LIFESTYLE
#VogueFoodGuide ดื่มด่ำกับกลิ่นหอมจาก ‘Elderflower’ ดอกไม้กลิ่นละมุน พร้อมสรรพคุณมากมายถือเป็นดอกไม้รับประทานได้ที่ใช้งานได้ครอบคลุม และมาพร้อมคุณประโยชน์อย่างแท้จริง |
กลิ่นหอมยังคงเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของอาหารที่ชวนเราให้รู้สึกอยากรับประทานเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาว อาหารหวาน เครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งวัตถุดิบตามธรรมชาติที่ต่างก็มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ในครั้งนี้ #VogueFoodGuide ขอพาคนรักอาหารและเครื่องดื่มไปทำความรู้จักกับ “Elderflower” ดอกไม้รับประทานได้ ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องกลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสชาติสุดยูนีก
ภาพจาก Hanif Ramadhani บน Unsplash
“Elderflower” หรือดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์เป็นดอกไม้ที่เกิดจากต้นไม้เอลเดอร์ (Sambucus nigra) สามารถรับประทานได้ มักออกดอกเป็นลักษณะช่อฟูฟ่องสีขาวนวล แต่ละดอกมีขนาดเล็กๆ มีกลิ่นหอมหวานเฉพาะตัว และมีรสชาติที่หวานอมเปรี้ยว มักพบได้ทั่วไปในพื้นที่ทวีปยุโรป เอเชียตะวันตกเฉียงเหนือ และอเมริกาเหนือ ซึ่งความนิยมในดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์นั้นปรากฏหลักฐานมาตั้งแต่โบราณกาลโดยสามารถย้อนไปไกลได้ตั้งแต่ช่วงยุคโรมัน ยุคกลาง และยุคเรเนซองส์ โดยในแต่ละยุคจะมีวิธีการใช้ที่นิยมแตกต่างกันไป เช่น ยุคโรมัน มักนำเอาดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ไปสะกัดเอากลิ่นหอมมาทำเป็นน้ำหอม ยารักษาโรคและเครื่องดื่ม ถัดมาในยุคกลางดอกไม้ชนิดนี้มักถูกนำมาเติมในส่วนผสมของชาสมุนไพร ช่วยให้มีกลิ่นหอมและดื่มได้ง่าย ทั้งยังใช้เป็นส่วนผสมในยารักษาโรคและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย ส่วนยุคเรเนซองส์มักนิยมนำมาทำเป็นน้ำหอม เครื่องสำอางและของหวานนั่นเอง
ภาพจาก Svitlana บน Unsplash
ซึ่งในปัจจุบันความนิยมของดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์เพิ่มสูงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีให้หลัง โดยเฉพาะในพื้นที่ยุโรปและอเมริกาเหนือที่เริ่มมีการนำดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์มาใช้ทำชา น้ำหวาน แยม ไซรัป และเครื่องดื่มค็อกเทลต่างๆ รวมถึงในประเทศไทยที่เริ่มมีร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งนำดอกไม้ดังกล่าวมาสร้างสรรค์เป็นเมนูใหม่ๆ เช่น ชา น้ำหวาน ไอศกรีม รวมถึงขนมหวานหลากหลายเมนู
ปัจจัยหลักที่เอลเดอร์ฟลาวเวอร์เป็นที่นิยมนอกจากจะเป็นเรื่องของกลิ่นที่มีความหอมหวาน มีความละมุนเฉพาะตัว หรือรสชาติที่มีความเปรี้ยวอมหวาน ให้ความสดชื่น และรับประทานได้ง่ายแล้ว ยังเป็นเรื่องของสรรพคุณที่มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย เพราะดอกไม้ชนิดนี้อุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1 และวิตามินบี 6 รวมถึงแร่ธาตุต่างๆ อีกมากมาย ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน พร้อมบำรุงผิวพรรณไปในตัว
WATCH
ภาพจาก Hanne Hoogendam บน Unsplash
ไม่เพียงกลิ่น รส และสรรพคุณทางยาเท่านั้น แต่ดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ ยังสามารถหาซื้อได้ง่าย ทั้งรูปแบบดอกไม้สดและดอกไม้แห้ง ตลอดจนกรรมวิธีที่นำมาใช้งานนั้นค่อนข้างง่าย ทำให้หลายต่อหลายคนมักเลือกซื้อมาเป็นวัตถุดิบแต่งกลิ่นและรสชาติอาหาร จนทำให้ดอกไม้ดังกล่าวนี้ได้รับความนิยมไปอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์สามารถหาซื้อได้ทั่วไป โดยเฉพาะในประเทศไทยที่สามารถซื้อได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีเยอะเป็นพิเศษในช่วงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายน สามารถรับประทานได้ทั้งดอกสดโรยหน้าอาหารต่างๆ หรือจะใช้เป็นส่วนผสมในน้ำหวาน แยม หรือชาก็ย่อมได้ เรียกได้ว่าเป็นดอกไม้รับประทานได้ที่ใช้งานได้ครอบคลุม และมาพร้อมคุณประโยชน์อย่างแท้จริง
เรื่อง : Worramate Khamngeon
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim
WATCH