมาผสมผสานความขบถในอดีตเข้ากับอนาคตที่ไม่อาจคาดเดา มันท้าทายให้คนดูอย่างเราๆ กล้าที่จะสำรวจความงดงามที่อยู่นอกเหนือนิยามเก่า และกล้าที่จะโอบรับความน่าเกลียดและแปลกประหลาด พร้อมกับเฉลิมฉลองพลังของการเป็นตัวของตัวเองโดยไม่ต้องขออนุญาตหรือการรองรับจากใครๆ ผลงานนี้ สวยหรือไม่? น่าเกลียดเพียงใด? บางทีอาจจะทั้งสองอย่าง แต่ถ้าจะมีอะไรที่เราได้ไปจากโชว์นี้ของ Prada ก็คือ การสอนให้เราได้รู้ว่า นิยามของทั้งสองสิ่งนี้ไม่ได้อยู่ไกลกันเลย
1 / 49
2 / 49
3 / 49
4 / 49
5 / 49
6 / 49
7 / 49
8 / 49
9 / 49
10 / 49
11 / 49
12 / 49
13 / 49
14 / 49
15 / 49
16 / 49
17 / 49
18 / 49
19 / 49
20 / 49
21 / 49
22 / 49
23 / 49
24 / 49
25 / 49
26 / 49
27 / 49
28 / 49
29 / 49
30 / 49
31 / 49
32 / 49
33 / 49
34 / 49
35 / 49
36 / 49
37 / 49
38 / 49
39 / 49
40 / 49
41 / 49
42 / 49
43 / 49
44 / 49
45 / 49
46 / 49
47 / 49
48 / 49
49 / 49
ภาพ : Filippo Fior / Gorunway.com from Vogue Runway
WATCH