LIFESTYLE

เปิดมุมมองโลก Virtual Reality เพื่อผู้หญิง...กับการคุกคามทางเพศ การคลอดบุตร และเซ็กส์สุดเร่าร้อน

โลกเสมือนจริง Virtual Reality กำลังถูกใช้เพื่อสำรวจความต้องการของผู้หญิงจนอาจกลายเป็น Virtual Sexology ที่ใครๆ ก็อยากลอง

ไม่ได้เป็นเพียงแค่อาณาจักรของเกมเมอร์และ Geek เท่านั้น Virtual Reality หรือโลกเสมือนจริงกำลังได้รับการบุกเบิกในฐานะตัวช่วยชิ้นสำคัญของผู้หญิงในหลากหลายด้าน ทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับการคุกคามทางเพศในสถานที่ทำงานไปจนถึงการสำรวจความต้องการของผู้หญิง แม้กระทั่งการยับยั้งความเจ็บปวดระหว่างคลอดบุตร

ในเดือนพฤศจิกายน 2016 ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล Morgan Mercer ตื่นขึ้นพร้อมไอเดียสำหรับ Vantage Point โปรแกรมเทรนนิ่งเรื่องการคุมคามทางเพศผ่านโลกเสมือนจริง ในฐานะเหยื่อผู้รอดชีวิตจากการกระทำความรุนแรงทางเพศถึงสองครั้ง เธอให้ความสนใจเป็นอย่างมากในการหาวิธีที่จะเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับประเด็นปัญหานี้ ทั้งเรื่องการแบ่งแยกทางสีผิวและการแบ่งแยกทางเพศ ซึ่งใครหลายๆ คนอาจไม่เคยประสบพบเจอในชีวิตของตนเอง เธอได้ตระหนักแล้วว่า Virtual Reality สามารถแปรเปลี่ยนความอึดอัดจากการสัมมนาที่มีการสาธิตท่าทางในระยะประชิดให้กลายมาเป็นการเทรนนิ่งในโลกเสมือนจริง ในช่วงเวลาที่โปรแกรมของเธอได้ทำการเปิดตัว ความเคลื่อนไหวของ #MeToo กำลังได้รับความสนใจจากทั่วทุกมุมโลก คดีต่างๆ ที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชน ตั้งแต่ Hollywood Hills ไปจนถึงหน่วยงานราชการและที่ประชุมขององค์กรต่างๆ ไอเดียของ Mercer ไม่เพียงแค่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ยังเป็นสิ่งสำคัญจำเป็นสำหรับผู้คนในยุคสมัยนี้

“มันเป็นการยากที่จะอธิบายความรู้สึกที่คุณไม่เคยสัมผัส จริงไหม?” เธอกล่าว “มันยากมากสำหรับฉันในการบอกให้คุณรับรู้ว่าความรักทำให้คุณรู้สึกเช่นไร หากคุณไม่เคยรู้สึกมันมาก่อน มันยากมากที่จะบอกให้คุณรับรู้ว่าความกลัวทำให้คุณรู้สึกอย่างไร หากคุณไม่เคยกลัวมาก่อน” และนั่นคือเหตุผลที่ Vantage Point ทำให้ผู้เข้าร่วมได้เข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้นโดยตรง เช่นเดียวกับวีดิโอเกม สิ่งแรกที่ต้องทำคือการเลือก ‘อวตาร’ หรือตัวแทนของเราในโลกเสมือน ซึ่งก็คือผู้ที่จะเห็นเหตุการณ์การคุกคามพนักงานในสถานที่ทำงาน ระหว่างการเทรนนิ่ง อวตารตัวนี้จะได้รับทางเลือกที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นไปของสถานการณ์ การตัดสินใจในรูปแบบหนึ่งจะส่งผลไปในทิศทางหนึ่ง ส่วนการตัดสินใจในอีกรูปแบบหนึ่งก็จะส่งผลไปในอีกทิศทางหนึ่ง แต่ทุกๆ การตัดสินใจมาพร้อมผลลัพธ์ที่ตามมา ตัวกระตุ้นทางอารมณ์ที่มักจะพบเจอในเหตุการณ์จริง วิธีการพูดคุยในบทสนทนา การรุกล้ำพื้นที่ส่วนบุคคล ได้รับการเลียนแบบเพื่อให้ผู้เข้าร่วมค่อยๆ สะสมความตึงเครียด Mercer กล่าวว่า หลังจากการเทรนนิ่ง ผู้เข้าร่วมที่เป็นผู้ชายมักจะบอกกับเธอว่าพวกเขาไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของการถูกคุมคามจนได้เข้าร่วมในโปรแกรมนี้



WATCH




ในขณะที่คนส่วนใหญ่รู้จัก Virtual Reality จาก The Matrix เมื่อปี 1999 ทุกวันนี้ VR กลับกลายมาเป็นเทคโนโลยีที่จับต้องได้จริง; Oculus Go รูปแบบเฮดเซ็ตมีราคาอยู่ที่ประมาณ 8,800 บาท และการที่ Mark Zuckerberg ออกประกาศว่ามีแผนการที่จะพาผู้คนหลักพันล้านคนเข้าสู่โลกเสมือนจริง (เฟซบุ๊คเข้าซื้อ Oculus ในปี 2014 ด้วยราคา 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ถือเป็นปรากฎการณ์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง และ Mercer เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่ต้องการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางมากกว่าแค่เหล่าเกมเมอร์ในห้องมืด

 

ถ้าตัดความน่าตื่นตาตื่นใจของเกมยิงปืนที่เล่นพร้อมกันได้หลายคนและประสบการณ์การออกกำลังกาย คุณจะค้นพบฟังก์ชั่นอันหลากหลายที่สร้างขึ้นสำหรับ VR ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง การสร้างประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายสำหรับผู้ใช้ VR สามารถเป็นได้ทั้งการบุกเบิกและการทำลายล้างได้ในเวลาเดียวกัน และความสามารถในการดึงดูดผู้คนให้จมจ่อมอยู่กับสิ่งซึ่งอยู่ตรงหน้าคือประโยชน์ชั้นดีที่เหมาะสมกับการบอกเล่าเรื่องราวที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิง ตั้งแต่โปรเจกต์ที่นำคุณเข้าไปอยู่ในงานปาร์ตี้ที่เกิดเหตุการณ์การคุกคามทางเพศไปจนถึงการจัดการกับความเจ็บปวดระหว่างการคลอดบุตร

แต่โลกเสมือนจริงจะสามารถเปลี่ยนแปลงมุมมองของเราและสร้างความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นได้จริงหรือไม่… ใน TED talk ที่มีชื่อว่า How Virtual Reality Can Create The Ultimate Empathy Machine (โลกเสมือนจริงจะสามารถสร้างคนให้มีความเห็นอกเห็นใจได้อย่างไร) ผู้ผลิตภาพยนตร์ Chris Milk ให้ความเห็นว่า VR สามารถเชื่อมโยงผู้คนในรูปแบบที่สื่อประเภทอื่นไม่สามารถทำได้ สารคดีสั้นของเขา Clouds Over Sidra จัดทำขึ้นด้วยความร่วมมือกับสหประชาชาติ เพื่อให้ผู้ชมตามติดชีวิตของเด็กอายุ 12 ปี ผู้อพยพชาวซีเรียที่อาศัยอยู่ในค่ายอพยพในประเทศจอร์แดน หลังจากการฉายสารคดีสั้นเรื่องนี้ในงานระดมทุน ยอดบริจาคพุ่งสูงถึง 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมากกว่ายอดที่ตั้งไว้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์

 

Jeremy Bailenson ศาสตราจารย์ผู้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องระหว่างโลกเสมือนจริงและความเห็นอกเห็นใจที่ Stanford University มาตั้งแต่ปี 2003 พบว่า VR สามารถเสริมสร้างความเข้าใจในมุมมองของผู้คนที่แตกต่างไปจากเรา อย่างไรก็ตาม การทดลองของเขาไม่ได้ให้ผลลัพธ์ในทางบวกไปเสียทั้งหมด โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของเชื้อชาติ “ถือเป็นประสบการณ์ที่ทรงพลังเป็นอย่างมากที่เราสามารถอาศัยร่างอวตารในการเรียนรู้เรื่องราวของผู้ถูกกระทำ แต่ฉากและเหตุการณ์ในโลกเสมือนจริงไม่สามารถที่จะรวบรวมทุกๆ มุมมองและทุกๆ ความรู้สึกที่คนคนหนึ่งต้องพบเจอจากการถูกเลือกปฏิบัติในชีวิตจริง” Bailenson เขียนไว้ในหนังสือของเขา Experience on Demand อีกความหมายหนึ่งก็คือ แม้แต่ในโลกเสมือนจริงก็ยังมีข้อจำกัด

โปรแกรมเทรนนิ่งเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการคุกคามทางเพศอย่าง Vantage Point นั้นได้นำข้อบกพร่องที่ว่านี้มาพิจารณาด้วยเช่นกัน ความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมได้รับการวิเคราะห์เพื่อพัฒนาและปรับปรุงประสบการณ์ในโลกเสมือนจริงให้ดียิ่งขึ้น ถ้าหากผู้เข้าร่วมเหล่านี้เห็นช่องทางในการเข้าแทรกแทรงแต่ไม่ได้ลงมือกระทำ เป้าหมายก็คือการทำให้พวกเขามีบทบาทในการหยุดการคุกคามได้ทันท่วงทีในครั้งต่อไป ถ้าหากพวกเขาเลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและปฏิบัติต่อผู้ร่วมงานอย่างเย็นชา เรายังคงหวังว่าพวกเขาจะได้เรียนรู้ที่จะปฏิบัติต่อผู้ร่วมงานด้วยความเห็นอกเห็นใจมากยิ่งขึ้นและกลับเข้าร่วมการเทรนนิ่งอีกครั้งหนึ่ง “มันคือการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” Mercer กล่าว “จนกว่าทุกๆ คนจะมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี”

 

Dinorah Hernandez จากบาร์เซโลน่าได้ต่อยอดความสามารถของ VR ในเรื่องการรับรู้ความรู้สึกที่แนบชิดสำหรับบางอย่างที่แตกต่างออกไป: การเป็นตัวช่วยในเรื่องความต้องการของผู้หญิง ในฐานะผู้อำนวยการและผู้จัดการด้านคอนเทนต์ของ BaDoink VR เธอเชี่ยวชาญด้านการสร้างสื่อลามกเสมือนจริงสำหรับการจดจ้องของผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม เธอเปลี่ยนมาทำคอนเทนต์สำหรับผู้หญิงเมื่อปีที่แล้วในโปรเจก Virtual Sexology II: What Women Want ประสบการณ์ในโลกเสมือนจริงที่ผสมผสานการเรียนรู้ทางด้านเพศของผู้หญิงกับเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ “ด้วย VR คุณสามารถเข้าถึงประสบการณ์ได้อย่างเต็มที่ในพื้นที่ส่วนตัวของคุณ” Hernandez อธิบาย “ความคิดของเราก็คือ Virtual Sexology มอบโอกาสในการฝึกฝนและสำรวจด้วยตัวของคุณเอง เพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นใจเมื่ออยู่กับคนอื่น”

ความพยายามแรกในการดึงดูดสายตาของผู้หญิงนั้นค่อนข้างจะท้าทายสำหรับ Hernandez ผู้หญิงต้องการการสบตามากขนาดไหน? คุณจะหาบาลานซ์ที่เหมาะสมระหว่างความอ่อนหวานและความเร่าร้อนได้อย่างไร? ผลลัพธ์ก็คือภาพยนตร์ความยาว 48 นาที พร้อมเหล่านักแสดงอย่าง Jay Smooth นักแสดงหนังลามกที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่แตกต่างภาพจำของนักแสดงในวงการนี้ (“ผู้หญิงมักจะไม่ต้องการชายกล้ามโตเป็นมัดๆ” Hernandez ให้ความเห็น) “ผมต้องการคุณมากเหลือเกิน” Smooth ร้องเรียกในขณะที่เขามองตรงไปยังอวตาร สวมบทบาทโดยนักแสดงหญิง Katie Morgan ร่างกายของเธอทำหน้าที่แทนร่างกายของผู้สัมผัสประสบการณ์นี้ เมื่อ Smooth เริ่มลามเลียนิ้วเท้าของเธอ มุมมองที่ผู้ร่วมประสบการณ์จะมองเห็นก็คือการนอนหงายและจ้องมองเขาบนเตียง

 

เมื่อ Smooth และ Morgan เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงวอยซ์โอเวอร์จะทำหน้าที่อธิบายประโยชน์ของการสัมผัสอย่างแนบชิดที่ส่งผลต่อทั้งร่างกายและจิตใจสำหรับคู่รักที่มีปัญหาในการเชื่อมโยงกันทางกาย ฉากต่อไปมาพร้อมตัวละครหญิงผมสีแพลตินั่มบลอนด์และอวตาร เพื่อสำรวจเซ็กซ์ทอยและการหายใจไปพร้อมกับการอธิบายของผู้บรรยายเกี่ยวกับการกระตุ้นเร้าทางอารมณ์ของผู้หญิง นอกจากนี้ BaDoink ยังร่วมงานกับเซ็กซ์เทอราพิสต์เพื่อพัฒนาคอนเทนต์ที่จะช่วยสร้างคุณค่าในทางบวกต่อความต้องการของผู้หญิงด้วยเช่นกัน

หลังจากทำงานอยู่หลังกล้องมาถึง 4 ปี Hernandez สามารถรับประกันถึงพลังอันเหนือจริงของ VR เธอย้อนความถึงช่วงถ่ายทำในฉากที่นักแสดงเสยผมใกล้ๆ กับกล้อง Hernandez รู้สึกถึงแรงลมที่พัดผ่านใบหน้าของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะยืนอยู่ห่างๆ และสวมแว่นกันลมอันใหญ่ หลังจากการถ่ายทำเป็นเวลาหลายชั่วโมง สมองของเธอเริ่มพร่าเลือนระหว่างจินตนาการและความเป็นจริง และเริ่มเติมเต็มส่วนที่เซนเซอร์ลงในภาพเคลื่อนไหวที่เธอกำลังรับชม “มันเป็นประสบการณ์ที่จริงเสียยิ่งกว่าจริง” เธอยอมรับ “คุณอาจสูญเสียตัวตนไปกับโลกเสมือนได้โดยไม่รู้ตัว”

 

แปล: ชนิสรา กตัญญูทวีทิพย์

ต้นฉบับ: Vogue.co.uk

WATCH