โทนสีห้องครัว

LIFESTYLE

แนะนำ 5 โทนสีแต่งห้องครัว คลาสสิก ดูสวยสะอาดตา

เลือกโทนสีห้องครัวเฉดไหนที่ดูแล้วสบายตา สร้างมู้ดให้กับการทำงานอาหารมากขึ้น

โดย Panyabhassara Promchaiwattana
24 สิงหาคม 2568

          ‘ห้องครัว’ ถือเป็นหัวใจสำคัญของบ้าน ที่ไม่เพียงใช้สำหรับทำอาหาร แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนรสนิยมและสไตล์ของเจ้าของบ้านได้อย่างชัดเจน การเลือกโทนสีในการแต่งห้องครัวจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะสีสันมีพลังในการสร้างบรรยากาศและอารมณ์ให้กับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะโทนสีแบบคลาสสิกที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นสีขาวสะอาด เทาอบอุ่น หรือโทนไม้ธรรมชาติ ล้วนสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและดูสวยไม่เบื่อ ในบทความนี้ โว้กพาไปแนะนำ 5 โทนสีแต่งห้องครัวสุดคลาสสิก ที่จะช่วยเปลี่ยนห้องครัวธรรมดาให้ดูหรูหรา น่าใช้งาน และสะอาดตาขึ้นทันตา

 

  • โทนสีขาว

โทนขาวคือความคลาสสิกเหนือกาลเวลา ช่วยให้ห้องดูโปร่ง สว่าง และสะอาดตาทันที เหมาะกับห้องครัวขนาดเล็กหรือพื้นที่ที่แสงธรรมชาติไม่มาก เพราะสีขาวสะท้อนแสงได้ดี ทำให้รู้สึกกว้างขึ้น จุดสำคัญคือการเลือกอันเดอร์โทนของสีขาวให้เหมาะ ถ้าอยากได้ฟิลบ้านอบอุ่น นุ่มนวล ลองเลือกขาวอุ่น (Warm White) แต่ถ้าเลือกขาวอมเทา (Cool/Neutral White) จะดูมีความโมเดิร์นและคมชัดขึ้น รวมถึงเฟอร์นิเจอร์หรือการตกแต่งภายใน สามารถเล่นสีขาวหลายๆ เลเยอร์ได้ เช่น ตู้เก็บของสีขาวงาช้าง, เคาน์เตอร์ควอตซ์ขาวลายหินอ่อน หรือราวกันเปื้อนที่เป็นกระเบื้องสีขาวด้าน เทคนิคนี้จะทำให้ภาพรวมมีมิติ ไม่แบนเรียบจนเกินไป

Article

ภาพ: istock

  • โทนสีน้ำตาล

โทนสีน้ำตาลจากลายไม้และผิววัตถุดิบธรรมชาติจะให้ความรู้สึกอบอุ่นและความรู้สึกโฮมมี่ทันที เหมาะทั้งสไตล์มินิมัล ญี่ปุ่น-สแกนดิ หรือทรอปิคอล ทั้งนี้ขึ้นกับชนิดไม้และเฉดสเตน เช่น ไม้โอ๊ค จะให้ความสว่างกับตัวห้องครัว รู้สึกสบายตา, ไม้วอลนัต มีเฉดสีเข้ม จึงให้ความรู้สึกหรูหรา ดูอบอุ่น และคลาสสิก นอกจากนี้ยังสามารถบาลานซ์ด้วยการเล่นเทคนิคทิศทางของลายไม้ที่ให้ลูกเล่นและความลื่นไหลของสเปซ การดูแลพื้นผิวไม้ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยถ้าเลือกหน้าบานไม้จริง ควรเคลือบผิวกันความชื้นและคราบมัน เช่น บริเวณเตาหรืออ่างล้างจาน ส่วนใครอยากได้ลุคไม้แต่ดูแลง่าย ลองมองหาวัสดุประเภทเมลามีนหรือวีเนียร์ลายไม้คุณภาพดี เพื่อให้ได้ผิวสัมผัสคล้ายจริงและทนต่อคราบมากกว่า

Article

ภาพ: istock

  • โทนสีน้ำเงิน

โทนสีน้ำเงินที่แนะนำ เช่น Navy, Midnight และ Cornflower ให้ลุคโมเดิร์น สุขุม และดูมีระดับ โทนสีน้ำเงินเหมาะกับการเล่นโทนสว่าง-เข้ม เพื่อสร้างมิติ เช่น ตู้ล่างน้ำเงินเข้ม ตู้บนขาวสว่าง ท็อปหินอ่อน และพื้นไม้หรือกระเบื้องสีอ่อน ทำให้ภาพรวมดูมีชั้นเชิงและไม่ทึบเกินไป สำหรับห้องครัวเล็ก เทคนิคคือจำกัดสีน้ำเงินไว้ที่ส่วนตู้ล่าง แล้วปล่อยส่วนอื่นเป็นสีสว่าง เพื่อบาลานซ์ภาพรวมให้ดูโปร่งและไม่ทึบเกินไป นอกจากนี้การจับคู่วัสดุกับสีน้ำเงินก็สำคัญมาก เช่น ท็อปหินอ่อนหรือควอตซ์สีขาวลายเส้นเทาอ่อน จะช่วยดึงความหรูของน้ำเงินออกมาได้อย่างชัดเจน รวมถึงกระเบื้องสีขาวหรือโมเสกโทนอ่อน สามารถสร้างลายเส้นและเท็กซ์เจอร์ให้ห้องไม่น่าเบื่อได้เช่นกัน

Article

ภาพ: istock

  • โทนสีครีม

ห้องครัวโทนสีครีมคือโทนสีที่มีความอ่อนโยนและดูอบอุ่นกว่าสีขาว เหมาะมากกับสไตล์คลาสสิกหรือมินิมัล เคล็ดลับคือการเล่นความต่างของเนื้อสัมผัสให้เกิดมิติ เช่น ตู้ครีมผิวด้าน ท็อปควอตซ์ครีมลายหิน และกระเบื้องผนังครีมมันเงาเล็กน้อย จะได้ความลึกแบบไม่ต้องพึ่งสีจัด ถ้ากลัวครีมดูเหลือง ให้เลือกครีมอันเดอร์โทนเทา (Greige) จะคมและร่วมสมัยขึ้น นอกจากนี้คู่สีรองอย่างเทาอ่อน, เขียวอมเทา (Sage) หรือโทนสีไม้ธรรมชาติก็ช่วยบาลานซ์ได้ดี โดยโทนสีนี้จะซ่อนฝุ่นได้ดีกว่าขาว จึงควรเลือกสียาแนวโทนสีทรายหรือเทาอ่อน จะคงความสะอาดตาได้ยาวนานขึ้น

Article

ภาพ: istock

  • โทนสีเขียว

โทนสีเขียว เป็นโทนสีที่เหมือนพาธรรมชาติเข้าบ้าน ตั้งแต่ Sage, Olive, ไปจนถึง Hunter หรือForest เป็นโทนสีที่ให้ความสงบ สดชื่น และดูโมเดิร์น โดยสีเขียวอ่อนอย่าง Sage เหมาะกับสแกนดิ/ญี่ปุ่น จับคู่ไม้สีอ่อน ขาวนวล และหินอ่อนเทาเส้นบางๆ ได้บาลานซ์ที่สุด ส่วน Olive/Forest จะให้ลุคที่ดูมีความโมเดิร์นขึ้น เข้ากับท็อปหินอ่อนโทนอ่อนหรือหินควอตซ์สีทรายได้ดี แถมยังเป็นโทนสีที่ดูแลไม่ยาก เพราะสีเขียวเฉดกลาง-เข้มจะช่วยพรางคราบและรอยนิ้วมือได้ดี แต่ควรเคลือบผิวหน้าบานแบบซาตินหรือแมตต์ เพื่อไม่ให้สะท้อนรอยนั่นเอง

Article

ภาพ: istock

ภาพปก : istock