LIFESTYLE

8 สารคดีเผยความลับของสิ่งแวดล้อมบน Streaming ที่จะทำให้คุณเห็นว่าโลกนี้เหลือเวลาอีกไม่นาน...

คุณคิดว่าโลกที่คุณยืนอยู่ตอนนี้เหลือเวลาอีกเท่าไหร่...สารคดี 8 เรื่องนี้จะพาไปพบกับความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่มหาศาลจนคาดไม่ถึง รับชมได้ทาง Streaming

จากสารคดีที่เกี่ยวข้องกับวงการแฟชั่นอย่าง The True Cost ไปจนถึง Our Planet ซีรีส์โดย Sir David Attenborough ที่สามารถรับชมได้ทางเน็ตฟลิกซ์—ทั้งหมดนี้คือภาพยนตร์และทีวีโชว์เพื่อเพิ่มเติมความรู้ทางด้านสิ่งแวดล้อมที่คุณไม่ควรพลาด

 

การระบาดของโควิด-19 คือสิ่งที่ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศกำลังให้ความสนใจ แต่ด้วยความสำคัญของงาน UN summit เพื่อการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่จัดขึ้นที่กลาสโกว์เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2020 ผู้เชี่ยวชาญได้มีการแจ้งเตือนว่านี่คือช่วงเวลาที่ทุกๆ คนควรจะตื่นตัวกับปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมและต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม นี่คือ 8 สารคดีเพื่อให้คุณตระหนักถึงความสำคัญของการช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

An Inconvenient Truth (2006) 

สำหรับใครหลายๆ คน สารคดีชื่อดังโดย Al Gore อย่าง An Inconvenient Truth คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราตระหนักถึงผลกระทบที่ร้ายแรงของภาวะโลกร้อน อดีตรองประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก่อนจะมีการแจ้งเตือนเรื่องน้ำท่วม, ภัยแล้ง, เฮอร์ริเคน, และผู้ลี้ภัยทางภูมิอากาศ ซึ่งเกิดจากอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้น—สภาวะที่น่าเป็นห่วงนี้เกิดขึ้นจริงประมาณ 15 ปีให้หลัง ตั้งแต่นั้นมา Gore ได้มีการพูดถึง ‘วิกฤติโลกร้อน’ (climate crisis) ตามมาด้วยสารคดีที่ต่อเนื่องมาจากเรื่องแรก An Inconvenient Sequel: Truth to Power (2017) เพื่อตามติดความพยายามในการต่อกรกับปัญญาที่เกิดขึ้น

รับชมได้ทาง Netflix

The True Cost (2015)

สารคดีเมื่อปี 2015 อย่าง The True Cost จะเปลี่ยนแปลงความคิดที่คุณมีต่อเสื้อผ้าและที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือกระบวนการการผลิตเพื่อให้ได้มาซึ่งเสื้อผ้าเหล่านั้น ย้อนไปยังเหตุการณ์โรงงานผลิตเสื้อผ้า Rana Plaza ทรุดตัวลงเมื่อปี 2013 คร่าชีวิตคนงานจำนวน 1,134 คน ผู้กำกับ Andrew Morgan ทำการสืบหาผลกระทบที่ฟาสต์แฟชั่นส่งผลต่อทั้งคนและสิ่งแวดล้อมในประเทศอย่างบังกลาเทศ, อินเดีย, และกัมพูชา ผู้ผลิตสารคดียังได้ทำการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการแฟชั่นอย่าง Stella McCartney และ Livia Firth ที่มีส่วนร่วมในการเรียกร้องเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในวงการแฟชั่นอย่างเร่งด่วน

รับชมได้ทาง Prime Video



WATCH




RiverBlue (2016) 

ปัญหามลพิษทางน้ำที่เกิดขึ้นจากวงการแฟชั่นกลายเป็นประเด็นสำคัญในสารคดีเมื่อปี 2016 อย่าง RiverBlue ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้สารเคมีในกระบวนการการผลิตเสื้อผ้าที่พวกเราสวมใส่นั้นส่งผลกระทบอย่างไรต่อแม่น้ำในประเทศจีน, บังกลาเทศ, และอินเดีย—น้ำในแม่น้ำเหล่านี้ไม่สามารถนำมาบริโภคได้อย่างปลอดภัยโดยชุมชนที่อาศัยในบริเวณนั้น หนึ่งในคำกล่าวที่น่าจดจำจากสารคดีเรื่องนี้มาจาก Orsola de Castro ผู้ร่วมก่อตั้ง Fashion Revolution: “มีมุกตลกในประเทศจีนที่กล่าวว่า: เราสามารถคาดการณ์สีเสื้อผ้าที่จะมาแรงในซีซั่นนี้เพียงมองจากสีของแม่น้ำ”

รับชมได้ทาง Kanopy

Cowspiracy: The Sustainability Secret (2014)

แม้ว่าการเป็นมังสวิรัติจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ความเกี่ยวข้องระหว่างภาวะโลกร้อนและอุตสาหกรรมปศุสัตว์นั้นยังไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนสักเท่าไรนัก Leonardo DiCaprio เล็งเห็นถึงความสำคัญของประเด็นที่ว่านี้โดยสื่อสารออกมาผ่าน Cowspiracy: The Sustainability Secret เพื่อตามติดผู้ผลิตสารคดีอย่าง Kip Andersen ในการตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงไม่มีการกล่าวถึงประเด็นที่ว่านี้ในปี 2014 สารคดีเรื่องนี้กลายเป็นตัวจุดกระแสความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเนื้อสัตว์ แม้จะทำให้เกิดประเด็นที่เป็นที่วิพากวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางก็ตามที

รับชมได้ทาง Netflix

Before the Flood (2016) 

DiCaprio กลับมาพร้อมกับภารกิจครั้งใหม่ใน Before the Flood โดยในครั้งนี้ เขารับหน้าที่สื่อสารเรื่องราวเบื้องหน้ากล้องด้วยตนเอง นักแสดงและ UN Messenger of Peace ใช้เวลาถึง 2 ปี เพื่อสืบหาที่มาและสาเหตุของภาวะโลกน้อยที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่การตัดไม้ทำลายป่าในอินโดนีเซียอันเนื่องมาจากอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มไปจนถึงการละลายของธารน้ำแข็งที่กรีนแลนด์และขั้วโลกเหนือ สารคดีเรื่องนี้ดำเนินมาจนถึงบทสรุปในตอนที่ DiCaprio ขึ้นกล่าวคำปราศรัยด้วยความฮึกเหิมที่สหประชาชาติในวัน Earth Day เมื่อปี 2016 บอกกล่าวแก่เหล่าผู้นำระดับโลกว่า: “พวกคุณคือความหวังสุดท้ายที่ดีที่สุดของโลกใบนี้ พวกเราขอร้องให้คุณปกป้องดูแลมัน ไม่เช่นนั้น พวกเรา—และสิ่งมีชีวิตทั้งปวงที่พวกเราหวงแหน—จะกลายเป็นเพียงเรื่องราวในหน้าประวัติศาสตร์”

รับชมได้ทาง Filmsforaction.org

Our Planet (2019) 

ถ้าคุณต้องการการย้ำเตือนว่าเหตุใดธรรมชาติถึงต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราในการต่อกรกับวิกฤติโลกร้อน ลองชม Our Planet สารคดีโดย Sir David Attenborough ซีรีส์แปดตอนที่สามารถรับชมได้ทางเน็ตฟลิกซ์นี้ เจาะลึกถึงผลกระทบจากการพุ่งสูงขึ้นของอุณหภูมิที่มีต่อสัตว์ป่าทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ลูกนกฟลามิงโกในแอฟริกาไปจนถึงกอริลล่าบริเวณพื้นที่ราบลุ่มในป่าดิบชื้นของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก Our Planet เปิดตัวหลังสารคดีอีกเรื่องหนึ่งของ Attenborough อย่าง Blue Planet II (2017) ซึ่งทำให้ผู้รับชมตื่นตระหนกไปกับผลกระทบของพลาสติกในมหาสมุทรและการพุ่งสูงขึ้นของอุณหภูมิในท้องทะเลที่ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตในท้องทะเลต้องตกอยู่ในอันตราย

รับชมได้ทาง Netflix

This Changes Everything (2015)

หลังจากที่ This Changes Everything: Capitalism vs The Climate ขึ้นเป็นหนังสือเบสเซลเลอร์เมื่อปี 2014 นักเขียนชาวแคนาดาและนักเคลื่อนไหวทางสังคม Naomi Klein ผลิตสารคดีที่ตั้งคำถามว่า: “จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากการเผชิญหน้ากับวิกฤติโลกร้อนคือโอกาสที่ดีที่สุดที่เราจะได้รับเพื่อสร้างโลกใบใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม?” หลังจากการเยือนชุมชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะโลกร้อน—รวมถึงบริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ของอินเดียและ Athabasca Oil Sands ในเมืองแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา—Klein ชี้ให้เห็นถึงความเกี่ยวพันระหว่างระบบเศรษฐกิจและวิกฤติที่โลกของเรากำลังเผชิญหน้า

รับชมได้ทาง YouTube

2040 (2019) 

ผู้ผลิตสารคดีชาวออสเตรเลีย Damon Gameau ฉายภาพวิสัยทัศน์ที่เขามีต่อโลกอนาคตในปี 2040 จินตนาการถึงโลกของเราในอีก 20 ปีข้างหน้า ถ้าหากเรานำเทคโนโลยีและแนวคิดที่มีอยู่มาปรับใช้เพื่อลดจำนวนคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ นั่นหมายรวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียนเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์, นำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในระบบขนส่ง, เปลี่ยนแปลงเป็นระบบเกษตรกรรมฟื้นฟู (regenerative farming) และการกักเก็บคาร์บอน (carbon sequestration) ดังที่ Gameau เรียกสิ่งนี้ว่าเป็นเรื่อง “เพ้อฝันบนหลักความเป็นจริง”—ถือเป็นสิ่งที่เราสามารถร่วมขบวนการได้อย่างไม่ต้องสงสัย

 

แปล: ชนิสรา กตัญญูทวีทิพย์

ต้นฉบับ: Vogue.in

WATCH