LIFESTYLE
เปิดฉากใหม่ของภาพยนตร์แนวสงคราม เมื่อภาพยนตร์สงครามจากเยอรมันคว้าออสการ์ถึง 4 สาขาAll Quiet on the Western Front คือผลงานคุณภาพเยี่ยมที่ก้าวข้ามบรรทัดฐานและภาพจำภาพยนตร์สงครามแบบเดิมๆ |
ประวัติศาสตร์สงครามเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในทุกสังคม ตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษสหรัฐอเมริกาคือผู้ผลิตสื่อที่สร้างเรื่องราวประวัติศาสตร์ในมุมมองของตัวเองมาโดยตลอด โดยเฉพาะสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ที่ภาพยนตร์แนวสงครามจำนวนมากจะถูกผลิตขึ้นและเผยแพร่ในเชิงวีรบุรุษ หรือถ้านำเสนอกึ่งสารคดีก็ยังเป็นมุมมองของฝั่งสหรัฐฯ หรือสัมพันธมิตร น้อยครั้งที่เราจะเห็นเรื่องราวชีวิตจากมุมตรงข้าม และด้วยความนอกกระแสเหล่านั้นส่งผลให้น้อยครั้งมากที่เราจะได้ยินชื่อภาพยนตร์สงครามระดับโลกมาจากฝ่ายผู้พ่ายแพ้ในสงครามอันยิ่งใหญ่
All Quiet on the Western Front คือภาพยนตร์น้ำดีจากประเทศเยอรมัน ฝีมือการกับของ Edward Berger โดยเส้นเรื่องในภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกถอดแบบมาจากวรรณกรรมในชื่อเดียวกัน เขียนโดย Erich Maria Remarque นักประพันธ์ชาวเยอรมัน ซึ่งเรื่องราวบอกเล่าประสบการณ์ของแนวหน้าฝั่งกองทัพเยอรมันจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่องราวอิงประวัติศาสตร์เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกของเด็กหนุ่มที่ไม่รู้จุดหมายปลายทางในสงคราม ความโหดร้ายที่ค่อยๆ กัดกินร่างกายและจิตใจกลายเป็นฝันร้ายที่ไม่มีใครอยากเจอ
แท้จริงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้เคยถูกสร้างในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษมาแล้วในปี 1930 แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมหรืออยู่ค้างเป็นตำนานขนาดนั้น จนกระทั่งในปี 2022 เวอร์ชั่นภาษาเยอรมันถูกทำใหม่อีกครั้ง มันกลายเป็นภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมที่ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวก และกลายเป็นเต็งจ๋าในเวทีประกาศรางวัลหลายเวทีทั่วโลก รวมถึงออสการ์ด้วย อีกทั้งยังได้รับกระแสความนิยมจากการเข้าฉายบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่างเน็ตฟลิกซ์หลังเข้าฉายรอบปฐมทัศน์ ณ เทศกาลภาพยนตร์เมืองโตรอนโตเพียงเดือนเดียวเท่านั้น
ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ในเวทีประกาศรางวัลคือการเป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอมุมมองจากทหารคนหนึ่งในกองทัพฝ่ายแพ้สงคราม อีกทั้งยังเป็นผลงานการผลิตจากประเทศเยอรมันด้วย ซึ่งนักแสดงและทีมงานแทบทั้งหมดล้วนเป็นคนเยอรมัน หากย้อนกลับไปหลายสิบปีก่อนภาพยนตร์เรื่องนี้อาจติดกับดักอคติ พร้อมถูกยึดโยงเข้ากับประวัติศาสตร์ความขัดแข้ง การให้รางวัลแก่ผลผลิตทางวัฒนธรรมของฝ่ายตรงข้ามในสงครามอาจเป็นเรื่องน่าประหลาด แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เนื้อหา โปรดักชั่น และองค์ประกอบอื่นๆ ถูกมองเป็นผลผลิตเชิงศิลปะของประชาชนโลก แง่มุมใน All Quiet on the Western Front จึงกลายเป็นการนำเสนอมุมมองใหม่ในสงครามที่ครั้งหนึ่งอาจโดนตีกรอบไว้ในขอบเขตที่ไม่อาจไปไหนได้ไกล
ภาพยนตร์คุณภาพเยี่ยมเข้าชิงถึง 9 รางวัล และคว้าไปถึง 4 รางวัลคือ ภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้ออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม และ กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นับเป็น 4 รางวัลคุณภาพที่การันตีความสามารถของผู้อยู่เบื้องหลังผลงานอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าเวทีออสการ์เปลี่ยนไปแล้ว เรื่องราวสงครามในอดีตที่เคยเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและยากต่อการลบอคติ ตอนนี้มันแปรเปลี่ยนสู่มุมมองที่เปิดกว้างและไร้ซึ่งอคติต่องานศิลปะ ดังนั้นการที่ All Quiet on the Western Front เข้าป้ายในฐานะผู้คว้ารางวัลออสการ์ไปถึง 4 จาก 9 รางวัล ย่อมสะท้อนภาพของอุตสาหกรรมบันเทิงยุคใหม่ รวมถึงการพูดถึงหน้าประวัติศาสตร์ดั้งเดิมที่ไม่จำเป็นต้องเป็นวีรบุรุษหรือชาตินิยมจนเกินพอดี เพราะในมุมอื่นจากหลากหลายมุมทั่วโลกย่อมมีเรื่องราวที่พร้อมเล่าขานในแบบฉบับของตัวเอง เมื่อวางตัวเป็นผู้ตัดสินความเป็นธรรมอันไร้ซึ่งอคติคือแนวทางที่ควรยึดถือมากที่สุด
WATCH
WATCH