vogue-living
LIFESTYLE

ชมบ้านตากอากาศของ Kristina O’Neal และสามี Adam Gordon กลายเป็นที่มาของความยั่งยืนและการสร้างสรรค์

“ที่นี่ทำให้เราอยากใช้ชีวิตแบบนี้” คริสตินากล่าว “มันคือความฝันแสนวิเศษที่เราดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ”

     เมื่อมองจากระยะไกล บ้านท่ามกลางเนินเขาและทุ่งหญ้าหลังนี้ดูราวกับภาพลวงตาและชวนให้เรานึกถึงโรงนาบ้านไร่ แต่มันมีลักษณะเนี้ยบเกินโรงนาทั่วไป เมื่อสังเกตดูใกล้ๆ จะเห็นหน้าต่างกระจกขนาดมหึมาสองบานในกรอบเหล็กที่ยกขึ้นด้วยระบบไฮดรอลิกเพื่อเปิดพื้นที่ภายในบ้านออกสู่ทิวทัศน์ด้านนอกที่แสนงดงาม แถมยังมีลาแคระสองตัวยืนรอทักทายอยู่อีกด้วย

vogue-living

Adam Gordon และ Kristina O’Neal ขณะสำรวจที่ดิน

     “สองตัวนั้นชื่อซูกิและจิงซ์ค่ะ” คริสตินา โอนีลเล่าพลางหัวเราะคริสตินาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทดีไซน์คอนเซปต์ AvroKO ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกเกี่ยวกับการออกแบบโปรเจกต์ธุรกิจด้านบริการซึ่งครอบคลุมถึงธุรกิจโรงแรม ธุรกิจภัตตาคาร และธุรกิจท่องเที่ยว อดัม กอร์ดอน สามีของเธอเป็นนักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่ที่แมนแฮตตันมานาน เมื่อสิบปีก่อนพวกเขามองหาซื้อที่ดินเพราะต้องการใช้ชีวิตกับธรรมชาติบ้าง “ฉันคิดว่าเรามักจะอยากกลับไปยังที่ที่เราเติบโตมา ความรู้สึกผูกพันกับสถานที่ทำให้เราหวนนึกถึงความทรงจำที่ดีๆ” คริสตินาผู้มีพื้นเพมาจากซานฟรานซิสโกกล่าว ส่วนอดัมก็มีเหตุผลที่ต้องการมีบ้านในแหล่งผลิตไวน์ “ผมเก็บรถไว้แถวนี้นานแล้วและชอบบินมาฝั่งนี้เพื่อขับรถไปตามถนนที่คดเคี้ยว” เขาเล่า การมีสถานที่เก็บคอลเล็กชั่นรถบรรทุกวินเทจซึ่งได้รับการซ่อมแซมเป็นอย่างดีจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทั้งคู่เริ่มมองหาที่ดินเพื่อสร้างบ้าน

vogue-living

     ในที่สุดคู่สามีภรรยาก็ตัดสินใจซื้อที่ดินขนาด 227 เอเคอร์ (574 ไร่) ที่ Knights Valley ซึ่งอยู่ในพื้นที่ส่วนหนึ่งของโซโนมา เคาน์ตี ที่ดินผืนนี้เป็นของครอบครัวชาวซานฟรานซิสโกดั้งเดิมซึ่งใช้ที่ดินเพื่อเลี้ยงสัตว์มันเป็นผืนดินที่เหลืออยู่ไม่มากในแถบนี้ซึ่งยังไม่ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นไร่องุ่นคริสตินาและอดัมไม่ได้รีบร้อนสร้างบ้านในทันที ทั้งคู่พักอยู่แบบชั่วคราวในช่วงปีแรกเพื่อหาจุดที่เหมาะสมที่สุด “เราตกลงกันว่าจะทำความคุ้นเคยกับที่ดิน ฤดูกาล กลิ่น แสง และสัตว์ป่าก่อนที่จะลงมือ” อดัมกล่าว คริสตินาเสริมว่า “เราสะสมภาพบ้านจากประเทศอุรุกวัยที่ดูเรียบง่าย และให้ความรู้สึกแบบบ้านไร่เอาไว้” มันกลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างบ้านหลังนี้ จากประสบการณ์ในฐานะนักออกแบบและคนสร้างบ้าน สองสามีภรรยาตัดสินใจสร้างบ้านที่มีลักษณเหมือนโรงนาโดยใช้โครงเหล็กและกระจกเป็นองค์ประกอบซึ่งดูกลมกลืนกับสภาพแวดล้อม “มันดูเรียบง่ายจนเกือบจะคล้ายเต็นท์ที่มีผนังเป็นกระจก” อดัมเล่า



WATCH




vogue-living

พื้นที่ห้องนั่งเล่นเปิดสู่ภายนอกด้วยหน้าต่างระบบไฮดรอลิก โซฟาและโต๊ะค็อกเทลจาก Ochre เก้าอี้เลานจ์ออกแบบโดย Pierre Jeanneret โต๊ะข้างผลงานของ Caleb Woodard (ซ้าย)และ Floris Wubben

     บ้านหลังนี้ใช้บานประตูกระจกเลื่อนทั้งหลัง นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่สองบานในกรอบเหล็กเหมือนในโรงเก็บเครื่องบิน บานแรกอยู่บริเวณห้องนั่งเล่น ส่วนอีกบานหนึ่งอยู่ที่ห้องนอนหลัก หน้าต่างสามารถเปิดออกเพื่อรับลมและแสงแดดเข้ามาในบ้านในวันที่อากาศดี ซึ่งในแถบเหนือของแคลิฟอร์เนียก็มักจะมีสภาพอากาศดีอยู่เสมอ “บ้านหลังนี้มีขนาดกว้าง 8.5 เมตร นั่นหมายความว่าเราอยู่ห่างจากหน้าต่างไม่เกิน 4 เมตร” อดัมกล่าวอย่างภูมิใจ นอกจากนี้ลาแสนเชื่องของพวกเขายังสามารถเดินเข้าออกบ้านได้อย่างอิสระเพราะบ้านมีประตูเข้าออกหลายบาน “มันเป็นเจ้าของสถานที่ครับ” อดัมกล่าวติดตลก

     เจ้าของบ้านต้องการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย พวกเขาจึงตกแต่งด้วย เฟอร์นิเจอร์ธรรมดาๆ ไม่มากชิ้นแต่บ้านก็ยังแฝงไว้ด้วยความอบอุ่น ห้องนั่งเล่นตกแต่งด้วยโซฟาบุผ้าลินินและเก้าอี้วินเทจซึ่งออกแบบโดย Pierre Jeanneret โต๊ะรับประทานอาหารสั่งทำพิเศษด้วยไม้โรสวู้ด ขาโต๊ะ Knoll จากอีเบย์ นอกจากนี้ยังมีม้านั่งแบบเรียบที่ไม่เคลือบน้ำยาชักเงาผลงานของ Caleb Woodard วางอยู่ทั่วบ้าน มันช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นและเพิ่มองค์ประกอบให้บ้าน อีกทั้งยังทำให้มีที่นั่งเพิ่มขึ้นด้วย ผนังห้องสีขาวตกแต่งด้วยงานศิลปะของคริสตินาซึ่งทำด้วยผ้าจากเฟอร์นิเจอร์เก่ายุคศตวรรษที่ 19 บริเวณโถงทางเข้าตกแต่งด้วยตุ๊กตาฝูงแกะขนฟูทำจากไม้ซึ่งเจ้าของบ้านได้มาจากร้านในละแวกบ้าน และรถ Peel P50 คันจิ๋วซึ่งใช้งานได้จริง ชั้นบนของบ้านเป็นห้องนอนของลูกชาย 2 คน

vogue-living

สถาปนิก Tom Kundig เป็นผู้ออกแบบครัว โคมไฟจาก Matter Design แขวนอยู่เหนือเคาน์เตอร์ครัว โต๊ะรับประทานอาหารทำจากแผ่นไม้โรสวู้ดสั่งทำพิเศษจาก Engberg Design and Development ขาโต๊ะวินเทจ Knoll จากอีเบย์ เก้าอี้ยุค 1970 ผลงานออกแบบของ Guido Faleschini

     เมื่อสร้างบ้านเสร็จทั้งคู่ตัดสินใจอยู่อย่างง่ายๆ ก่อนที่จะตกแต่งภายในให้เสร็จสิ้น นั่นหมายถึงการมีห้องครัวแบบชั่วคราวด้วย อดัมเคยชวนเพื่อนสถาปนิก Tom Kundig แห่งบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรม Olson Kundig ซึ่งติดอันดับ AD100 มาเที่ยวในช่วงเวลานั้น “พอทอมเห็นสภาพครัวแบบชั่วคราวของเรา เขาก็รีบช่วยออกแบบให้มันดูดี” คริสตินาเล่า ห้องครัวในปัจจุบันมีลักษณะคล้ายกล่องไม้สนสวยงามที่ใส่เพิ่มเข้าไปในพื้นที่โล่ง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่สำคัญในการจัดเลี้ยงทั้งงานใหญ่และงานเล็กแบบเป็นกันเอง

vogue-living

      เก้าอี้เดย์เบดและโต๊ะออกแบบโดย Richard Schultz จาก Knoll

     แม้บ้านหลังนี้จะดูแสนสบายอย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้เมื่อพวกเขามาที่ “ฟาร์ม” คริสตินาและอดัมจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่นอกบ้าน โรงนาที่มีอยู่เดิมได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นสตูดิโอศิลปะสำหรับคริสตินาและยังเป็นโรงเก็บรถบรรทุกวินเทจของอดัมด้วย ในส่วนของที่ดินนั้น “ใครๆ ก็คิดว่าเราจะเลิกเลี้ยงวัวและทำไร่องุ่นแทน ซึ่งเจ้าของที่ดินแถบนี้มักจะทำกัน” อดัมกล่าว แต่ทั้งคู่กลับเริ่มต้นเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากที่ดินอย่างยั่งยืน ปัจจุบันอดัมทำงานร่วมกับ Will Densberger เจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ใกล้ๆ เขาเริ่มเลี้ยงวัวสายพันธุ์ญี่ปุ่นเพื่อผลิตเนื้อวากิวและส่งเนื้อให้ร้านมิชลินสามดาวในแถบนี้ นั่นรวมถึงร้าน SingleThread ชื่อดังที่ฮีลส์เบิร์กด้วย “เราต้องการสร้างเครือข่ายโครงการเกษตรเพื่อสนับสนุนชุมชนอาหารในท้องถิ่น” อดัมกล่าว

vogue-living

      Adam และวัวสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่เขาเลี้ยงในฟาร์ม

     ที่ดินผืนนี้สร้างแรงบันดาลใจที่แตกต่างออกไปสำหรับคริสตินา “ฉันรวบรวมและศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์พืชต่างๆ บนที่ดินและแปลกใจที่มีพืชซึ่งมีสรรพคุณทางยามากมาย” เธอกล่าวอย่างกระตือรือร้น เธอร่วมหุ้นกับ Tessa Perliss เจ้าของไร่องุ่นเพื่อผลิตสินค้าหลายอย่างในจำนวนจำกัดเกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณโดยใช้ชื่อ Authored by the Sun ซึ่งจะออกจำหน่ายในต้นปีนี้ “โครงการนี้เป็นการร่วมงานของสตรีในแวดวงเกษตรกรรมแถบโซโนมาและนาปา โดยนำสมุนไพร ดอกไม้ และพืชพันธุ์ต่างๆ จากฟาร์มของพวกเธอมารวมกัน”

     บ้านที่ Knights Valley หลังนี้ไม่ได้เป็นภาพลวงตาดังเมื่อแรกเห็น แต่มันกลายเป็นที่มาของความยั่งยืนและการสร้างสรรค์ เป็นแรงผลักดันให้คริสตินาและอดัมวางแผนชีวิตขั้นต่อไปด้วยกัน “ที่นี่ทำให้เราอยากใช้ชีวิตแบบนี้” คริสตินากล่าว “มันคือความฝันแสนวิเศษที่เราดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ”

แปลและเรียบเรียง : วิลาสินี เดอเบส
ภาพ : Laura Resen

WATCH

TAGS : VogueLiving