ผ้าม่านไม่ได้เป็นเพียงไอเท็มกันแดดหรือของตกแต่งบ้าน แต่ยังถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อบรรยากาศของพื้นที่ตรงนั้นด้วย โดยเฉพาะโทนสีของผ้าม่านที่สามารถกำหนดมู้ดของห้องได้อย่างชัดเจน หากเลือกใช้โทนที่เหมาะสม ห้องนั่งเล่นก็จะดูอบอุ่นน่านั่ง สร้างความผ่อนคลายสบายตาให้กับห้องนอน หรือแม้แต่ห้องทำงานที่ทำงานได้อย่างมีสมาธิมากขึ้น ดังนั้นการเลือกสีผ้าม่านจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของความสวยงาม แต่คือการปรับสมดุลให้บ้านทั้งหลังน่าอยู่และตรงตามฟังก์ชันที่ต้องการ และต่อไปนี้คือคู่มือเลือกสีผ้าม่านให้ตรงกับมู้ดและฟังก์ชันของแต่ละห้อง
1 / 8
ผ้าม่านสีเบจ
สีเบจเป็นโทนกลางที่ใช้บ่อยในงานตกแต่ง เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่นและเข้าถึงง่าย เหมาะกับบ้านที่ต้องการความนุ่มนวลโดยไม่เรียบจนเกินไป ในเชิงจิตวิทยาสี สีเบจช่วยให้คนรู้สึกสบายและผ่อนคลาย จึงเหมาะกับห้องนั่งเล่นที่อยากให้บรรยากาศมีความอบอุ่นเป็นกันเอง ยิ่งจับคู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนหรือของตกแต่งโทนเอิร์ธโทน จะช่วยเสริมมู้ดให้กลมกลืนและลงตัว
2 / 8
ผ้าม่านสีครีม
ผ้าม่านสีครีมให้ความรู้สึกสว่าง โปร่ง และสะอาดตา ช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้นและรับแสงธรรมชาติได้ดี จึงเหมาะกับห้องที่มีพื้นที่จำกัด หรือห้องที่อยากสร้างบรรยากาศโล่งสบาย เช่น ห้องทำงานที่อยากได้ความโปร่งโล่งเพื่อเพิ่มสมาธิ หรือห้องนอนที่อยากได้ความนุ่มนวลละมุนตา นอกจากนี้ผ้าม่านสีครีมยังช่วยขยายพื้นที่ด้วยสายตา จึงเหมาะกับห้องขนาดเล็ก หรือห้องที่มีแสงธรรมชาติเข้าน้อยด้วย
3 / 8
ผ้าม่านสีขาว
ผ้าม่านสีขาวให้ความรู้สึกสะอาด สว่าง และเรียบง่าย เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการบรรยากาศมินิมัลหรือโมเดิร์น เช่น ห้องนั่งเล่นที่อยากได้ฟีลโปร่งโล่ง ห้องทำงานที่ไม่มีสิ่งรบกวนสายตา หรือห้องนอนที่อยากให้บรรยากาศสงบ แต่ข้อควรระวังคือผ้าม่านสีขาว หากผ้าบางไปอาจมองเห็นทะลุเงา ไม่ค่อยเป็นส่วนตัว ฉะนั้นควรเลือกผ้าที่มีเท็กซ์เจอร์หนาขึ้น หรือการใช้ผ้าม่านสองชั้นเพื่อให้ปรับระดับแสงได้ตามต้องการ
4 / 8
ผ้าม่านสีครีมชมพู
โทนครีมชมพูเหมาะกับห้องที่ต้องการบรรยากาศนุ่มนวล เช่น ห้องนอนที่อ่อนหวานโรแมนติก ห้องแต่งตัวที่มีความเฟมินีน หรือห้องนั่งเล่นที่ต้องการเติมกลิ่นอายความน่ารักแบบซอฟต์ละมุน จุดเด่นของโทนนี้คือการผสมผสานความอบอุ่นของสีครีมเข้ากับความหวานของสีชมพู ทำให้ห้องดูสดใส อบอุ่น และละมุนในเวลาเดียวกัน โดยไม่หวานจัดจนเลี่ยนเหมือนการใช้สีชมพูล้วนๆ
5 / 8
ผ้าม่านสีเขียว
สีเขียวเป็นโทนสีที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติ โดยผ้าม่านสีเขียวแต่ละเฉดจะสร้างบรรยากาศแตกต่างกันไป เช่น สีเขียวอ่อนจะให้ความรู้สึกสดชื่น โปร่ง เหมาะกับห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นที่ต้องการมู้ดสบายๆ ส่วนผ้าม่านสีเขียวเข้ม เช่น เขียวมะกอก หรือเขียวฟอร์เรส จะมีความนิ่ง สุขุม และแฝงความหรูหรา เหมาะกับห้องทำงานที่ต้องการสมาธิ หรืออยากให้ห้องรับแขกดูภูมิฐาน
6 / 8
ผ้าม่านสีน้ำตาล
ผ้าม่านสีน้ำตาลให้ความรู้สึกอบอุ่น สุขุม และแฝงความภูมิฐาน เหมาะกับห้องที่ต้องการบรรยากาศจริงจัง เช่น ห้องทำงานที่เน้นสมาธิ หรือห้องรับแขกที่อยากสร้างความน่าเชื่อถือ ข้อควรระวังคือโทนน้ำตาลเข้มมักดูดแสงและทำให้ห้องดูมืดลง หากใช้ในพื้นที่เล็กหรือห้องที่มีแสงธรรมชาติเข้าน้อยอาจทำให้รู้สึกอึดอัดได้ ดังนั้นสำหรับห้องเล็กควรเลือกน้ำตาลอ่อนอย่างคาราเมลหรือน้ำตาลทรายอ่อนเพื่อคงความอบอุ่นโดยไม่ทำให้ห้องดูทึบเกินไป
7 / 8
ผ้าม่านสีฟ้า
ผ้าม่านสีฟ้า ซึ่งเป็นโทนสีเย็นที่ช่วยสร้างบรรยากาศสงบ เย็นสบาย และผ่อนคลาย เหมาะจะมใช้กับห้องนอนที่ต้องการความสบายตาและช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น หรือห้องอ่านหนังสือที่อยากให้สมาธินิ่งขึ้น หากเลือกสีฟ้าอ่อนจะได้มู้ดสดใส อ่อนโยน และโปร่งโล่ง ส่วนสีฟ้าเข้มจะมอบความสุขุม จริงจัง และมีความสมาร์ท เหมาะกับห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นสไตล์โมเดิร์น
8 / 8
ผ้าม่านสีเทาอ่อน
ปิดท้ายด้วยผ้าม่านสีเทาอ่อนเป็นโทนที่ให้ความรู้สึกโมเดิร์น สุขุม และโปร่งเบาในเวลาเดียวกัน เหมาะกับคนที่อยากได้ความเรียบง่าย แต่ยังไม่จืดชืดเกินไป ข้อดีคือเป็นสีที่บาลานซ์ได้ดีกับทุกสไตล์การตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นลอฟต์ มินิมัล หรือคอนเทมโพรารี หากใช้ในห้องทำงานจะช่วยเสริมสร้างสมาธิ ใช้ในห้องนั่งเล่นจะทำให้บรรยากาศดูสงบและมีสไตล์ ส่วนห้องนอนจะได้ความผ่อนคลายแต่ยังคงความเท่





