เตรียมเก็บกระเป๋า! อัปเดต 5 โลเคชันน่าเที่ยว จุดเช็กอินใหม่แห่งปี 2025

     ในช่วงเริ่มต้นปีเช่นนี้ หลายๆ คนอาจกำลังเริ่มมองหาวันหยุดในปฏิทิน เพื่อเตรียมวางแผนเดินทางท่องเที่ยวเติมไฟให้กับช่วงต้นปีนี้ แต่หากยังไม่มีไอเดียว่าในปี 2025 นี้ จะเดินทางไปสัมผัสความสวยงามที่ไหนดี บทความนี้โว้กรวบรวมมาให้แล้ว 5 โลเคชันน่าเที่ยว หมุดหมายการเดินทางแห่งใหม่ที่เหล่าคนรักการเที่ยวต้องไม่พลาด ติดตามได้ที่นี่

 

ภาพจาก Ozbalei บน cntravellerme.com

เมืองอัลมาตี้ ประเทศคาซักสถาน

     เริ่มต้นหมุดหมายแรกกันที่เมืองอัลมาตี้ ประเทศคาซักสถาน พื้นที่ภูมิประเทศซึ่งเต็มไปด้วยภาพของวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของเอเชียกลาง สอดคล้องไปกับเสน่ห์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหารรสเลิศ ไลฟ์สไตล์ในยามค่ำคืนที่ไม่หยุดนิ่ง ตลอดจนความงามทางศิลปะและวัฒนธรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ที่เมื่อหลอมรวมแล้วทำให้เมืองแห่งนี้ได้รับสมญานามว่า “Capital of Cool”

     นอกจากความรื่นเริงทางวัฒนธรรมแล้ว อัลมาตี้ยังเป็นเมืองที่คนรักศิลปะไม่ควรพลาด เพราะในเมืองแห่งนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งรัฐ Abilkhan Kasteev ซึ่งเต็มไปด้วยงานศิลปะมากกว่า 20,000 ชิ้น นับเป็นอีกหนึ่งเมืองที่ครบครันและตอบโจทย์สำหรับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

 

 ภาพจาก expedia.co.th

หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย

     อีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในปีนี้คือหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย ซึ่งมีอดีตเป็นพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยากและผิดกฎหมาย แต่เมื่อสถานที่แห่งนี้ได้เปิดให้ผู้คนได้เดินทางไปเยี่ยมชม กลับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสวยงามทางวัฒนธรรม ตลอดจนความครื้นเครงที่เหล่าคนท้องถิ่นเตรียมมอบให้กับเหล่าแขกคนสำคัญที่ได้มาเยือน

     ไม่เพียงความงดงามทางวัฒนธรรมเท่านั้นที่เป็นไฮไลต์ของโลเคชั่นดังกล่าวนี้ แต่ภาพวิวทิวทัศน์ของสถานที่แห่งนี้กลับเป็นเต็มไปด้วยมนต์ขลังที่ทำให้ผู้พบเห็นนั้นต้องตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ หรือบ้านเรือน ล้วนแต่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ตลอดจนชายหาดสะอาดตาที่ทอดยาวจนสุดสายตารอให้เหล่านักเดินทางได้มาสัมผัสสักครั้ง

 

 ภาพจาก National Park บน nationalparksofturkey.com

เทือกเขาคัชการ์ ประเทศตุรกี

     หากต้องการท่องเที่ยวและพักผ่อนแบบใกล้ชิดกับธรรมชาติ หรือหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองหลวง เทือกเขาคัชการ์ ประเทศตุรกี ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์กับเหล่านักเดินทางผู้มุ่งตามหาความสงบทางใจ สถานที่แห่งนี้ถูกรายล้อมไปด้วยเทือกเขาชายฝั่งยาวหลายพันกิโลเมตร และด้วยสภาพอากาศที่ร้อนชื้น ทำให้เทือกเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสมดุลและสมบูรณ์ทางชีวภาพเป็นอย่างมาก

     ในช่วงฤดูร้อนเนินเขาจะปกคลุมไปด้วยดอกไม้ป่า ทำให้พื้นที่นี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเดินป่า ในขณะที่ทุ่งเฮเซลนัทและไร่ชาแสดงให้เห็นถึงผลผลิตชั้นยอดของภูมิภาคนี้ ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ผืนป่าสีเขียวชะอุ่มแห่งนี้ยังถูกย้อมไปด้วยโทนสีเหลืองและน้ำตาลอันเป็นสัญลักษณ์การมาเยือนของฤดูกาลใหม่อีกด้วย และแน่นอนเทือกเขาแห่งนี้ยังเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายของเล่านักเล่นสกีที่ต้องการสัมผัสความท้าทายในช่วงฤดูหนาวอีกด้วย

 

ภาพจาก Alejandro Iglesias บน blog.winesofargentina.com

เมนโดซา ประเทศอาร์เจนตินา

     สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีความหลงใหลในเครื่องดื่มอย่าง “ไวน์” การเดินทางมายังเมนโดซา ประเทศอาร์เจนตินา ถือเป็นการเปิดโลกทางความรู้ที่มีต่อไวน์ได้เป็นอย่างมาก เพราะสถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อและมีชื่อเสียงในฐานะ Paraíso del Vino หรือ “เมืองแห่งไวน์” นั่นเอง เพราะในพื้นที่เมืองนี้เต็มไปด้วยโรงกลั่นไวน์ที่อาจมีมากถึง 1,200 แห่ง และคอยผลิตไวน์ยี่ห้อดังหลากหลายยี่ห้อส่งออกให้กับเหล่านักดื่มอีกด้วย

     ไม่เพียงไวน์จะเป็นดาวเด่นของเมืองเท่านั้น แต่บรรยากาศอื่นๆ ในเมืองยังคงเสริมเสน่ห์ให้เมืองนี้เป็นอีกสถานที่ที่เต็มไปด้วยสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นถนนที่เรียงรายไปด้วยต้นไม้ และท้องฟ้าอันสดใส ตัดเข้ากับภาพทิวทัศน์ที่น่าหลงใหล พร้อมด้วยเทือกเขาแอนดิสที่สูงตระหง่านเป็นฉากหลังของเมือง นอกจากนี้ในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม ยังเป็นช่วงที่มีการจัดเทศกาลอย่าง Fiesta de la Vendimia ทำให้การเดินทางมา ณ ที่แห่งนี้ในช่วงต้นปี ถือเป็นประสบการณ์การท่องเที่ยวที่คุ้มค่าไม่น้อย

 

 

นีอูเอ (Niue)

     ถัดมากับอีกหนึ่งหมุดหมายที่ควรค่าแก่การเดินทางไปสัมผัสสักครั้งในชีวิตอย่าง Niue หรือ นีอูเอ น่านน้ำอันเงียบสงบซึ่งอยู่ระหว่างฟิจิและหมู่เกาะคุก สถานที่ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางทะเลที่พร้อมให้เราได้เดินทางไปสัมผัส ทั้งยังเป็นสถานที่เชื่อมโยงความสวยงามทางธรรมชาติเข้ากับหมู่เกาะอื่นๆ โดยรอบ ทำให้การเดินทางมานีอูเอ เสมือนได้ท่องเที่ยวไปยังหมู่เกาะที่อุดมสมบูรณ์หลายที่ไปพร้อมๆ กัน

     หนึ่งในไฮไลต์ของน่าน้ำนีอูเอนี้คือการถูกประกาศให้เป็นอุทยานทางทะเลอเนกประสงค์ รวมถึงยังเป็นเขตห้ามจับปลาขนาดใหญ่อย่างฉลามแนวปะการังสีเทาและงูทะเลคาตูอาลีซึ่งเป็นสัตว์เฉพาะถิ่น ทำให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับสัตว์ทะเลทั้งหลายอีกด้วย โดยในปลายเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ไม่ควรพลาด เพราะเหล่าวาฬหลังค่อมมักอพยพมายังสถานที่แห่งนี้ เพื่อคลอดลูกวาฬออกมาสู่โลกภายนอก ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวนักท่องเที่ยวอาจได้เปิดประสบการณ์การดำน้ำกับวาฬหลังค่อม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่หาโอกาสทำได้ยาก