พูดคุยกับ Solange Knowles ศิลปินหญิงผู้ไม่เคยหยุดทำงานดนตรี บนแคมเปญ Gucci Gift ส่งท้ายปี!
Solange Knowles อีกหนึ่งสุภาพสตรีที่ปรากฏตัวคู่กับคุณแม่ของเธอในแคมเปญ Gucci Gift สำหรับช่วงเทศกาลสุดพิเศษ เปิดใจกับโว้กเกี่ยวกับกับเดินทาง ครอบครัว และเส้นทางในสายดนตรีในอนาคตของเธอที่กำลังจะเกิดขึ้น #GucciGift
เรื่อง: Lolita Mang
คงไม่มีครอบครัวใดที่เป็นดั่งราชวงศ์ที่โด่งดังในวงการเพลงทุกวันนี้ได้อย่างครอบครัวโนวส์ หากมีก็คงมีไม่มากนักที่จะมีต้นแบบที่ยอดเยี่ยมอย่างโซแลง และทิน่า โนวส์ ซึ่งศิลปินอย่างโซแลงนั้นได้ขีดเขียนเส้นทางในสายดนตรีของเธอตั้งแต่วัยเยาว์ (ตั้งแต่เธออายุ 13 ปี) โดยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางผ่านอัลบั้มหลายอัลบั้มที่สร้างชื่อของเธออย่างอัลบั้ม “A Seat at the Table ที่ถูกปล่อยมาในปี 2016 และซิงเกิ้ลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างจากนักวิจารณ์ของเธออย่างเพลง “Cranes in the Sky” ผลงานที่ส่งให้เธอได้รับรางวัล Grammy สาขาแนวเพลง R&B ยอดเยี่ยม และถ้าหากคุณคิดว่าทิน่า โนวส์นั้นไม่ค่อยมีบทบาทในสายงานเพลงหากไม่นับความสำเร็จของบรรดาลูกสาวของเธอทำสำเร็จแล้ว คุณอาจจะต้องคิดใหม่อีกครั้ง เพราะก่อนที่เธอนั้นจะถูกจดจำในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท เธอร้องเพลงในกลุ่มของเด็กมัธยมในวง The Veltones ที่ได้รับแรงบันดาลจาก วง The Supremes และ Motown หนึ่งในค่ายเพลงที่ทรงคุณค่าที่สุดในวงการเพลง (เป็นทั้งต้นสังกัดของศิลปินหลากหลาย อาทิเช่น มาร์วิน เกย์ และสตีวี่ วันเดอร์) อย่างไรก็ตามผลงานที่ทำให้เธอได้รับการจดจำคือผลงานการออกแบบชุดขึ้นแสดงให้แก่ลูกสาวอย่างบียอนเซ่ในช่วงขณะนั้นที่ไม่มีแบรนด์ใหญ่แบรนด์ใดอยากจะออกแบบชุดให้แก่วงนักร้องสาว R&B ด้วยเหตุสืบเนื่องจากการเหยียดเชื้อชาติและการมีอคติทางชนชั้น
ในวันนี้ โซแลงและทิน่า โนวส์คือสองสุภาพสตรีผู้เป็นตัวแทนในแคมเปญ Gucci Gift แคมเปญเฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุดที่จะนำเสนอการใช้เวลาและแบ่งปันร่วมกันแก่คนที่รัก นี่คือโอกาสอันยอดเยี่ยมที่จะพูดคุยกับโซแลง โนวส์ถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทาง ครอบครัว และเส้นทางในสายดนตรีในอนาคตของเธอที่กำลังจะเกิดขึ้น
VOGUE : คุณอยากทำงานสายดนตรีตั้งแต่อายุ 13 ปีในขณะที่พ่อแม่ของคุณบอกว่าให้รอไปก่อน คุณทำอย่างไรถึงโน้มน้าวพวกเขาในเรื่องนี้ได้?
SOLANGE KNOWLES : ฉันโชคดีมากที่พ่อแม่ของฉันหลงใหลและชื่นชมศิลปะในแบบของพวกเขา ตอนนั้นคุณแม่ของฉันทำงานเป็นศิลปินในสายการออกแบบเสื้อผ้าและการจัดแต่งทรงผม ส่วนคุณพ่อเป็นศิลปินในสายงานการออกแบบและการตลาดซึ่งฉันมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นแขนงหนึ่งของศิลปะเช่นกัน พวกเขาทั้งคู่เป็นนักเล่าเรื่องในแบบฉบับของพวกเขา ฉันคิดว่าเมื่อพวกเขาได้เห็นว่าฉันทุ่มเทขนาดไหนกับงานของฉัน พวกเขาจะต้องยอมเปิดใจและยอมเปิดทางให้กับฉันในการทำงานสายนี้ในอนาคต ฉันเชื่อว่าคุณแม่เชื่อในตัวฉันและเข้าใจฉันเสมอว่าฉันจะหาจุดสมดุลของตัวเองในการสร้างจุดยืนของตัวเองในสิ่งที่ฉันต้องการทำในแบบฉบับของฉันได้ ฉันรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งที่เธอคอยให้กำลังใจและสนับสนุนฉันเสมอในเรื่องนั้นค่ะ
VOGUE : คำแนะนำที่ดีที่สุดที่คุณแม่เคยให้คุณคืออะไร?
SOLANGE KNOWLES : การเปิดรับให้จิตวิญญาณ คำอธิษฐาน และการอุทิศตนเข้ามาในชีวิต ถึงแม้ว่ามันอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างกันในช่วงเวลาการเติบโตที่แตกต่างกันในชีวิตของฉัน แต่สิ่งเหล่านี้คอยให้สมดุลแก่ฉันและนำทางฉันผ่านทั้งช่วงที่ดีและแย่ต่างๆ ในชีวิต การำงานและสิ่งที่เคยเกิดขึ้นค่ะ
VOGUE : คุณได้เชิญเธอให้มาเป็นส่วนหนึ่งของอัลบั้มของคุณที่มีชื่อว่า ‘A Seat at the Table (2016) การมีเสียงของเธอเป็นส่วนสำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งสำหรับคุณอย่างไร?
SOLANGE KNOWLES : เราได้เห็นตัวตนของพวกเราเยอะมากในชีวิตของคุณพ่อกับคุณแม่ในช่วงที่เติบโตขึ้นมา เราเริ่มปะติดปะต่อจุดเชื่อมโยงต่างๆ ระหว่างธรรมชาติและการอบรมเลี้ยงดู เรื่องราวในอดีต ที่นำทางพวกเราเพื่อที่จะพัฒนาต่อไปในปัจจุบัน ฉันได้เห็นตัวตนของเธอในตัวตนที่ฉันเป็น ในวิธีที่ฉันสื่อสารความเป็นตัวฉัน การที่ฉันปฏิเสธที่จะปิดเงียบ แต่ในขณะเดียวกันมันก็อยู่ในวิธีที่ฉันยอมรับและให้ตัวเองได้มีความเป็นมนุษย์คนหนึ่งในการที่ฉันเปิดรับความงดงามและบทกวีเข้ามาในชีวิต เธอเป็นส่วนที่สำคัญในการรังสรรค์งานศิลปะในฐานะศิลปินของฉันแม้ว่ามันจะไม่ใช่การมีส่วนรวมทางตรงที่จับต้องได้ก็ตามค่ะ
VOGUE : หนึ่งในหลายสิ่งที่คุณต้องต่อสู้คือการถูกข้อกล่าวหาถึงความเห็นแก่ตัวเมื่อคุณประกาศอย่างมั่นใจว่าคุณเป็นคนที่เขียนเพลงทั้งหมดด้วยตัวของคุณเอง คุณทำอย่างไรถึงผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้?
SOLANGE KNOWLES : ฉันรู้ว่าคุณแม่ของฉันเองก็เคยผ่านเหตุการณ์ในแบบเดียวกันนี้ในช่วงชีวิตของเธอ ฉันจำได้ว่ามีคนในวงการแฟชั่นที่ปฏิเสธงานออกแบบของเธอและพยายามจะเอาเครดิตไปจากเธอ และฉันภูมิใจในตัวเธอเสมอสำหรับความกล้าที่จะยืนหยัดอย่างมั่นคง เธอมีวิสัยทัศน์ที่ช่วยก่อร่างวัฒนธรรม แม้กระทั่งในวันนี้ฉันได้เห็นว่าผลงานของเธอได้รับการยอมรับและพูดถึง อ้างอิงผ่านรุ่นสู่รุ่นด้วย ฉันภูมิใจที่ได้มีเธอเป็นคุณแม่ค่ะ
VOGUE : อะไรคือสิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างคุณและกุชชี่?
SOLANGE KNOWLES : ฉันเป็นแฟนตัวยงของประติมานวิทยาค่ะโดยเฉพาะในเรื่องของการเขียนรูปลักษณ์ในโลโก้และการออกแบบกราฟิกต่างๆ ฉันให้ความสนใจอย่างมากกับวิธีในการสื่อสารด้วยสัญลักษณ์ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น และกุชชี่ก็เป็นแนวหน้าของศิลปะที่ว่ามาตลอด ฉันมีเพลงที่ชื่อว่า “My Skin My Logo” ที่ Gucci Mane และฉันได้มีการอ้างอิงพูดถึงกุชชี่ประมาณ 50 ครั้งได้ในเพลงนั้น ฉันยังมีโอกาสได้รู้จักและมีความสัมพันธ์อันดีกับ ซาบาโต้ ดี ซาร์โนด้วย ฉันรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในความมีน้ำใจ ความอบอุ่น ไอเดียและความอยากรู้อยากเห็นต่างๆ ที่เขานำมาร่วมสร้างประสบการณ์ด้านแฟชั่นที่ดีของฉัน มันเป็นการประสานรวมกันที่ยอดเยี่ยมของแนวความคิดไอเดีย และปรัชญาต่างๆ และวิธีการที่เรานำสิ่งเหล่านั้นมาผสานรวมกันสู่หลายๆ สิ่งในหลายแง่มุมที่แตกต่างกันไปสร้างแรงบันดาลใจให้ฉันถึงสิ่งที่แฟชั่นสามารถที่จะนำเสนอและสื่อสารออกมาได้ค่ะ
WATCH
VOGUE : ครอบครัวโนวส์ฉลองเทศกาลเฉลิมฉลองด้วยกันอย่างไรบ้าง?
SOLANGE KNOWLES : ถ้าจะให้พูดตามจริงคือมันไม่แน่นอนค่ะเรื่องธรรมเนียมในการฉลองเทศกาลของฉัน ฉันเริ่มออกเดินทางกับลูกชายค่อนข้างไวไปในที่ที่ฉันต้องการให้เราได้สร้างความทรงจำใหม่ๆ ร่วมกัน ตอนที่เขามีอายุช่วง 5-13 ขวบ เราฉลองด้วยกันที่ประเทศจาไมกา, เซเนกัล, รวันดา และโมรอกโค แต่พอเขาโตขึ้นเราก็เริ่มที่จะปลูกฝังธรรมเนียมการเฉลิมฉลองด้วยกันกับครอบครัวใหญ่ทั้งครอบครัวเพราะว่าฉันสู้กับอาหารและของขวัญจากคุณย่าของพวกเขาไม่ไหวค่ะ ตอนนี้ก็เลยสนุกกับสลับเปลี่ยนระหว่างการฉลองกับครอบครัวใหญ่ กับการเปลี่ยนมาสู่การเดินทางที่สงบให้เวลาฉันได้ทบทวนภายในตัวฉันก่อนปีใหม่จะมาถึงค่ะ
VOGUE : ของขวัญอะไรที่คุณอยากได้รับในปีนี้?
SOLANGE KNOWLES : ความสงบ การดูแลสุขภาพจิต และการได้พักผ่อนค่ะ แต่จะไม่โกหกเลยนะคะถ้าหากมีใครอยากจะมอบเทปของ Dj Screw ที่ฉันเห็นบนอีเบย์โดยเฉพาะแทปแคสเซ็ต the Final Chapter จากปี 1997 ให้ จะขอรับไว้แน่นอนค่ะ
VOGUE : พี่สาวของคุณมักจะพูดว่าคุณมักจะคอยติดตามอยู่เสมอว่าอะไรเป็นเทรนด์แนวเพลงล่าสุด ตอนนี้ฟังเพลงอะไรอยู่?
SOLANGE KNOWLES : ฉันชอบนะที่พี่สาวฉันพูดแบบนั้น แต่เอาจริงๆ ฉันรู้สึกไม่ค่อยชอบกับการเป็นคนที่พูดว่า “นี่คือเทรนด์ล่าสุด” แต่ถ้าจะให้ฉันตอบฉันจะตอบว่าตอนนี้ฉันกำลังฟังเพลงใหม่ของ SahBabii และฉันรักเพลงของ Laila ด้วยค่ะ ฉันฟังผลงานของเหล่าศิลปินที่ร่วมแจมในซีรี่ส์ Saint Heron Eldorado Ballroom ที่วอลท์ดิสนีย์ ซึ่งมีสุภาพสตรีจาก GMWA คณะประสานเสียงสตรีจากเบอร์มิงแฮม, แมร์รี่ ลู วิลเลียมส์ และจูเลีย เพอร์รี่ ฉันยังฟังผลงานของนักทำเพลงชาวฝรั่งเศสอย่างฟิลิปส์ อาทัวร์ที่ฉันได้นำผลงานของเขามาประกอบในโปรเจกต์ภาพยนตร์ของฉันด้วยค่ะ
VOGUE : ขอพูดอย่างใจจริงเลยว่า ฉันฝันว่าจะได้เห็นอัลบั้มต่อไปของคุณแล้ว มีอะไรเกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ที่คุณสามารถบอกเราได้บ้าง?
SOLANGE KNOWLES : พูดตามตรงเลยว่าฉันไม่เคยหยุดทำงานดนตรีเลย ไม่เคยหยุดเลยจริงๆ และจะอุทิศตนเองมุ่งมั่นทุ่มเทเต็มที่กับมันในปีหน้า ตลอดห้าปีที่ผ่านมาฉันมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์งานที่ฉันหวังว่าจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจและอมตะเหนือกาลเวลาและการมีอยู่ของฉัน ฉันเตรียมพร้อมทั้งทางจิตวิญญาณ ทางร่างกาย ทางศิลปะ และทางจิตใจสำหรับตัวฉันที่อายุ 60 หรือ 70 ปีในวันข้างหน้า ฉันภูมิใจและซาบซึ้งกับทุกสิ่งที่ฉันได้ทำ ถึงแม้ว่ามันจะหมายถึงการที่จะต้องพาตัวเองผ่านความน่าอึดอัดใจในช่วงเวลาหนึ่ง ฉันได้สร้างคลังที่รวมเอาทุกสิ่ง ทั้งวัตถุ หนังสือที่ได้ถูกตีพิมพ์ รูปปั้นประติมากรรม ดนตรีบัลเลต์ และได้สร้างสรรค์กรอบร่างของการสร้างสรรค์ไว้ด้วย มันเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากแต่ฉันเองก็เพิ่งได้เริ่มกลับไปตีกลองช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วย และฉันคิดว่าดนตรีนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณที่จะสามารถคงอยู่ในแบบที่ไม่เหมือนศิลปะแขนงไหนเลยด้วยค่ะ
ข้อมูล : Vogue France
ภาพ : Courtesy of Gucci
WATCH