Go far + Stay Here : สงขลา + เสาชิงช้า - ท่าเตียน

มาเริ่มกันที่ สงขลา เมืองเก่า

มีคนบอกว่าย่านเก่าเมืองสงขลาเป็นศูนย์รวมความเป็นกันเองอย่างที่หลายคนนึกไม่ออก อาจจะเป็นเพราะว่าเมืองนี้เกิดขึ้นจากวัฒนธรรมผสมผสานจาก ไทย จีน และอิสลาม ผู้คนต่างภาษาต่างวัฒนธรรมแต่มาอยู่รวมกัน ความเห็นอกเห็นใจและความสามัคคีจึงกลายเป็นแกนหลักของชุมชนนี้ ผู้คนที่นี่จึงเป็นของดีของสงขลาอีกหนึ่งอย่างเพิ่มเติมจากเสน่ห์เมืองเก่า เป็นสถานที่ที่เหมาะกับมาการดีท็อกซ์ตัวเองจากความเร่งรีบ ถ้าพร้อมสตาร์ทรถ GLE 500 e 4MATIC AMG Dynamic คันเก่ง แล้วไปดูกันว่าสงขลาจะทำให้คุณผ่อนคลายได้แค่ไหน

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

SEE THIS

ย่านเมืองเก่าสงขลา และ a.e.y.space

สงขลาฉบับเดินเท้าในย่านเมืองเก่า เข้าซอยนู้นทะลุซอยนี้ เดินทอดน่องเก็บภาพสตรีตอาร์ทที่มีอยู่หลายจุดทั้งที่ใหญ่เต็มกำแพง และที่แอบซ่อนตัวอยู่ในตรอกเล็กๆ ด้วยความที่ตัวเมืองสงขลาเคยเป็นเมืองท่าติดทะเล จึงได้รับวัฒนธรรมจากหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาผสมผสานกัน จนกลายเป็นวัฒนธรรมเฉพาะตัวสงขลาสไตล์ ที่เห็นได้ชัดทั้งจากอาหารการกิน ศาสนา และโดยเฉพาะทางด้านสถาปัตยกรรมที่จนทุกวันนี้ก็ยังคงมีตึกรามบ้านช่องทั้งแบบตึกสไตล์ชิโนโปรตุกีส ห้องแถวไม้แบบจีน และอาคารตึกแถวแบบจีนโบราณของชาวจีนฮกเกี้ยนอยู่ปะปนกับตึกยุคปัจจุบันทั้งสองฟากถนน นับว่าย่านเมืองเก่าของสงขลาที่แม้จะมีพื้นที่ไม่ใหญ่มากชนิดเดินเท้าทั่วถึงกันได้นี้ อัดแน่นไปด้วยเรื่องราว ความหลากหลาย ลองจินตนาการย้อนกลับไปถึงความรุ่งเรืองในสมัยอดีต สลับการคุยกับชาวบ้านพื้นถิ่นก็เพลิดเพลินมากทีเดียว

 

 

บนถนนนางงามก็ยังมี a.e.y.space ที่เป็นสเปซส่วนตัวของคุณเอ๋ ปกรณ์ รุจิระวิไล ที่ตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับชุมชน เปิดเป็นแกลอรี่กึ่ง open space ที่จะมีการหมุนเวียนทั้งนิทรรศการ และกิจกรรมที่น่าสนใจเกี่ยวกับสงขลา ซึ่งหากใครสนใจว่าที่ a.e.y.space มีงานอะไรกำลังเปิดให้เข้าชมร่วมกิจกรรมอยู่บ้าง ก็สามารถติดตามอัพเดทความเคลื่อนไหวได้ที่ Facebook page : Aeyspace นอกจากสเปซที่นี่จะสวยตราตรึงใจแล้ว เจ้าของที่นี่ยังใจดีมาก หากอยากรู้เรื่องราวย่านเก่านี้ของสงขลาให้ลึกมากขึ้นกว่าแค่ตาเห็นแล้วล่ะก็ ลองคุยกับคุณเอ๋ดูสิ รับรองทั้งสนุกและได้ความรู้

Vogue’s tips : ควรมาถึงก่อน 9โมงเช้า หรือไม่ก็ช่วงบ่าย 4 โมงเป็นต้นไป เพื่อเลี่ยงแดดอันร้อนแรงของภาคใต้ และอย่าลืมพกกล้องถ่ายรูปมาด้วย งานนี้ได้อัลบัมสวยโพสอวดเพื่อนไปได้หลายวัน

ย่านเมืองเก่าสงขลา

-

a.e.y.space

โทร : 081 897 9445

FB :  Aeyspace

STAY HERE         

 

Thap Pala

ทับปาลา รีสอร์ต อยู่ในตัวเมืองหรือย่านเก่า แนะนำให้มาพักที่นี่หากคุณต้องการช่วงเวลาพักผ่อนอย่างแท้จริง ขับรถเอนกประสงค์คันเก่งแค่ประมาณ 20 นาทีจากถนนนางงามเพลินๆ รู้ตัวอีกทีธรรมชาติสีเขียวก็รายล้อมรอบตัวเรียบร้อย ห้องพักของที่นี่มีเพียง 4 หลังเท่านั้น เป็นแบบกระท่อมไม้แยกออกจากกันเป็นหลังๆ มีความเปิดโล่งโปร่งสบาย แต่ไม่เสียความเป็นส่วนตัวจากการออกแบบที่คิดมาแล้วอย่างดี ห้องอาบน้ำแบบเอาท์ดอร์เปิดโล่งก็เป็นอีกไฮไลท์เด่น นอกจากจะได้อาบน้ำพร้อมรับลมแล้ว ทางรีสอร์ตยังเตรียมเครื่องสปาสมุนไพรไทยอย่างไพล มะพร้าวฝอยนมสด เม็ดสครับงาขาวงาดำบด ลูกประคบร้อนหอม ให้อาบน้ำขัดผิวสวยถูกใจสาวๆ

1 / 3

2 / 3

3 / 3

ด้านคนชอบกิจกรรมที่นี่ก็มีเรือแคนูให้พายในอ่างเก็บน้ำ เหมาะกับยามเย็นในช่วงเวลา magic hour หรือใครชอบเดินเล่น ปั่นจักรยาน ในพื้นที่ก็มีเส้นทางชมธรรมชาติให้ศึกษาใกล้ๆกัน

1 / 5

2 / 5

3 / 5

4 / 5

5 / 5

HER STAY :

3 คำ สำหรับสาวๆ "เลานจ์แวร์เด็ด แว่นกันแดด และหนังสือดีๆสักเล่ม” สำหรับการเอกเขนกที่ชานหน้าบ้านแบบไม่ต้องสนใจเวลา และอย่าลืมสั่งอาหารเช้าเป็นข้าวยำทับปาลา ที่เต็มไปด้วยสมุนไพร กุ้งต้มสุกกำลังเด้ง ปลากะพงทอด และไข่ครอบอาหารพื้นเมืองของสงขลา

-

48/78 ถ.สงขลา-นาทวี ซอย 7 หมู่ 6 ตำบลเขารูปช้าง สงขลา

โทร : 085 080 5995

FB : ทับ ปาลา รีสอร์ต

DO THIS

ล่องเรือทะเลสาบสงขลา

1 / 3

2 / 3

3 / 3

พักกระเช้าลอยฟ้า และสารพัดแหล่งยอดฮิตทัวร์ริสต์นิยมแล้วมาลงเรือล่องทะเลสาบสงขลากันกว่า ชมเมืองชมธรรมชาติจากอีกฟากมุมหนึ่ง พร้อมอาบแสงแดดเย็นไล่สีสวยละลานตา แม้ว่าการล่องเรือหางยาวประมงท้องถิ่นชมพระอาทิตย์ตกของที่นี่จะไม่ได้มีใครทำเป็นธุรกิจอย่างเต็มตัว แต่สามารถมาถามหาได้ที่ท่าเรือเล็กคลองขวาง ซึ่งอันที่จริงแล้วจะให้บริการเรือโดยสารข้ามฟากทะเลสาบสงขลา (ค่าเรือ 20-30 บาท) แต่ถ้าอยากให้เรือพาท่องเที่ยวชมทะเลสาบยามเย็น ก็สามารถสอบถามคนขับเรือที่จอดอยู่ในละแวกท่าเรือนั้นได้เลย โดยราคาเหมาลำอยู่ที่ประมาณ 500-600 บาทต่อ 1 ชั่วโมง นั่งได้ราวๆ 7-8 คน

 

 

ขอแนะนำให้มาลงเรือสักประมาณสี่โมงเพื่อที่จะสามารถล่องไปชมได้ไกลถึงเกาะยอ มองดูวิถีชีวิตของหมู่บ้านชาวประมง แล่นผ่านกระชังปลาที่เรียงรายอยู่เป็นทิวแถวเหนือผิวน้ำแบบใกล้แค่คืบ ดู Vanilla Sky ให้เต็มตา ก่อนกลับเข้าฝั่งก่อนฟ้ามืดแบบไม่เหนียวตัว ซึ่งเป็นข้อดีของเมืองสองทะเลแห่งนี้ ที่ทำให้ไอทะเลไม่แรงมากเพราะเป็นจุดบรรจบกันของน้ำทะเลและน้ำจืดนั่นเอง

Vogue’s tip : Salty hair, dont’ care น่าจะใช้กับที่นี่ได้จริงแบบสวยๆ เพราะไอทะเลที่ไม่แรงมาก ทำให้ผมไม่ถึงกับเหนียวจนพันกันเป็นก้อน แต่เสมือนเพิ่มวอลลุ่มให้อยู่ทรงได้อย่างเป็นธรรมชาติ จึงไม่ต้องห่วงว่าผมจะเสียเมื่อเข้าฝั่ง

-

ท่าเรือเล็กคลองขวาง

ถ.นครใน ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ

EAT THIS / DRINK THIS

จิ่น กั้ว หยวน (ไอติมยิว)

 

1 / 3

2 / 3

3 / 3

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของถนนนางนามคงหนีไม่พ้นร้านไอศกรีมเก่าแก่ที่เปิดมากว่า 80 ปีร้านนี้ ที่คนในละแวกเรียกกันติดปากว่าไอติมยิว จากชื่อเจ้าของรุ่นก่อตั้งนายยิว แซ่เอ่า ปัจจุบันเป็นรุ่นที่สองและยังคงเสิร์ฟไอศกรีมรสวนิลาลูกย่อมๆ ราดด้วยไข่แดงสดตีมือ ก่อนปิดท้ายด้วยการโรยผงโอวัลตินอีกนิดแบบดั้งเดิม เป็นไอศกรีมไข่แข็งแตกต่างจากที่เราคุ้นเคย เพราะส่วนใหญ่มักจะเอาไข่แดงคลุกเคล้ากับไอศกรีมไปเลย จนไข่แข็งขึ้นเป็นลิ่มๆ เคี้ยวมัน แต่ของที่นี่จะแค่ราดแล้วปล่อยให้ไข่แดงเริ่มเซ็ตตัวแข็งขึ้นเล็กน้อยไปเองระหว่างกิน ได้อรรถรสไปอีกแบบ

 บนโต๊ะทุกโต๊ะจะมีกล้วยหอมวางอยู่ สามารถหยิบมากินคู่กันช่วยเติมความหอมหวานไปอีกแบบ Vogue’s tips : มาถึงร้านแล้ว อย่าลืมเซล์ฟฟี่กับอาม่าที่เป็นอีกหนึ่งความน่าประทับใจของร้าน รับรองอาม่ายินดี ยิ้มรอไม่เขินกล้อง เพราะอาม่าลงหนังสือมาแล้วหลายต่อหลายเล่ม เป็นเซเลบริตี้ของสงขลาเมืองเก่าเลยก็ว่าได้

-

120 ถ.นางงาม ซ.ปัตตานี อ.เมือง

โทร : 074 441 123

ศุกร์ - อาทิตย์  12:00 - 21:00

แต้เฮียงอิ้ว

ที่นี่เค้าเสิร์ฟอาหารสไตล์ลูกครึ่งไทย-จีนแต้จิ๋ว ใช้ของทะเลมาทำค่อนข้างเยอะ เพราะเมืองนี้ติดทั้งทะเลน้ำเค็มและทะเลสาบน้ำกร่อย จึงมีวัตถุดิบสดใหม่จากทั้งสองทะเลมาผัด ทอด ตุ๋น ยำ ทำเป็นจานอร่อยเสิร์ฟในร้าน ประกอบกับพื้นเพเดิมของคนแต้จิ๋วมาจากเมืองจีนซัวเถาที่ติดกับทะเลเช่นกัน จึงทำให้ชาวจีนแต้จิ๋วค่อนข้างคุ้นเคยและรู้จักวิธีการปรุงเมนูอาหารทะเล เห็นได้ชัดจากจานอาหารทะเลของร้านแต้ที่ไม่มีกลิ่นคาวให้เสียอารมณ์

เมนูที่ไม่ควรพลาดได้แก่ยำมะม่วง ที่หลายคนมักคิดว่าใช้มะม่วงเบามาทำ แต่ที่ร้านบอกว่าใช้มะม่วงแก้มแดงอ่อนของสิงหนคร เป็นมะม่วงที่เปรี้ยวมันและกรอบกำลังเหมาะ พอเคล้ากับน้ำยำแล้วจะได้รสพอดีกัน ไม่เปรี้ยวตาหยี เคี้ยวคู่มันๆกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ปลาหมึกกรอบและกุ้งแห้ง อีกจานที่ห้ามพลาดคือกุ้งกระเทียมพริกไทย ขอให้สั่งเป็นกุ้งใหญ่และบอกจำนวนตัวที่ต้องการ กุ้งสดๆตัวกำลังเหมาะคั่วมากับกระเทียมพริกไทยไม่อั้น ตักเอากระเทียมทอดกรอบใหม่ติดน้ำมันมาคลุกข้าวสวยร้อนๆรอ แกะเนื้อกุ้งเด้งๆ วางทับแล้วตักใส่ปาก อร่อยอย่าบอกใคร

ร้านเปิดสองเวลาคือ 11.30 - 14.00 และ 17.00 - 20.00 อย่าได้ไปก่อนหรือหลัง หากคิดจะไปแล้วเจอช่วงที่คนแน่น ให้นั่งกินแบบฉายเดี่ยวเป็นคู่เป็นคี่ย่อยๆ อาจจะต้องใจเย็นต่อคิวกันบ้าง แต่ก็ไม่นานเกินรอ

 

 

 Vogue’s dish : ยำมะม่วงแซ่บเบาๆ อย่างที่เราแนะนำไป เพราะนอกจากอร่อยแล้ว ยังแคลฯน้อยเอ็นจอยได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วนอีกด้วย

-

85 ถ.นางงาม อ.เมือง สงขลา

โทร : 074 311505

ทุกวัน 11:30 - 14:00 และ 17:00 - 20:00

ตลาดน้ำคลองแห

ใครว่ามาสงขลามีแค่สองทะเลให้ได้เที่ยวกัน งานชมคลองลองชิมก็มีเหมือนกัน ตลาดน้ำคลองแห ถือเป็นตลาดน้ำแห่งแรกและแห่งเดียวในภาคใต้ (คนพื้นที่ว่ากันว่าอย่างนั้น) ซึ่งตลาดน้ำที่นี่มีการจัดระเบียบได้ดี เพราะนอกจากจะรณรงค์ให้ใช้ภาชนะใส่อาหารจากวัสดุธรรมชาติอย่างกะลา หม้อดินเผา กระบอกไม่ใผ่ และใบตองแทนการใช้พลาสติกหรือกล่องโฟมแล้ว   ยังตั้งใจจัดเรืออาหารคาวเรียงต่อกันสลับกับเรือขายน้ำสมุนไพรและเรือขนมหวานเป็นระยะๆ เดินกินของคาวไปเรื่อยๆหิวน้ำก็ไม่ต้องย้อนกลับไปหรือมองหาให้เหนื่อย เพราะว่าถัดไปอีกไม่กี่ลำก็จะเจอเรือขายน้ำอีกแน่นอน เรือของพ่อค้าแม่ค้าที่มาขายอาหารที่ตลาดนี้นั้นส่วนใหญ่เป็นเรือของชาวบ้านในพื้นที่ที่เป็นชาวมุสลิม อาหารหลายอย่างจึงเป็นอาหารฮาลาล เพราะเพื่อนบ้านอย่างชาวมาเลเซียก็นิยมมาเที่ยวที่นี่ด้วยเช่นกัน แฟชั่นการคลุมผมด้วยผ้าลวดลายต่างๆ จึงมีให้เห็นและเป็นอีกสีสันเด่นของที่นี่

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

 

Vogue’s tips : สำหรับคนชอบถ่ายรูปหรือแพ้ทางชั่วโมงต้องมนต์ของซันเซ็ต ให้มาถึงตลาดก่อนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แล้วหามุมบนสะพานข้ามคลองแหให้มั่นเหมาะ เพราะแสงเคลือบฟ้าไล่เฉดสีนับไม่ถ้วนที่ทอมาจากพระอาทิตย์ยามเย็นนั้นสวยเกินบรรยายจริงๆ

-

ตลาดน้ำคลองแห วัดคลองแห อ.หาดใหญ่

โทร : 074 231055

ศุกร์ - อาทิตย์ 16:00 - 20:00

ฮับเซ่ง

1 / 5

2 / 5

3 / 5

4 / 5

5 / 5

ใจกลางถนนนางงามคือที่ตั้งของร้านฮับเซ่ง ที่เปรียบได้กับคาเฟ่เก๋ๆ แต่ตัดเอาความประดิษฐ์เกินพอดีออกไป เหลือไว้แค่ใจความสำคัญในบรรยากาศกึ่งย้อนยุค  ที่นี่เปิดแต่เช้าตรู่เสิร์ฟอาหารเช้า ชา กาแฟ ขนมปังสังขยาสูตรไหหลำ ประกอบกับบรรยากาศแบบสภากาแฟ นั่งละเมียดชาไปพลางก็ให้ความรู้สึกราวกับอยู่ในหนังพีเรียด ปัจจุบันร้านนี้มีอายุไม่ห่างจากขวบปีที่ 100 เท่าไรนัก ตู้ โต๊ะ เก้าอี้ ผนังไม้สีพาสเทล และพื้นกระเบื้องสลับสีขาวแดงที่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งกาลเวลาและความทรงจำ ทำให้ฮับเซ่งมีเสน่ห์แบบไม่ต้องพยายาม

ขนมปังสังขยาสูตรไหหลำของที่นี่คืออีกหนึ่งไอเท็มเด็ด เพราะทางร้านใช้แค่เพียงไข่สด กะทิ และน้ำตาล ไร้สารกันบูดและการไม่มีการแต่งสีแต่งกลิ่นใดๆ เคี่ยวข้ามวันในหม้อ 2 ชั้นกันการไหม้ จนงวดข้นเหนียวสีสวยตามธรรมชาติ ให้รสชวนนึกถึงคาราเมล เข้มข้นคล้ายสังขยาบนหน้าข้าวเหนียวแต่เหลวและนวลเนียนกว่า จิ้มคู่กับขนมปังกินได้เรื่อยๆ จิบคู่กับชาที่ต้มจากผงชาไม่ใส่สี หรือกาแฟที่ชงด้วยเมล็ดกาแฟสดยิ่งเข้ากันพอดิบพอดี ถือเป็นการเริ่มต้นเช้าวันใหม่แบบชาวสงขลาที่เรียบง่าย

 Vogue’s tips : ต้องลองชาร้อนใส่นมข้นของที่นี่ เพราะรสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นชา และไม่หวานน้ำตาลขึ้นตาเหมือนหลายๆร้าน และอย่าลืมหิ้วสังขยาแบบกระปุกกลับไปฝากเพื่อนและครอบครัวกันด้วยล่ะ

-

ตลาดน้ำคลองแห วัดคลองแห อ.หาดใหญ่

โทร : 074 231055

ศุกร์ - อาทิตย์  16:00 - 20:00

 

SHOP HERE

The Apothecary of Singora

เที่ยวเพลิดเพลินกันมาจนเต็มอิ่มก็ถึงคิวของการช้อปปิ้ง กิจกรรมที่อยู่ในดีเอ็นเอสาวโว้กทุกคน ไม่ต้องขับรถวนให้เปลืองน้ำมัน สตาร์ทรถแล้วขับมาที่ร้าน The Apothecary of Singora หรือเรียกแบบสั้นๆ ว่าร้าน Apo (อาโป) จุดเด่นของที่นี่คือความเท่ห์ที่แฝงตัวอยู่ในตึกเก่าสไตล์จีนฮกเกี้ยนได้อย่างกลมกลืน ใครที่ผ่านไปผ่านมาจึงอดไม่ได้ที่จะแวะเข้าไปดูของฝากจากร้านนี้

1 / 5

2 / 5

3 / 5

4 / 5

5 / 5

สินค้าที่ขายที่ Apo จะเน้นไปที่งานคราฟท์ดีไซน์จากฝีมือของศิลปินชาวสงขลา สินค้าที่ทำร่วมกันกับศิลปินจากที่อื่นที่น่าสนใจ รวมไปถึงการนำเอาหัตถกรรมของคนในพื้นที่อย่างผ้าทอจากเกาะยอ มีจุดเด่นอยู่ที่ลายในเนื้อผ้ามีความนูน มีลายเส้นละเอียดเนื้อแน่น ลวดลายเรียบง่ายและมีความกราฟฟิกสวยงาม ทนทานและดูแลรักษาง่าย ต่อยอดประยุกต์ให้กลายเป็นโปรดักซ์ร่วมสมัยที่สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ยาดมที่เบลนด์จากสมุนไพรเครื่องหอมนานาชนิดของทางร้านเองก็น่าสนใจไม่น้อย มีด้วยกันทั้งหมด 3 กลิ่น สะท้อนคาแรกเตอร์ถนนง 3 เส้นหลักของย่านเก่าเมืองสงขลาอันได้แก่ นครนอก, นครใน, และนางงาม รวมไปถึงโปสการ์ดงานวาดมือน่ารักๆ และของวินเทจที่แบ่งมาจากของสะสมของเจ้าของเองอีกด้วย

Her picks : ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าขิดของดังเกาะยอที่มีให้เลือกหลายอย่าง เสื้อทรงสบายผ้าลินินตัดเย็บคุณภาพ หมวกสาน กระเป๋าสาน

-

163 นครใน ต.บ่อยาง อ.เมือง สงขลา โทร : 095 649 9656

เสาร์ - อาทิตย์  12:00 - 19:00

FB :  theapothecaryofsingora

ส่วนใครที่ไม่ถนัดเดินทางไกล ชอบขับรถลัดเลาะตามซอกซอยในกรุงเทพฯต้อง Stay Here กันที่ เสาชิงช้า - ท่าเตียน

SEE THIS

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์


จะมีใครบ้างไม่เคยไปวัดโพธิ์ แต่จะมีสักกี่คนที่เคยไปวัดโพธิ์ตอนกลางคืน ใช่แล้ว ไปวัดตอนกลางคืนนี่แหละ  โว้กอาสาพาไปเดินเล่นในวัดโพธิ์ตอนสี่ทุ่ม

 หากมาลองเดินพินิจพิเคราะห์ความสวยงามของพระเจดีย์ และพระอุโบสถต่างๆ จากไลท์ติ้งที่จัดขึ้นมาอย่างตั้งใจ ในยามที่ทุกอย่างเกือบสงบนิ่ง ถึงแม้ในเวลากลางคืนพระอุโบสถ และพระวิหารต่างๆ จะไม่เปิดให้เราสามารถเข้าไปกราบไหว้นมัสการพระพุทธรูปด้านใน แต่แค่การได้ตั้งใจเดินชมความงามภายนอกอย่างสำรวม พร้อมรับลมเพลินๆ ในวัดโพธิ์ยามสนธยานี้ คือการฝึกสติชั้นดีทีเดียว

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

และอย่าพลาดพระมหาเจดีย์สี่รัชกาลภายในรั้วกำแพงสีขาว ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบและกระเบื้องเครื่องถ้วยลวดลายต่างๆ เมื่อต้องแสงไฟยิ่งให้ความงามต่างไปจากเวลากลางวัน เผยความลึกลับและสง่างามในอีกแง่หนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นมากนัก นี่คือไฮไลท์ของ Night at Wat Pho เชื่อเถอะว่าในเวลาที่ต่าง บางครั้งก็ทำให้ได้พบความงามที่สถานที่นั้นบรรจงซ่อนเอาไว้ ถึงแม้จะเป็นสถานที่เดิมที่คุณเคยไปมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วก็ตาม

Tips : วัดโพธิ์ เปิดถึง 5 ทุ่มของทุกวัน และสามารถเข้าออกทางประตูกลางบนถนนพระเชตุพนเพียงประตูเดียวหลังเวลาราชการ

-

2 สนามชัย พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร

โทร : 02 225 9595

EAT THIS

หม่อง ราชบพิธ ต้มเนื้อ/ เครื่องในวัว

จะเรียกว่าร้านในตำนานก็คงไม่ผิดมากนัก ต้มเครื่องในวัวที่ร้าน 'ต้มเนื้อ หม่องราชบพิธ' ที่เปิดมากว่า 55 ปี ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อยังไม่มีชื่อร้าน และยังคงรสชาติดั้งเดิมจนถึงทุกวันนี้ ร้านจึงถูกเรียกตามชื่อเฮียหม่องรุ่นที่ 2 และมีขาประจำมากมาย ความพิเศษของต้มเครื่องในวัวของที่นี่เห็นจะเป็นน้ำซุปหอมกรุ่น และเครื่องในที่สะอาด ไร้กลิ่นคาว การันตีโดยอาเฮียและอาเจ็กที่ได้มีโอกาสนั่งร่วมโต๊ะกัน

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

เครื่องในส่วนที่เด็ดที่สุดคือ “ส่วนที่วันนี้สั่งมากิน” อาเฮียหัวโต๊ะตอบติดตลก ซึ่งหมายถึงเครื่องในทุกส่วนของที่นี่ดีหมด แต่ละส่วนต่างก็มีรสชาติที่เป็นทีเด็ดแตกต่างกันไป แต่ที่หลายคนยอมเป็นขาประจำกับทางร้านก็เพราะ เรื่องความสะอาดของวัตถุดิบ น้ำซุปของที่นี่ต้มจากกระดูกวัวจนเข้มข้นราวกับน้ำซุปราเมง หวานตามธรรมชาติ ไร้กลิ่นสาบ และไม่ง้อผงชูรส

ร้านเฮียหม่องขายเครื่องในวัวแบบฟูลออพชั่น ไล่กันไปตั้งแต่ ไส้อ่อน ไส้ใหญ่ ไส้แก่ ไส้ตัน กระเพาะ ปอด ม้าม เนื้อน่อง เนื้อติดเอ็น เนื้อสามชั้นที่เราคุ้นชื่อคุ้นตากันดี ไปจนถึงส่วนที่เราเริ่มงงกับทั้งชื่อและรสสัมผัสของมันอย่าง ดอกจอก สามสิบกีบ หลอดคอ ตัวเดียวอันเดียว และน้องนาง เคล็ดลับอีกอย่างสองอย่างของทางร้านคือใช้การต้มด้วยเตาถ่าน ทำให้น้ำซุปมีความหอมเฉพาะตัว รวมถึงการใส่มะกรูดเผาทั้งลูก กับกระเทียมลงไปต้มพร้อมเครื่องในช่วยดับคาว และความน่ารักเป็นกันเองของเจ้าของร้าน ก็เป็นอีกหนึ่งความน่าประทบใจ ไปแล้วจะต้องหาเวลากลับไปอีกแน่นอน


Vogue tips : ถึงแม้ร้านจะปิดบ่ายโมง แต่โอกาสที่คุณจะได้ลองกินครบเครื่องในหลังเก้าโมงครึ่งมีน้อยมาก เพราะฉะนั้นควรมาให้เช้าเข้าไว้  

-

36-38 ถ.ราชบพิธ แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร

โทร : 081 835 1170 / 02 221 2660

จันทร์ - เสาร์ : 08:00 - 13:00

 

Tonkin Annam

1 / 4

2 / 4

3 / 4

4 / 4

อาหารเวียดนามก็เป็นหนึ่งในอาหารที่เราชาวไทยนิยมหลายสมัย  ด้วยรสชาติและปริมาณผักที่ได้กินคู่กัน ให้ทั้งความอร่อยและชวนให้รู้สึกสุขภาพดีไปในตัว แต่ที่ Tonkin - Annam ออกจะแตกต่างสักหน่อย เพราะนี่ที่เสิร์ฟเมนูท้องถิ่นทั้งจากภาคเหนือ และภาคกลางของเวียดนาม มีมากกว่าความอร่อยสุขภาพดี เพราะมีหลายเมนู และวัตถุดิบแท้ๆ ของเวียดนามของร้านนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหาได้จากร้านอื่น อย่างแผ่นแป้งห่อ “แนมเหนือง” (การออกเสียงเวียดนามที่ถูกต้อง) ไม่ต้องมีขั้นตอนการแช่แป้งในน้ำให้เหนียวติดนิ้ว แต่ใช้ห่อเครื่องด้วยแผ่นแป้งแห้งๆเลย แถมวิธีกินจริงๆก็ไม่ใช้การหยอดน้ำจิ้มไปตอนห่อ แต่ให้ห่อเสร็จแล้ว ค่อยมาจิ้มน้ำจิ้มกินทีละคำ หรือขนมถ้วยเหนียวหนุบ (บั๋นห์แบ่ว) ที่นึ่งแยกมาเป็นถ้วยๆ สวยงาม จานนี้ควรรีบกินก่อนเพื่อน เพื่อความเหนียวนุ่มของตัวแป้งข้าวจ้าวตอนร้อนๆ ซึ่งทางร้านจะเสิร์ฟพร้อมส้มจี๊ดลูกจิ๋ว และน้ำปลาเวียดนาม ให้สามารถเติมความเปรี้ยวหรือเค็มเพิ่มได้ตามต้องการ ขอกระซิบว่าน้ำปลารสกลมกล่อมหอมมาก และการบีบส้มจี๊ดก็ช่วยเพื่มความหอมและรสเปรี้ยวได้ดี อีกสองเมนูที่ไม่อยากให้พลาดคือยำหัวปลี และยำไก่บ้าน เป็นยำที่ชูความหอมของมะนาวแท้ได้ดี

ตัวร้านเรียบง่ายแต่ใส่ใจทุกดีเทลทั้งจานชามที่ทำขึ้นเฉพาะ การปูกระเบื้องที่แสนจะมีลีลา เก้าอี้ที่สั่งทำให้มีลักษณะคล้ายตัวอักษรจีน ร้านอย่างนี้แม้จะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนก็ควรค่าแก่การบุกไปชิมให้ได้สักครั้ง

Vogue tips : การห่อแหนมเนืองที่ถูกวิธีมีให้ลองทำตามรูปประกอบในเมนู อยากให้ลองกรีดนิ้วทำกันดู เพราะเป็นลีลาที่น่ามอง แถมเมื่อชำนาญแล้ว เรื่องมือเปรอะ น้ำจิ้มทะลักยามกัดแหนมเนืองก็จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป

-

69 ท่าเตียน ถ.มหาราช พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร

โทร : 093 469 2969

เปิดทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร : 11:00 - 22:00

Supanniga Eating Room x Roots Coffee, Tha Tien / ห้องอาหารสุพรรณิการ์ 

ดินเนอร์ริมน้ำฟังดูเป็นไอเดียที่เข้าท่าเสมอ วันหยุดสุดสัปดาห์ทั้งทีขับรถคันเก่งพาคุณพ่อคุณแม่หรือคนพิเศษมาทานอาหารริมน้ำกันที่ Supanniga Eating Room ร้านอาหารไทยร่วมสมัยที่ใครหลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะที่สาขาท่าเตียนแห่งนี้ที่ได้โรสเตอร์ตัวจริงเรื่องกาแฟอย่าง Roots มาช่วยดูแลในส่วนของเครื่องดื่มที่เป็นกาแฟ และคิดเมนูเฉพาะที่ไม่มีเสิร์ฟที่ไหนนอกจากที่สาขานี้เท่านั้น ค็อกเทลของที่นี่ก็ได้ทีมมิกโซโลจิสต์จาก Vesper มาช่วยให้คำปรึกษา


1 / 3

2 / 3

3 / 3

 ด้านพระเอกอย่างอาหารไทย ได้สูตรจากต้นตำรับจากคุณยายของเจ้าของร้าน ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ปลายจวักภายในครอบครัวที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นมากว่า 80 ปี โดยที่สาขาท่าเตียนนี้จะเน้นเป็นร้านอาหารแบบที่สามารถแวะเวียนไปเอ็นจอยกันได้ตลอดทั้งวัน ใครนิยมแดดสาย แดดบ่าย แดดเย็น หรือยามไร้แดด ก็สามารถเลือกช่วงเวลามื้ออาหารของตัวเองได้เลย ซึ่งที่นี่ถูกเพิ่มขั้นกว่าให้น่านั่งเข้าไปอีกด้วยตำแหน่งที่ตั้งสุดไพร์มริมแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ตรงข้ามกับวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ให้คุณมีมื้ออาหารพร้อมกับวิวสายน้ำที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พลางจิบกาแฟเย็นฉ่ำชื่นใจ และชมพระปรางค์วัดอรุณฯ ที่ตั้งเด่นอยู่เบื้องหน้าแบบเต็มตาสบายอารมณ์

Vogue tips : อย่าพลาดฉู่ฉี่กุ้งใหญ่หอมเครื่องแกงรสกลมกล่อม และที่สำคัญควรโทรไปจองที่นั่งริมกระจกติดแม่น้ำสำหรับมื้อกลางวัน และบนดาดฟ้ายามค่ำคืนอากาศดี

-

392/25-26 ถ.มหาราช พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร

โทร : 02 015 4224 ทุกวัน : 11:30 - 22:30

 

เจ๊ไฝ

1 / 3

2 / 3

3 / 3

ข้อที่สอง ไข่เจียวปู หรือถ้าจะให้ถูก ควรเรียกจานซิกเนเจอร์ของเจ๊ไฝจานนี้ว่า ปูเจียวไข่มากกว่า เพราะไข่คือพระรอง ทำหน้าที่แค่เพียงเชื่อมปูไว้ด้วยกันมากกว่าจะทำตัวโดดเด่น เมื่อตัดไข่เจียวก้อนม้วนๆเข้าไป ก็จะพบกับไข่แบบสุกเบาๆ กับก้อนเนื้อปูแบบไม่ยั้งอัดแน่นอยู่ข้างในทุกอณู ตักพริกขี้หนูซอยในน้ำปลาพริกมากินคู่ ตามด้วยข้าวสวยร้อนๆ ให้ความรู้สึกที่เกินบรรยาย

และอย่างสุดท้าย คือราคาที่มาตามปริมาณเนื้อปู ที่อาจจะสูงสักหน่อย แต่หากคิดตามความแปรผันของคุณภาพอาหารและปริมาณที่ได้ก็ถือซะว่ายิ่งกว่าคุ้ม




Vogue tips : ไม่ว่าคุณจะชอบปูแค่ไหนแต่ ไข่เจียวปู(ปูเจียวไข่)ของเจ๊ไฝ ทานคนเดียวมีจุกแน่นอน ควรชวนเพื่อนมากันสัก 3-4 คน จะได้ลองสั่งเมนูอื่นๆมากินคู่กันด้วยก็หลากหลายไปอีกแบบ

-


327 ถ.มหาไชย (ร้านอยู่ใกล้ๆ กับแยกสำราญราษฎร์)

จันทร์ - เสาร์ : 13:30 - 02:00

โทร : 02 223 9384

Shop here

ปากคลองตลาด + Floral Cafe at Napasorn (นภสร)

ปากคลองตลาดนั้นเป็นเหมือนดอกไม้ที่บานตลอด 24 ชั่วโมงและไม่เคยหลับไหล มีดอกไม้ให้เลือกทั้งดอกไม้ไทย และดอกไม้จากต่างประเทศ หลายร้านมีดอกไม้พันธุ์หายากจากยุโรปที่หลายชนิดคุณอาจเคยเห็นแต่ในหนังสือหรือ Pinterest บางร้านมีช่อดอกไม้ตากแห้งที่เหมาะกับการนำไปประดับตกแต่งบ้าน ร้านอาหาร หรือคาเฟ่เก๋ๆ รวมไปถึงอุปกรณ์การใช้จัดดอกไม้ต่างๆ ก็มีรวมอยู่ในตลาดแห่งนี้

1 / 5

2 / 5

3 / 5

4 / 5

5 / 5

แต่ที่นี่ก็ไม่ได้มีแค่ร้านดอกไม้ตั้งเรียงราย เมื่ออยากพักขาจากการเดินชมและเลือกซื้อดอกไม้ อย่าลืมแวะไปที่ Floral Cafe at Napasorn คาเฟ่น่ารักๆ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ใจกลางปากคลองแห่งนี้ ตั้งอยู่บนชั้นสองของร้านนภสร ร้านรับจัดดอกไม้สุดเก๋ไก๋ของคุณเอี๋ยว ที่นี่มีเครื่องดื่มเย็นใจ และเค้กอร่อยๆ ให้ได้ลองชิมกัน เห็นเป็นส่วนหนึ่งของร้านดอกไม้อย่างนี้แต่ Floral Cafe มีเครื่องดื่มทั้งกาแฟเมล็ดจากเชียงราย และชาที่มีการเบลนด์ขึ้นมาให้เฉพาะกับทางร้าน ไอศกรีมรสไม่ซ้ำใครที่ได้ร้าน Farm to Table มาช่วยพัฒนาสูตร เค้กโฮมเมดอร่อยๆ จากผู้หลงไหลในการทำขนม และในอนาคตยังมีแพลนที่จะเสิร์ฟอาหารคาวเพิ่มขึ้นอีกด้วย

1 / 3

2 / 3

3 / 3

Vogue tips : สามารถมาเลือกซื้อดอกไม้ที่ปากคลองตลาดได้ในช่วงเย็นถึงดึกดื่น เป็นตัวเลือกที่ดีในเลี่ยงแดดและได้อารมณ์เพลิดเพลิน แต่ถ้าอยากมาเซลฟี่สวยๆ คงต้องมาช่วงบ่าย แวะ Floral Cafe จิบน้ำผึ้งมะนาวโซดาให้ชื่นใจ เผลอๆคุณอาจได้เล่นกับเจ้าเหมียวประจำร้านอีกด้วย

-

ปากคลองตลาด

ถ.จักรเพชร  แขวงบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร

เปิดทุกวัน

Floral Cafe at Napasorn

67 ถ.จักรเพชร (ปากคลองตลาด)

โทร. 02 221 2039  /  02 222 6895

จันทร์ - เสาร์  09:00 - 20:00

www.napasorn.com