RUNWAY

Gucci Spring/Summer 2025 คอลเล็กชั่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน

Sabato de Sarno อาจต้องเสี่ยงให้มากขึ้น เพื่อปลุกเวทมนตร์ของ Gucci ที่เคยทำให้เราตื่นตาตื่นใจในยุคเก่าก่อนกลับมาอีกครั้ง เราได้เห็นแสงแห่งความเป็นไปได้จากโชว์นี้ และก็ยังคงรอคอยให้ De Sarno จับช่วงเวลา Magic Moment นี้ให้ได้อย่างเต็มกำลัง ตราบใดที่คนทำยังไม่ท้อ คนรอใส่ก็ไม่ทิ้ง อย่างแน่นอน #GUCCI #GUCCISS25 #GucciInstante

     คอลเล็กชั่น Spring/Summer 2025 ของ Gucci โดย Sabato De Sarno ในครั้งนี้ เป็นเหมือนกับการเดินทางผ่านห้วงเวลาและสถานที่ ในช่วง Twilight ที่แสงพระอาทิตย์กำลังจะลับฟ้าบน Sunset Boulevard ด้วยผลงานชิ้นล่าสุดของเขาหลังจากเข้ารับตำแหน่ง Creative Director ของแบรนด์ De Sarno นั้นชัดเจนมากขึ้นในทิศทางที่เขาต้องการพา Gucci ไป โชว์ที่ผ่านๆ มา พิสูจน์แล้วว่าเราไว้ใจเขาได้ในเรื่องของความมีรสนิยมในรูปแบบของการทำโชว์ ทั้งการจัดวาง เพลงประกอบ แคสติ้งและการไล่เรียงลำดับลุคตั้งแต่ต้นจนจบ โดยในครั้งนี้เขาเลือกใช้ Triennale Milano เป็นเวทีที่สะท้อนแสงสีของพระอาทิตย์ตกในช่วงปลายฤดูร้อน เมื่อเหล่านางแบบเดินผ่านห้องที่ถูกแต่งแต้มด้วยเฉดสีขาวนวล เหลือง ส้ม และ Gucci Rosso Ancora ที่ค่อยๆ จางหายไป แต่เบื้องหลังความงดงามแบบที่เราเห็นกันนี้ De Sarno กลับตั้งใจเผยให้เห็นเงาของอดีต Gucci มาฉาบไว้อย่างน่าสนใจ

     ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเงาที่ว่านั้นคือ กลิ่นอายของยุค Tom Ford และดูเหมือนว่า De Sarno เองก็ไม่ได้พยายามหลบหนีจากมันเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขากลับเลือกที่จะโอบรับมันไว้พร้อมกับแนวคิดหลัก "casual grandeur" หรือความหรูหราที่แฝงไปด้วยความไม่เป็นทางการ ความหลงใหลในยุค 90’s ที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งชัดเจนของโครงชุดซิลลูเอตต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกระโปรงทรง A-line กางเกงขาสั้น หรือเสื้อโค้ทตัวโคร่งเล่นวอลูม และชุดราตรียาวผ่าข้าง พาเรากลับไปยังช่วงที่ Gucci ดูคมชัด เซ็กซี่ และไม่ยอมลดราวาศอกกับคำวิจารณ์ใดๆ เลย การเล่นกับงานเทเลอร์คัทคมดูจะกลายมาเป็นพื้นที่ถนัดในการสร้างสรรค์ผลงานของ De Sarno อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในซีซั่นนี้ที่กางเกงทรงสวยจับคู่กับรองเท้าผ้าใบ ที่ดูแล้วเป็นการผสมผสานระหว่างเสื้อผ้าผู้หญิงกับผู้ชายได้อย่างลงตัวเหมือนที่ Tom Ford เคยทำไว้ แต่ในขณะเดียวกัน De Sarno ก็ใส่ความอ่อนโยนและสนุกแบบสปอร์ตแวร์เข้าไปอีกชั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากความร้อนแรงสุดดุดันของ Ford

     การสร้างสมดุลระหว่างการรำลึกถึงอดีตและการก้าวไปข้างหน้าก็เป็นสิ่งที่มีทั้งข้อดีและความท้าทายอยู่ในตัว และมันแสดงออกมาผ่านลุคต่างๆ โดยเฉพาะในลุคผ้าหนังสุดหรูมันวาวที่ยังคงสะท้อนตัวตนของ Gucci ได้เป็นอย่างดี แต่บางขณะเราก็รู้สึกได้ถึงการพยายามควบคุมความเซ็กซี่ ขบถ และแหวกแนวเอาไว้ ด้วยการแอบเผยดีเทลแบบชุดชั้นในผ่านชุดเดรสลูกไม้ เสื้อโค้ตที่ตั้งใจเปิดโชว์ให้เห็นถึงความเย้ายวนอยู่ในที ที่ไม่ได้ดูโป๊จนสุดทาง สนุกจนสุดเหวี่ยง หรือเรียบโก้จนสุดเกร็ง คือความพยายามที่ว่านี้ แต่สิ่งที่ De Sarno ทำได้ยอดเยี่ยมคือการนำเอาสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของ Gucci กลับมาเล่าใหม่ โดยเฉพาะลาย GG Monogram ที่ถูกปรับให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ด้วยงานฝีมือชั้นสูง ทำให้ลวดลายคลาสสิกนี้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

     ดีไซเนอร์หนุ่มผู้ร่าเริงยังคงออกเดินทางสำรวจมรดกของ Gucci ผ่านกระเป๋า Bamboo 1947 ที่ถูกออกแบบใหม่ ซึ่งถือเป็นการแสดงความเข้าใจที่ลึกซึ้งต่อ DNA ของแบรนด์ การใช้ไม้ไผ่เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเครื่องประดับชิ้นใหม่ ทำให้คอลเล็กชั่นนี้ดูมีมิติมากขึ้น รวมถึง Gucci Flora foulard ผ้าพันคอที่กลับมาในสีสันโทนใหม่จากคอลเล็กชั่น สอดคล้องกับธีมของโชว์ ทำให้รู้สึกว่า Gucci กำลังมองหาหนทางใหม่ๆ ที่จะรักษาความคลาสสิกในอดีตไว้ในรูปแบบที่ทันสมัย กลิ่นอายของยุค 90’s ยังคงเด่นชัดอยู่มาก ทั้งในส่วนของรองเท้าทั้งแบบ platforms, creepers, ballerinas และ ankle boots ที่ชู Horsebit มาเป็นสัญลักษณ์หลัก แม้จะชวนให้นึกถึงยุคทองของ Gucci แต่ยังขาดพลังที่สร้างความแปลกใหม่เหมือนในยุค Tom Ford และ Michele ที่เพิ่งจบลงไป แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า De Sarno ต้องการทำให้ผลงานของเขาเข้าถึงง่ายขึ้นและสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน แต่ในทางกลับกัน การเดินทางบนเส้นทางที่คุ้นเคยอาจทำให้บางดีไซน์ดูไม่ท้าทายแฟนๆ ของแบรนด์ที่พร้อมจะเอาใจช่วยและร่วมเดินลุยไปในทิศทางที่ De Sarno จะนำพวกเธอไปเท่าที่ควร

     แน่นอนว่า Gucci ในยุค De Sarno กำลังอยู่ในช่วงค้นหาตัวตน โชว์นี้เป็นเสมือนการคารวะให้กับช่วงเวลาหนึ่งที่จบลงไปแล้ว เป็นการสะท้อนให้เห็นทั้งการเติบโตของแบรนด์และตัวดีไซเนอร์เอง อย่างไรก็ตาม ด้วยความพยายามที่จะรักษาสมดุลระหว่างมรดกของ Gucci และแนวทางที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น De Sarno อาจต้องเสี่ยงให้มากขึ้น เพื่อปลุกเวทมนตร์ของ Gucci ที่เคยทำให้เราตื่นตาตื่นใจในยุคเก่าก่อนกลับมาอีกครั้ง เราได้เห็นแสงแห่งความเป็นไปได้จากโชว์นี้ และก็ยังคงรอคอยให้ De Sarno จับช่วงเวลา Magic Moment นี้ให้ได้อย่างเต็มกำลัง ตราบใดที่คนทำยังไม่ท้อ คนรอใส่ก็ไม่ทิ้ง อย่างแน่นอน 

1 / 55



2 / 55



3 / 55



4 / 55



5 / 55



6 / 55



7 / 55



8 / 55



9 / 55



10 / 55



11 / 55



12 / 55



13 / 55



14 / 55



15 / 55



16 / 55



17 / 55



18 / 55



19 / 55



20 / 55



21 / 55



22 / 55



23 / 55



24 / 55



25 / 55



26 / 55



27 / 55



28 / 55



29 / 55



30 / 55



31 / 55



32 / 55



33 / 55



34 / 55



35 / 55



36 / 55



37 / 55



38 / 55



39 / 55



40 / 55



41 / 55



42 / 55



43 / 55



44 / 55



45 / 55



46 / 55



47 / 55



48 / 55



49 / 55



50 / 55



51 / 55



52 / 55



53 / 55



54 / 55



55 / 55



ภาพ : Courtesy of Gucci from Vogue Runway

WATCH