Alexander McQueen S/S 2025 คอลเล็กชั่นกล้าเสี่ยงของดีไซเนอร์ใหม่ ที่ยังขาดจิตวิญญาณของแบรนด์
แม้ว่า McGirr จะพัฒนาขึ้นในโชว์นี้ แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้เขาได้ทดลองและเติบโตอีกมาก เสียงวิจารณ์ก็เหมือนสายฝนในลอนดอน ไม่มีทางหนีห่างไปไหน แต่สำหรับคืนนี้ อย่างน้อยเขาก็สามารถป้องกันพายุไว้ได้ในระดับหนึ่ง...ด้วยเงาร่มคันเก่า แต่จะนานแค่ไหนก็คงต้องติดตามกันต่อไป #McQueen #McQueenSS25
โชว์ครั้งที่สองของ Seán McGirr สำหรับ Alexander McQueen ที่ปารีสแฟชั่นวีก ในคราวนี้มาในโลเคชั่นที่เข้าถึงง่ายกว่าครั้งก่อน หลังจากที่เดบิวต์สเตจเปิดตัวที่ทำเอาผู้ชมต่างวิจารณ์กันถึงความยากลำบากในการเข้าถึง (แถมยังต้องตากฝนไปชมโชว์กันอีกด้วย) ครั้งนี้ เขาจำเป็นอย่างยิ่งในการต้องพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่แค่ตัวสำรองชั่วคราวแทน Sarah Burton ผู้ซึ่งบัดนี้มูฟออนไปยังแบรนด์ในตำนานอย่าง Givenchy ตามสเต็ปของ McQueen ผู้ล่วงลับเป็นที่เรียบร้อย (How’s coincidence!?!) โชว์ครั้งนี้ McGirr จึงเลือกจัดใน École des Beaux-Arts สถานที่ที่ทั้งหรูหราและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ซึ่งก็พอทำให้เขาได้โอกาสแก้ตัวเผื่อคำวิจารณ์ที่อาจจะดีขึ้นมาบ้างจากจุดเริ่มต้น
เปิดตัวด้วยสูทเทเลอร์ที่ดูราวกับจะบอกว่า ครั้งนี้เอาจริงเอาจังกับการปรับผลงานมรดกตกทอดของ McQueen มากขึ้นแล้ว หลังจากที่ต้องรับมือกับกระแสคำวิจารณ์ในเชิงลบ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่ McGirr ผู้ที่เข้ามาแทน Sarah Burton ผู้เคยปกครองบ้าน McQueen มานานนับทศวรรษหลังจากการจากไปของ Lee Alexander McQueen ต้องเจอแรงกดดันมหาศาลตั้งแต่เริ่ม และโชว์เดบิวต์ของเขาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะไม่มีใครประทับใจการต้องเดินทางไปโกดังรกร้างนอกเมืองปารีสเพียงเพื่อดูผลงานที่ตั้งใจ “ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม” ชิ้นนั้นไป แต่ McGirr ดูเหมือนจะได้บทเรียน คราวนี้เขาพาคนดูเข้ามาสู่บรรยากาศคลาสสิกของเมืองปารีส พร้อมกับงานดีไซน์ที่เต็มไปด้วยความประณีตมากขึ้น แน่นอนว่า McGirr มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คอลเลคชั่นนี้ดูสมบูรณ์และพร้อมขายมากขึ้น แต่ก็ยังคงกลิ่นอายของความเป็น McQueen เขาเริ่มต้นการทำงานใหม่จากการค้นคว้าในคลังเก็บผลงานของ McQueen โดยเน้นไปที่ซิกเนเจอร์ของ Lee อย่าง "S-bend" ซึ่งนำไปสู่ดีไซน์ปกเสื้อบนชุดสูทที่ดูลื่นไหลแต่เฉียบคมตามที่ทุกคนชื่นชอบและคุ้นเคยกันดีจนกลายมาเป็นเอกลักษณ์สำคัญของแบรนด์ พร้อมๆ กับการตั้งใจคืนชีพให้กับ "Bumster" กางเกงเอวต่ำที่โด่งดัง ก็มาในรูปแบบที่สุภาพมากขึ้น กลายเป็นลุคกางเกงเอวต่ำกับแถบตาข่ายที่เผยให้เห็นความเซ็กซี่ขี้เล่นแบบปล่อยใจสนุกๆ ไม่ได้หวือหวาเหมือนต้นฉบับที่เคยสร้างความฮือฮาไปทั่ว
นอกจากนี้ McGirr ยังดึงแรงบันดาลใจจากรากเหง้าความเป็นไอริชของตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องเล่าจากแม่ของเขาเกี่ยวกับ "Banshee" ซึ่งสะท้อนถึงจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง คล้ายคลึงกับการที่ McQueen เคยดึงอิทธิพลจากวัฒนธรรมเซลติกในอดีตมาใช้ โดยในคอลเล็กชั่นนี้ความมืดมนและโรแมนติกปรากฏให้เห็นชัดเจนในเดรสยาวสีดำที่ปักด้วยลวดลายหนาม ซึ่งเราเคยเห็นกันไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ในงาน Met Gala ที่เขาเคยออกแบบให้ Lana Del Rey ซึ่งหลายคนก็ให้ความเห็นกับชุดนั้นว่า มนต์เสน่ห์ของความเป็นเทเลอร์ลิ่งในแบบ McGirr ก็ยังคงขาดความแม่นยำและชัดเจนในบางจุด ซ้ำและย้ำกับภาพเก่าของแบรนด์แบบไม่ไปไหน แถมยังดูทำไม่ถึงด้วยซ้ำไป
แต่ถ้าจะให้พูดถึงความโดดเด่นของโชว์นี้ ต้องยกให้ส่วนหลังๆ ของโชว์ที่มาพร้อมกับชุดราตรี ซึ่ง McGirr ทำได้ดีกว่าชุดเทเลอร์อย่างเห็นได้ชัด ชุดฟินาเล่ที่ประดับด้วยโซ่เงินเป็นลวดลายตามสรีระร่างกายนั้นสะกดสายตา และทำให้ทุกคนลืมความผิดพลาดในอดีตไปได้ชั่วขณะ นอกจากนี้ยังมีเดรสสีม่วงอ่อนที่ปักด้วยดิ้นเงินดูสวยหวาน และมินิเดรสชีฟองขาวที่แมตช์กับแจ็กเก็ตปักเลื่อมทองก็โก้หรูดูใหม่อยู่ไม่น้อย แต่ถึงแม้จะมีไฮไลต์เด็ดๆ อยู่บ้าง McGirr ก็ยังคงต้องหาจุดยืนของตัวเองให้มั่นคงขึ้นในจักรวาลของ McQueen และก้าวให้พ้นเงาของ Sarah Burton ที่ยังคงส่งเสียงก้องและกังวานในการรักษาจิตวิญญาณของ Lee ไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยการผสมผสานความดราม่าและความเคารพในวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ McQueen ส่วนตัว McGirr แม้จะลองกล้าเสี่ยง(เกินไป) แต่ยังขาดความดิบและความดุดันอันเป็นเอกลักษณ์ที่เป็นพลังสำคัญในการผลักดันให้แบรนด์กลายเป็นโชว์ระดับแกรนด์สแลมอีกครั้งให้ได้
แม้ว่า McGirr จะพัฒนาขึ้นในโชว์นี้ แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้เขาได้ทดลองและเติบโตอีกมาก เสียงวิจารณ์ก็เหมือนสายฝนในลอนดอน ไม่มีทางหนีห่างไปไหน แต่สำหรับคืนนี้ อย่างน้อยเขาก็สามารถป้องกันพายุไว้ได้ในระดับหนึ่ง...ด้วยเงาร่มคันเก่า แต่จะนานแค่ไหนก็คงต้องติดตามกันต่อไป
1 / 46
2 / 46
3 / 46
4 / 46
5 / 46
6 / 46
7 / 46
8 / 46
9 / 46
10 / 46
11 / 46
12 / 46
13 / 46
14 / 46
15 / 46
16 / 46
17 / 46
18 / 46
19 / 46
20 / 46
21 / 46
22 / 46
23 / 46
24 / 46
25 / 46
26 / 46
27 / 46
28 / 46
29 / 46
30 / 46
31 / 46
32 / 46
33 / 46
34 / 46
35 / 46
36 / 46
37 / 46
38 / 46
39 / 46
40 / 46
41 / 46
42 / 46
43 / 46
44 / 46
45 / 46
46 / 46
ภาพ : Daniele Oberrauch / Gorunway.com from Vogue Runway
WATCH