เปิดประสบการณ์ศิลปะกับ POLY MGM MUSEUM แลนด์มาร์กท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ของมาเก๊า

     สายลมแห่งศิลปะก่อตัวขึ้น ณ ดินแดนมาเก๊า พัดพาความดึงดูดเชิญชวนให้โว้กบินลัดฟ้าจากกรุงเทพสู่มาเก๊าเพื่อสัมผัสกับการเปิดโฉมพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญอันบ่งบอกถึงความล้ำลึกในหลากมิติ ประกอบกับวิธีการนำเสนออันโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ของ MGM โดย MGM MACAU เนรมิตพื้นที่ขนาดใหญ่ภายในโรงแรมให้กลายเป็นสถานที่สำคัญในการมอบความรู้ ประสบการณ์ และความน่าตื่นเต้น ซึ่งคงอัตลักษณ์สำคัญด้านความเกี่ยวข้องกับศิลปะที่โรงแรมเน้นย้ำมาโดยตลอด POLY MGM MUSEUM จึงถือกำเนิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ภายในพื้นที่โรงแรมที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์ทางศิลปวัฒนธรรม

     การเยี่ยมชมเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เดินทางไปถึง ทริปอันน่าตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสโลกแห่งศิลปะผ่านเลนส์ของ MGM กำลังจะเกิดขึ้น แต่ขอเบรกไว้ก่อนและเดินทางข้ามเวลาไปสู่พิธีเปิดพิพิธภัณฑ์อย่างยิ่งใหญ่ โดยการจับมือร่วมกันของ POLY CULTURE และ MGM และ คือปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ที่ผูกโยงเรื่องศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์ ทั้งยังนำเสนอแง่มุมความน่าสนใจทั้งหมดทั้งมวลในพื้นที่ที่ทั้งหรูหราเปี่ยมด้วยศิลปะ และที่ขาดไม่ได้คือความยิ่งใหญ่อลังการทั้งในเชิงกายภาพและในเชิงการเล่าขานของ MGM

     เมื่อฉากม่านสีแดงปลดลงพื้นที่ POLY MGM MUSEUM เผยโฉมอย่างเป็นทางการ เป็นช่วงเถลิงความสำเร็จในการพิพิธภัณฑ์ที่จะทำให้ MGM MACAU แห่งนี้เป็นดั่งศูนย์รวมแห่งวัฒนธรรมประกอบการเรียนรู้ สอดประสานกับแนวทางของมาเก๊า “One Center, One Platform, One Base” ซึ่งนำทางสู่การประทับหมุดบนพื้นที่โลก และเสริมสร้างความน่าสนใจในการถ่ายทอดเรื่องราววิวัฒนาการหลากมิติของประเทศจีน ทั้งยังปูทางสู่การพัฒนาสู่โลกอนาคต โดยเชื่อมโยงเรื่องราวในอดีต ความเป็นปัจจุบัน และสานต่อสู่ภายภาคหน้าด้วยวิถีแห่งศิลปวัฒนธรรมจีนอันทรงคุณค่า

     “MGM รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมจับมือกับ POLY CULTURE เชื่อมประสานทรัพยากรตั้งแต่ศิลปะและวัฒนธรรม การท่องเที่ยว รวมถึงนวัตกรรม สถานที่แห่งนี้จึงเหมือนแลนด์มาร์กและพระราชวังแห่งวัฒนธรรมของแผ่นดินแม่ (ประเทศจีน) มาเก๊าเป็นเส้นทางสำคัญของเส้นทางสายไหมทางทะเล และเป็นจุดเชื่อมประสานสำคัญระหว่างจีนกับโลกสากล” แพนซี โฮ กล่าวในช่วงพิธีเปิด ซึ่งเป็นการกล่าวถึงนิทรรศการ “The Maritime Silk Road – Discover the mystical seas and encounter the treasures of the ancient trade route” ที่จัดขึ้นพร้อมการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

     ย้อนเวลาความประทับใจจากพิธีเปิดสู่ค่ำคืนแสนพิเศษ สำหรับโว้กการท่องโลกข้ามน้ำข้ามทะเลสู่ดินแดนมาเก๊า ความประทับใจแรกคือการสัมผัสบรรยากาศอันผูกโยงกับโลกศิลปะของ MGM ก่อนจะได้ก้าวเท้าประสานเข้าสู่พิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ล่าสุด เพียงยังไม่ทันก้าวเข้าสู่โซนแรกก็จะพบกับงานศิลปะบนจอภาพเคลื่อนไหวที่นำเสนองานศิลปะผ่านสี รูปทรง และเทคโนโลยีได้อย่างน่าตื่นเต้น หลังจากนั้นไม่นานก็พบกับจอแสดงภาพขนาดใหญ่ที่เล่าเรื่องราวในอดีตตั้งแต่จุดเริ่มต้นและความสำคัญของเส้นทางสายไหม รวมถึงการเผยโฉมเทคโนโลยี AI ที่ทำให้ผู้ชมสามารถสัมผัสประสบการณ์ได้แบบอินเตอร์แอ็กทีฟ ทั้งหมดคือจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ในการจัดแสดงนิทรรศการ จอแสดงภาพลื่นไหล ตัวเลือกในการเสนอข้อมูลแบบ 3 มิติ การจัดวางโครงสร้างที่จอและผนังสำหรับมอบประสบการณ์สุดพพิเศษ เรื่อยไปจนถึงการตัวยึดไม้ประดับเสาจีนโบราณ (Dougong) ที่เน้นงานหัตถศิลป์จีนดั้งเดิมที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งผสมผสานเทคนิคการตกแต่งด้วยเคลือบและรูปแบบศิลปะจีนดั้งเดิมสอดผสานกับเทคนิคงานอินาเมลไว้อย่างลงตัว

     ความประทับใจแรกคือความตื่นเต้นกับความแปลกใหม่ที่ได้จากการชมพิพิธภัณฑ์ที่พร้อมนำเสนอประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรมอันเก่าแก่ ต่อมาคือการร้อยเรียงเรื่องราวที่เหมือนกำลังถ่ายทอดเรื่องเล่าในอดีตเชื่อมโยงถึงปัจจุบันและต่อยอดสู่อนาคต แบ่งเป็น 4 ตอน ได้แก่ Monsoon กับการนำเสนอความเข้าใจในการเดินเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาของมวลมนุษย์เพื่อเข้าสู่เส้นทางการสำรวจเต็มรูปแบบ จุดตั้งแต่ของเส้นทางสายไหมกำลังจะเริ่มขึ้น ซึ่งเริ่มพร้อมกับแบบจำลองเรือขนาดใหญ่หลายรูปแบบที่สะท้อนให้เห็นถึงรากฐานการค้นพบสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์โลก

     เมื่อมีการเดินทางย่อมมีจุดหมาย จุดหมายบนเส้นทางสายไหมกับความสำคัญของจีนคลุกเคล้ากันจนเป็นรากฐานวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์ ซึ่งจุดเริ่มมาจากการศึกษาทางโบราณคดี หลักฐานทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเครื่องชามพอร์ซเลนและงานฝีมือรูปแบบต่างๆ ถูกค้นพบและเจาะลึกเพื่อสะท้อนภาพประวัติศาสตร์ของเส้นทางสายไหม สรุปรวบยอดเป็นตอนที่ 2 ภายใต้ชื่อ Cultural Origin ก่อนผสานเรื่องราวท้องถิ่นเข้ากับวัฒนธรรมและการพัฒนาของสากลโลกกับคอนเซปต์ตอนลำดับที่ 3 Integration ปิดท้ายตอน 4 Connections กับการสร้างแนวทางสู่อนาคตด้วยงานศิลปะที่สะท้อนรูปแบบของสิ่งบันทึกและย้อนกลับสู่หน้าประวัติศาสตร์ด้วยผลงานทั้งภาพถ่าย สารคดี และศิลปะจัดวางในมิติต่างๆ ที่ร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น

     เมื่อเดินครบทุกส่วนของการจัดแสดงนิทรรศการแล้วไฮไลต์ที่ฉายแสงสะดุดสายตาก็มีหลายชิ้น ซึ่งระหว่างห้วงอารมณ์ความหลงใหลในการเดินทางบนเส้นทางสายไหมผ่านนิทรรศการรูปแบบ ‘Immersive’ สิ่งของหลายชิ้นก็ชวนให้กลับไปชมแบบใกล้ชิดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นชุดหัวสัตว์สำริดตามนักษัตรจีนจากพระราชวังฤดูร้อนหยวนหมิงหยวน ซึ่งปัจจุบันมีการค้นพบและรวบรวมได้เพียง 7 ชิ้นจากทั้งหมด 12 ชิ้น โดยในนิทรรศการนี้มีการจัดแสดง 4 ชิ้น พร้อมการจัดวางที่บ่งบอกถึงความสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์จีนเรื่อยไปจนถึงประวัติศาสตร์สากล หรือจะเป็นเข็มทิศโบราณดั้งเดิมจากราชวงศ์ชิงที่เป็นเครื่องมือล้ำสมัยในอดีตที่ทำให้การเดินเรือเกิดขึ้นและเกิดเป็นปรากฏการณ์เส้นทางทางวัฒนธรรม การค้า และศิลปะที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้งานฝีมือจากราชวงศ์ซ่งที่ปรากฏเอกลักษณ์ทั้งรายละเอียดการตกแต่ง รูปทรง และเทคนิคการรังสรรค์อย่างโดดเด่น

     หากจะกล่าวว่าการพัฒนาเชิงศิลปะ วัฒนธรรม และสังคมถูกถ่ายทอดผ่านเรื่องราวที่นำเสนอใน POLY MGM MUSEUM ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ อาจไม่ใช่เช่นนั้น แต่ต้องบอกว่านี่คือการผสานโลกแห่งความเก่าแก่อันมีนัยสำคัญทางประวัติศาสตร์เข้ากับการนำเสนอด้วยเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ พร้อมบรรยากาศที่คลุกเคล้าทั้ง 2 มิติเข้ากันอย่างลงตัว จังหวะการเดินชมไปรอบๆ เหมือนหลุดเข้าไปในภวังค์เรื่องราวอันน่าทึ่ง แม้แต่จังหวะก้าวเท้าออกจากส่วนจัดแสดงดูเหมือนว่าผู้เขียนกำลังรู้สึกถึงการสิ้นสุดของเส้นทางสายไหมทางทะเลอย่างไรอย่างนั้น

     MGM MACAU กำลังจะกลายเป็นแลนด์มาร์กทางศิลปะที่สำคัญ ไม่เพียงแต่ในมาเก๊าหรือระดับภูมิภาค แต่อาจหมายถึงระดับโลก เพราะการริเริ่มพัฒนาแนวทางพิพิธภัณฑ์รูปแบบใหม่จะกลายเป็นต้นแบบสำคัญในการเลือกสรรค์เทคนิคการนำเสนอที่มีความหลากหลายและน่าสนใจยิ่งขึ้น ประจวบเหมาะกับแนวทางของ MGM ที่มุ่งเน้นด้านศิลปะอย่างชัดเจน นอกจาก MGM MACAU ยังมี MGM COTAI ที่เป็นดั่งบ้านหลังใหญ่ของงานศิลปะเลอค่าจำนวนมาก จนถึงวันนี้เมื่อหันหลังเดินทางกลับสู่ประเทศไทย ประสบการณ์ที่มาเก๊ายังคงตราตรึงและชวนให้นึกถึงความพิเศษเหนือระดับที่เกิดขึ้น ความยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นเหล่านี้คือคำตอบว่าทำไม POLY MGM MUSEUM จึงจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางวัฒนธรรมที่มาเก๊ากำลังดำเนินตามแนวทางอยู่ในขณะนี้