LIFESTYLE
ถอดรหัสนักดนตรีแจ๊ซที่บรรจุอยู่ในแก้วค็อกเทลแห่ง Bamboo Bar
|
เราไม่อยากเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน สำหรับคอดนตรีแจ๊ซย่อมรู้จัก The Bamboo Bar ดีอยู่แล้ว เพราะถ้าพูดถึงบาร์แจ๊ซชั้นนำแห่งแรกของเมืองไทย จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากห้องเล็กๆ ในอาคารประวัติศาสตร์ ออเทอร์ส วิงที่อยู่คู่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ มานานถึง 65 ปี นั่นทำให้ผู้ที่หลงใหลในดนตรีแจ๊ซต่างก็ต้องเคยมาสัมผัสบรรยากาศขรึมขลังของที่นี่กันถ้วนหน้า และหลังจากผ่านการปรับโฉมครั้งใหญ่ไปเมื่อปี 2557 เดอะแบมบูบาร์ก็ยังรักษามาตรฐานเดิมไว้ได้ดีไม่มีตก ด้วยกลิ่นอายใหม่ที่ยังคงไว้ซึ่งจุดแข็งทางด้านเสียงเพลงเหมือนเดิม ทำให้ที่นี่ได้รับการโหวตให้เป็นบาร์ที่ดีที่สุดอันดับที่ 13 แห่งทวีปเอเชีย จาก Asia’s 50 Best Bars 2017
1 / 4
2 / 4
3 / 4
4 / 4
บาร์ที่ดีคงสมบูรณ์แบบไม่ได้หากมีแค่เสียงดนตรี หรือถ้ามีเพียงตัวเลือกของไวน์และวิสกี้ให้จิบก็ดูเหมือนจะขาดอะไรไป ดังนั้น Jamie Rhind ผู้จัดการบาร์คนล่าสุดจึงเกิดไอเดียในการคิดค้นเมนูค็อกเทล A cappella ขึ้น โดยหยิบเอาแรงบันดาลใจจากบรรดานักดนตรีแจ๊ซระดับตำนานมาปรุงใหม่ใส่แก้วเหล้า ไม่ว่า จะเป็น Time After Time ที่เข้มข้นและกลมกล่อมในตัวด้วยส่วนผสมหลัก Zacapa Rum เพิ่มความหอมหวานด้วยเชอร์รี่ช็อกโกแลต ได้กลิ่นและรสเดียวกับการฟังเพลงแจ๊ซ-ป๊อปนุ่มๆ ของ Frank Sinatra ไม่มีผิด หรือ Mixed Emotions ที่ทำให้เรานึกถึง Dinah Washington ราชินีเพลงบลูส์-แจ๊ซขึ้นมาทันที ด้วยส่วนผสมของค็อกเทลผลไม้เน้นสีสันสดใส อย่างแอปเปิ้ล กระเจี๊ยบ ขิง มะนาว เมื่อมาผสมเข้ากับวิสกี้คุณภาพดีก็เกิดเป็นความกลมกล่อมที่จิบเพลินแบบรู้ตัว ยังมีค็อกเทลแอคัปเพลล่าแก้วพิเศษให้คุณได้ลองจิบอีกหลายรายการ หรือลองเดากันเล่นๆ ก่อนก็ได้ว่า Kiss on Fire, Cheek to Cheek หรือ Hey, Porter! จะมีรสชาติแบบไหน แล้วค่อยไปจิบเรียกเฉลยที่เดอะ แบมบูบาร์ พลางฟังเพลงแจ๊ซสดๆ จากนักร้องนักดนตรีฝีมือดีที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาบรรเลงความสุขให้เต็มอิ่มกันทุกคืน
The Bamboo Bar โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โทร. 0-2659-9000, www.mandarinoriental.com/bangkok
WATCH
WATCH