ประเทศไทยเปิดตัว Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่ ตอกย้ำความสำเร็จของ PORSCHE แบรนด์รถยนต์ระดับโลก!
Cayenne S E-Hybrid Coupé นับเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ถูกประกอบชิ้นส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อส่งออกมายังแฟนๆ ปอร์เช่ชาวไทยโดยเฉพาะ สะท้อนภาพความสำเร็จอีกขั้นของแบรนด์รถยนต์ระดับโลก ที่มาพร้อมกับสมรรถนะและการยกระดับฟังก์ชั่นทั้งภายนอกและภายในแบบครบวงจร
สร้างปรากฏการณ์ให้กับเมืองไทยอีกครั้ง เมื่อ Porsche แบรนด์รถยนต์สัญชาติเยอรมัน ที่มีประวัติมายาวนานกว่า 7 ทศวรรษ ได้ตัดสินใจเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่าง Cayenne S E-Hybrid Coupé รถยนต์ยูเอสวีสปอร์ตรุ่นที่ 2 ที่เป็นผลผลิตมาจากโรงงานประกอบของประเทศมาเลเซีย และนับเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ถูกประกอบชิ้นส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อส่งออกมายังแฟนๆ ปอร์เช่ชาวไทยโดยเฉพาะ สะท้อนภาพความสำเร็จอีกขั้นของแบรนด์รถยนต์ระดับโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
และแม้ว่าปอร์เช่จะวางกลยุทธ์รุกคืบพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากยิ่งขึ้นด้วยการเลือกเปิดโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศมาเลเซียขึ้นเมื่อปี 2022 และประสบความสำเร็จอย่างมากในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี แต่ปอร์เช่ก็ยังคงมองว่าประเทศไทยคือหนึ่งในตลาดสำคัญลำดับต้นๆ ของภูมิภาคแห่งนี้ จึงได้วางอนาคต ยกระดับ และรวมเอาประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งในเส้นทางความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยการเลือกเปิดตัวรถยนต์รุ่นดังกล่าวที่ประเทศไทย โดย Mr. Albrecht Reimold กรรมการบริหารฝ่ายการผลิต ปอร์เช่ เอจี ยังได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับแฟนๆ ชาวไทยเอาไว้ด้วยว่า “วันนี้เราเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตด้วยการยกระดับโรงงานประกอบที่กูลิมอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่า คาเยนน์ (Cayenne) รุ่นแรกที่ส่งออกไปยังภูมิภาคแห่งนี้ จะตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างสูงสุด”
ความน่าสนใจที่โว้กไม่อยากให้คุณพลาดกับรถยนต์รุ่น Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นสำหรับประเทศไทย มีความโดดเด่นอยู่ที่รูปลักษณ์ที่ทรงพลังและติดกลิ่นอายสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับไฟหน้าแบบ HD Matrix LED ดีไซน์ใหม่ กับโมดูลความละเอียดสูง 2 ชุด และพิกเซลกว่า 32,000 พิกเซลต่อโคมไฟ ที่จะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยและความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ขณะที่ล้ออัลลอยลายคาเยนน์มีขนาด 20 นิ้ว อีกทั้งสีเทาเฉด Vesuvius Grey ของล้อยังมอบความหรูหราและความสปอร์ตให้กับรถ SUV คันนี้ได้อย่างลงตัวอีกด้วย
นอกจากนั้นแล้ว ความพิเศษสำหรับแฟนๆ ปอร์เช่ชาวไทยยังสามารถเลือกสีตัวถังได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งมีมาให้เลือกทั้งหมด 3 สีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สีขาวเมทาลิก Carrara White, สีดำเมทาลิก Chromite Black และสีเงินเมทาลิก Dolomite Silver
WATCH
จากภายนอกสู่ภายใน Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่นี้ได้รับการยกระดับด้วยฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การติดตั้งพวงมาลัย GT Sports และแพ็คเกจ Sport Chrono ที่มาพร้อมนาฬิกา Porsche Design ช่วยยกระดับความหรูหราในห้องโดยสาร แถมด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE® เบาะหนังคุณภาพเยี่ยมเลือกได้ 2 สี ทั้งสีดำ และ สีแดงบอร์โด (Bordeaux Red) พร้อมตราสัญลักษณ์ปอร์เช่บนพนักพิงศีรษะที่เบาะคู่หน้า ไม่เพียงเท่านั้น เพราะระบบควบคุมอุณหภูมิยังถูกยกระดับด้วยการแยกออกเป็น 4 โซน ตามมาด้วยเครื่องฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร และเบาะนั่งไฟฟ้าปรับได้ 14 ทิศทางพร้อมระบบจดจำตำแหน่งสำหรับเบาะผู้โดยสารด้านหลัง และม่านบังแดดด้านหลังที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ที่ยิ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายกับผู้โดยสารควบคู่ไปกับไลฟ์สไตล์หรูหรา
ไม่ใช่แค่ดีไซน์แต่ตอบโจทย์การใช้งานแบบครบวงจร เพราะ Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นใหม่สำหรับประเทศไทย มีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยในการขับขี่ ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ระบบช่วยจอด (ParkAssist) พร้อมกล้องรอบทิศทาง (Surround View) และรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Apple® CarPlay และ Rear Seat Entertainment ที่ผ่านการคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเพลิดเพลินกับความบันเทิงอยู่ตลอดเวลามาแล้วอย่างรอบคอบ
Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นนี้ยังมาพร้อมเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 260 กิโลวัตต์ (353 แรงม้า) แรงกว่าเครื่องยนต์ใน Cayenne E-Hybrid ถึง 36 กิโลวัตต์ (49 แรงม้า) เมื่อผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ ส่งผลให้ระบบมีกำลังรวมมากถึง 382 กิโลวัตต์ (519 แรงม้า) และสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 4.7 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 263 กิโลเมตร/ชั่วโมง อีกทั้งยังมาพร้อมกับระยะทางวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 90 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน EAER City) เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่ในกรุงเทพมหานคร
ระบบช่วงล่างใหม่ยังช่วยเสริมความสะดวกสบายด้วยระบบอัจฉริยะ ที่มีระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Porsche Active Suspension Management (PASM) เทคโนโลยี Two-Chamber Two-Valve ช่วยเพิ่มความมั่นคง และง่ายต่อการควบคุมรถยนต์ทั้งบนถนนและทางออฟโรด และยังช่วยเพิ่มความแม่นยำและสมรรถนะของการขับขี่ ลดการโคลงของตัวรถในขณะขับขี่แบบสปอร์ต อีกทั้งยังช่วยให้การปรับโหมดการขับขี่ระหว่าง Normal, Sport และ Sport Plus แตกต่างกันอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นอีกด้วย
ดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า Cayenne S E-Hybrid Coupé รุ่นนี้ สามารถปรับแต่งผ่านไมโครไซต์พิเศษ thcayenne.online ที่สร้างขึ้นสำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ เปิดโอกาสให้แฟนๆ ปอร์เช่ สามารถออกแบบรถยนต์ในฝันได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสีตัวถังหรือการตกแต่งภายใน รวมไปถึงการเพิ่มอุปกรณ์เสริม Tequipment หรือ แพ็คเกจปรับแต่งพิเศษจาก Porsche Exclusive Manufaktur โดยสนนราคาเริ่มต้นที่ 6,290,000 บาท และมีกำหนดส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 เป็นต้นไป หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://thcayenne.online/
ข้อมูล : Courtesy of Porsche
WATCH