Gucci Cruise 2025
RUNWAY

Gucci Cruise 2025 คอลเล็กชั่นพลิกเกมของ Sabato de Sarno

ครั้งนี้ Sabato de Sarno เลือกพาทุกคนเดินทางกลับมาสู่รากเหง้าของแบรนด์ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ #GucciLondra #GucciCruise25

     Gucci เผยโฉมคอลเล็กชั่นครูส ประจำปี 2025 ซึ่งนับเป็นคอลเล็กชั่นครูสครั้งแรกของผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์คนปัจจุบันอย่าง Sabato de Sarno ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่แตกออกเป็นสองขั้วชัดเจนเกี่ยวกับคอลเล็กชั่นเปิดตัวที่ผ่านมา รวมไปถึงกระแสข่าวของการคาดการณ์ยอดขายที่ตกฮวบกว่า 40-45 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรกของปี 2024 ซึ่งกำลังถูกพูดถึงอย่างอื้ออึงในวงการแฟชั่น ในฐานะของแบรนด์หัวเรือใหญ่ ผู้สร้างรายได้มากกว่าครึ่งหนึ่งให้กับ Kering ต่อปี ซาบาโตได้ตัดสินใจพาเหล่าสาวกกุชชี่ทุกคนเดินทางกลับมาเยือนรากเหง้าของแบรนด์ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ #GucciLondra สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยจุดประกายให้ Guccio Gucci ได้ริเริ่มก่อตั้งแบรนด์กุชชี่ขึ้น

     คอลเล็กชั่นครูสครั้งแรกของซาบาโตถูกจัดขึ้นที่ Tate Modern Museum ศิลปสถานสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สถานที่ที่เต็มไปด้วยการปะทะสังสรรค์กันทางวัฒนธรรม ความคิด และผู้คน พร้อมนำเสนอเสื้อผ้าภายใต้คอนเซปต์ 'Duality' ที่หมายถึงสองขั้ว ทั้งการพบกันของมนุษย์และธรรมชาติ, ความมินิมัลเรียบง่ายและอารมณ์ความรู้สึก รวมถึงการพบกันของความเป็นอังกฤษและความเป็นอิตาเลียน ส่งผ่านเสื้อผ้าที่หยิบเอาอัตลักษณ์ความเป็นอังกฤษอย่างลวดลายเช็ก (check pattern) มารวมกับงานฝีมือปักประดับเส้นแก้วสุดประณีตแบบอิตาเลียน โดดเด่นด้วยการวางพาเลตต์สี ซึ่งเราต่างรู้กันดีว่าเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่ไหนแต่ไรของซาบาโต รวมไปถึง 'ดอกคาโมไมล์' อีกหนึ่งสิ่งน่าสนใจที่โผล่เข้ามาอยู่ในคอลเล็กชั่นนี้ทั้งลวดลายปักเดินเส้นด้ายและงานปักแบบสามมิติ กอปรกับผ้าชีฟองที่ให้ความพริ้วไหวก็ยิ่งเติมเต็มความโรแมนติกให้กับคอลเล็กชั่นนี้มากขึ้นไปอีกระดับ

     คอลเล็กชั่นนี้ยังรวมเอาปณิธานการออกแบบสำคัญของซาบาโตที่ต้องการทำให้ทุกคนกลับมาหลงรักกุชชี่อีกครั้งไว้ด้วย กับการหยิบเอาชิ้นงานอาร์ไคฟ์สุดไอคอนิกของแบรนด์มาตีความสร้างสรรค์ใหม่ ทั้ง Horsebit บนรองเท้าบัลเลริน่าและเครื่องประดับจิวเวลรี หรือจะเป็นซิลูเอตชุดกระโปรงหนังกลับสีน้ำตาลปั๊มลาย GG โมโนแกรม และไฮไลต์สำคัญอย่างกระเป๋า Gucci Blondie จากยุค 1970s ที่กลับมามีบทบาทอีกครั้งในหลากหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดมหึมาไปจนถึงขนาดกะทัดรัด 

     อาจเรียกได้ว่านี่คือคอลเล็กชั่นพลิกเกมของซาบาโตก็ว่าได้ สไตล์มินิมัลที่มาพร้อมกับงานฝีมือละเอียดยิบ และการก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งแสดงให้เราได้เห็นถึงปณิธานงานออกแบบอันแน่วแน่ และความแปลกใหม่ของงานดีไซน์ ที่แม้ว่าหลายจุดจะยังไม่เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสาวกแบรนด์ แต่หลายอย่างก็ดูเข้าที่เข้าทางมากขึ้น อย่างน้อยที่สุดคือพลังการต่อกรกับแบรนด์คู่แข่งในสนามความมินิมัล ที่ไม่ได้เสิร์ฟแค่งานมินิมัล แต่พ่วงมาด้วยงานฝีมือและการผสมผสานงานสตรีตสไตล์ หรือกระทั่งเทรนด์ Quiet Luxury ซึ่งนับว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว สำหรับ Gucci ในยุคภายใต้การกุมบังเหียนโดย Sabato de Sarno

1 / 55



2 / 55



3 / 55



4 / 55



5 / 55



6 / 55



7 / 55



8 / 55



9 / 55



10 / 55



11 / 55



12 / 55



13 / 55



14 / 55



15 / 55



16 / 55



17 / 55



18 / 55



19 / 55



20 / 55



21 / 55



22 / 55



23 / 55



24 / 55



25 / 55



26 / 55



27 / 55



28 / 55



29 / 55



30 / 55



31 / 55



32 / 55



33 / 55



34 / 55



35 / 55



36 / 55



37 / 55



38 / 55



39 / 55



40 / 55



41 / 55



42 / 55



43 / 55



44 / 55



45 / 55



46 / 55



47 / 55



48 / 55



49 / 55



50 / 55



51 / 55



52 / 55



53 / 55



54 / 55



55 / 55



ภาพ : Vogue Runway

WATCH