LIFESTYLE
ดับร้อนแบบเร้าใจกับ 5 กิจกรรมสุดท้าทายช่วงซัมเมอร์ซัมเมอร์นี้จะไม่มีความจำเจอีกต่อไป! เพิ่มความท้าทายในช่วงซัมเมอร์ด้วยกิจกรรมดับร้อนที่กระตุ้นอะดรีนาลีนกว่าที่เคย |
อะไรคือกิจกรรมดับร้อนในช่วงซัมเมอร์ของคุณ? คำตอบของคำถามนี้อาจจะเป็นการเดินช็อปปิ้งในห้าง ตากแอร์เย็นๆ หรือไม่ก็เป็นการว่ายน้ำที่สระน้ำใกล้บ้าน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่พบได้ทั่วไป แต่ถ้าต้องการให้ซัมเมอร์นี้ดูมีสีสันกว่าทุกปี โว้กขอแนะนำให้เปลี่ยนบรรยากาศ เพิ่มความน่าตื่นเต้น กระตุ้นอะดรีนาลีนในช่วงซัมเมอร์ด้วยกิจกรรมสุดแอ็กทีฟทั้ง 5 อย่างนี้
1. Kayak
เริ่มต้นเบาๆ กับการพายเรือคายัคชมทัศนียภาพอันงดงามรอบด้าน ซึ่งสามารถเลือกพายได้ทั้งทะเล ทะเลสาบ ไปจนถึงแม่น้ำต่างๆ ตามความชื่นชอบของแต่ละคน โดยเรือคายัคมีให้เลือก 2 แบบ คือแบบ Sit-inside ที่ผู้พายจะต้องสอดตัวเข้าไปข้างใน และแบบ Sit-on-top ที่ผู้พายสามารถนั่งด้านบนของเรือได้เลย ซึ่งจะเหมาะสำหรับการท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจมากกว่า นอกจากนี้เรือคายัคยังมีตั้งแต่จำนวน 1 ที่นั่งสำหรับพายคนเดียว จำนวน 2 ที่นั่งสำหรับพายกับคนรักหรือเพื่อนสนิท ไปจนถึงจำนวน 3-4 ที่นั่งสำหรับพายกับครอบครัว ดังนั้นการพายเรือคายัคจึงเป็นกิจกรรมที่ครอบคลุมผู้พายแทบทุกกลุ่ม
ราคา 16,900 บาท
WATCH
2. SUP Board
ท้าทายขีดความสามารถของตัวเองกันอีกนิดด้วยการเล่น SUP Board (Stand Up Paddle Board) หรือบอร์ดยืนพายที่ได้รับความนิยมในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นกิจกรรมที่อาศัยการพายเพื่อชมความงามของผืนน้ำและท้องทะเลคล้ายกับเรือคายัค แต่ก็ต้องอาศัยการทรงตัวที่ดีด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการฝึกฝนการออกตัวและการทรงตัว และเนื่องจาก SUP Board เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การหาผู้ฝึกสอนการเล่น SUP Board นั้นหาไม่ยากอย่างที่คิด แม้ในช่วงแรกของการฝึกจะมีการตกน้ำบ้าง แต่นั่นก็ถือเป็นเร่องปกติของผู้เริ่มต้น และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งความสนุกของ SUP Board เช่นกัน
ราคา 21,295 บาท
3. Surf Board
แอดวานซ์ขึ้นมาอีกขั้นด้วยการเล่น Surf Board หรือการโต้คลื่นที่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าต้องบินลัดฟ้าไปโต้คลื่นที่ต่างประเทศ ซึ่งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเราได้ค้นพบแล้วว่าทะเลของไทยหลายๆ ที่ก็สามารถโต้คลื่นได้สนุกไม่แพ้กัน การโต้คลื่นจำเป็นต้องอาศัยการฝึกฝนที่มากกว่า SUP Board เพราะนอกจากการเริ่มออกตัวและการทรงตัวแล้ว ยังจำเป็นต้องจับคลื่นให้เป็น และเรียนรู้การตกจากบอร์ดให้ถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยด้วย อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทยยังมีคอร์สฝึกการโต้คลื่นแบบรวบรัดสำหรับมือใหม่ที่อยากเปิดประสบการณ์โต้คลื่นขั้นต้น ให้สามารถเรียนรู้พื้นฐานและโต้คลื่นได้ภายใน 1 วัน
ราคา 14,500 บาท
4. Wake Board
ขยับเข้าสู่กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ต้องอาศัยทักษะกีฬาสเกตบอร์ดและความแข็งแรงของร่างกาย กับ Wake Board กีฬาประเภทลากดึงด้วยเรือหรือเจ็ตสกี โดยผู้เล่นต้องจับสายเคเบิลที่ติดกับเรือเอาไว้ให้มั่น พร้อมกับยึดเท้าเข้ากับบอร์ดให้แน่นหนาด้วยอุปกรณ์ยึดจับลักษณะคล้ายรองเท้าบู๊ต โดยเรือจะทำหน้าที่ลากผู้เล่นเพื่อให้ผู้เล่นออกลีลาที่มากกว่าแค่การทรงตัว มีแม้กระทั่งการวางสิ่งกีดขวางคล้ายลายสเกตบอร์ดเพื่อโชว์ลีลาผาดโผนผ่านสิ่งกีดขวางนั้น และเนื่องจากเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีม นอกจากจะต้องได้รับการฝึกฝนอย่างจริงจังแล้ว ผู้เล่นต้องสวมหมวกกันน็อกและเสื้อชูชีพเสมอเพื่อความปลอดภัย กระนั้นมือใหม่ก็สามารถเล่น Wake Board ได้ หากอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ (ซึ่งในไทยเองก็มีหลายที่ที่มือใหม่สามารถเล่นได้)
ราคา 13,000 บาท
5. Kite Surf
ปิดท้ายกันที่ Kite Surf อีกหนึ่งกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมทางน้ำที่ต้องอาศัยทักษะหลากหลาย ทั้งการโต้คลื่น, Wake Board, Windsurf, Paragliding และยิมนาสติก ซึ่งแม้จะเป็นกีฬาประเภทลากดึงแต่ก็มีความแตกต่างจาก Wake Board เพราะเป็นการโต้คลื่นด้วยการใช้ว่าวรับกระแสลมแล้วออกลีลาโลดโผนเหนือท้องทะเล และแน่นอนว่ามีความยากมากกว่าด้วย ดังนั้นผู้เล่นต้องมีพื้นฐานร่างกายที่แข็งแรง รวมถึงได้รับการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญ สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มเล่น Kite Surf ในประเทศไทยเองก็มีหลักสูตรอบรมสำหรับผู้เริ่มต้นซึ่งใช้ระยะเวลา 3 วัน (เป็นอย่างน้อย) ถึงแม้จะใช้เวลาในการเรียนรู้พื้นฐานนานกว่าการโต้คลื่น แต่รับรองว่าความสนุกที่จะได้รับนั้นคุ้มค่าแน่นอน
ราคา 20,000 บาท
ราคา 30,000 บาท
สิ่งสำคัญสำหรับการทำกิจกรรมทั้ง 5 นี้คือความไม่ประมาท ผู้เล่นต้องใส่อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยเสมอ (โดยเฉพาะมือใหม่) และเนื่องจากเป็นกิจกรรมกลางแจ้งในพื้นที่ที่มีรังสียูวีสูง จึงต้องทาครีมกันแดดหรือสเปรย์กันแดดที่มีคุณสมบัติกันน้ำกันเหงื่อเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดช่วงซัมเมอร์ด้วย
WATCH