ออกแบบ ชุติมณฑ์
LIFESTYLE

'คุณกำลังหิวแค่ไหน'...จับเข่าคุยกับ 'ออกแบบ-ชุติมณฑน์' นักแสดงนำหญิงคนสำคัญจาก Hunger

ออกแบบจะดูว่า สิ่งที่เขาวิจารณ์นั้นเอามาใช้ต่อได้ไหม เขาว่าเราเพื่อความสะใจหรือเปล่า เราจำเป็นต้องแยกออกจากกันให้ขาด อะไรที่ไม่ใช่เราก็ต้องทิ้ง อะไรที่ใช่เราถึงจะเก็บไปพัฒนาต่อ เพราะสุดท้ายแล้วมันมีแค่เราที่เดินต่อ เขาดู เขาด่า เขาจบแค่ตรงนั้น แต่เราต้องไปต่อ...

ภาพ: นาทนาม ไวยหงษ์

เรื่อง: พีรณัฐ จันทร์สกุลณี

-----------------------------------------------------------

     กำลังตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในเวลานี้ สำหรับภาพยนตร์ไทยบน Netflix เรื่องใหม่ล่าสุดอย่าง HUNGER ภาพยนตร์แนวดราม่าที่เลือกเอาอาชีพซูส์เชฟ ผู้อยู่เบื้องหลังจานอาหารระดับไฟน์ไดนิ่งมาร้อยเรียงเรื่องราวสุดเข้มข้น ที่ได้นักแสดงสาวมากความสามารถ 'ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง’ มารับบทนำที่เพียงแค่มองปราดเดียวจากโปสเตอร์โปรโมตและตัวอย่างเต็มก็รู้แล้วว่า ออกแบบจะพาให้ผู้ชมทุกคนได้ดำดิ่งลงไปถึงก้นบึ้งของการแสดงอีกครั้งอย่างที่เธอเคยทำมาแล้วก่อนหน้านี้ในผลงานภาพยนตร์เรื่องก่อน ซึ่งในครั้งนี้โว้กไม่พลาดนั่งจับเข่าคุยกับออกแบบถึงบทบาทล่าสุดของเธอใน Hunger และการแสดงของเธอตลอด 5 ปีที่ผ่านมาในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ในฐานะของหนึ่งในนักแสดงหญิงมากความสามารถน่าจับตา

ออกแบบ ชุติมณฑ์

Vogue Thailand: โว้กรู้จักออกแบบทั้งในฐานะของนางแบบและนักแสดงซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ชัดเจนทั้งคู่ แต่สำหรับออกแบบแล้วชอบบทบาทใดมากกว่ากัน และทั้งสองบทบาทนี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างไรบ้างในความคิดของออกแบบ

Aokbab: ออกแบบคิดว่าทั้งสองบทบาทดูแทบจะไม่มีอะไรต่างกันเลยค่ะ ในฝั่งของนางแบบใช้อินเนอร์ ส่วนนักแสดงก็เป็นการใช้อินเนอร์แบบ Inside Out เหมือนกัน ซึ่งมันคืออารมณ์ของตัวละคร หรือภาพที่เราอยากสื่อสารออกไปให้ผู้ชมได้เห็น กล่าวคือมันเป็นการสื่อสารเหมือนกัน และโดยส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้คิดว่ามันต่างขนาดนั้น และถ้าถามว่าชอบบทบาทไหนมากกว่ากัน ออกแบบชอบเป็นนักแสดงมากกว่าค่ะ เพราะนางแบบมักจะถูกเปลี่ยนแปลงไปตามคอนเซปต์ของคอลเล็กชั่นที่ดีไซเนอร์คนนั้นๆ ออกแบบ แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือนางแบบจะติดความสวยงาม แต่สำหรับนักแสดงเราสามารถบิดเป็นอะไรก็ได้ ทำให้เราได้ท้าทายตัวเองในหลายๆ ด้าน เราเลยรู้สึกว่าเราได้เติมช่องโหว่ในร่างกายของเรา

Vogue Thailand: เคยสงสัยไหมว่า ทำไมผู้กำกับทุกคนถึงเลือกใช้ออกแบบในบทบาทที่จริงจัง และเข้มขึงอยู่เสมอ

Aokbab: ส่วนตัวคิดว่าเป็นเพราะภาพจำ และยังไม่มีภาพใหม่ให้คนได้เห็น ยังไม่ได้มีโอกาสได้เล่นบทที่ทำให้คนเห็นว่า ออกแบบอ่อนแอได้ เพราะคนจะมองภาพลักษณ์ภายนอกที่เรามั่นคงไปหมดเสียทุกอย่าง แล้วเขาก็เลยรู้สึกว่าเขาไม่สามารถที่จะบิดเราให้เป็นไปในทางอ่อนแอได้เลย แต่จริงๆ แล้วอยากลองเป็นคนอ่อนแอนะ เป็นผู้ถูกกระทำบ้าง

ออกแบบ ชุติมณฑ์

Vogue Thailand: แล้วผลงานเรื่องไหนที่รู้สึกว่า ‘สุด’ มากที่สุด

Aokbab: เรื่อง Hunger นี่แหละ ที่รู้สึกว่าจริงจังที่สุดตั้งแต่ที่เล่นมา มันอันตรายหลายอย่าง ทั้งเข้าครัว ทั้งเล่นกับไฟจริงๆ ตอนนั้นเครียดมาก เดชะบุญไม่โดนมีดบาด แต่ก็โดนน้ำมันกับไฟ ซึ่งมันก็ทำให้เราเข้าใจคนที่อยู่ในครัวมากขึ้นนะ แต่ที่พีกที่สุดคือออกแบบต้องเข้าฉากไปขายราดหน้าที่ร้านข้างทางจริงๆ แล้วก็มีลูกค้ามาตะโกนสั่งจริงๆ “เอาเส้นใหญ่ ราดหน้า!” แบบนั้นเลย ตลกมาก ได้สัมผัสประสบการณ์จริงๆ นอกจากนี้เหตุไม่คาดฝันก็คือ กอง Hunger ต้องชะงักไปช่วงหนึ่ง เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งมันยากนะ หนังอาหารมันเป็นหนังลงรายละเอียด อาหารที่ต้องทิ้ง งบที่เสียไปเยอะมาก แม้ว่านักแสดงกลับมาต่อบทไม่ยาก แต่ทีมทำงานยากมาก เพราะเราคาดเดาไม่ได้เลยว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น แล้วก็แค่แสดงแล้วทำอาหารไปด้วยนี่ก็ไม่เคยทำมาก่อนแล้วนะ (หัวเราะ) เป็นเรื่องที่ปล่อยใจฝันมากเหมือนกัน ไม่งั้นมันเล่นไม่ได้ มันต้องปล่อยเลย แล้วที่เราเล่นเนี่ย เล่นกับเชฟจริงๆ ทุกคนนะ

Vogue Thailand: เตรียมตัวหนักแค่ไหนกับภาพยนตร์เรื่องนี้

Aokbab: ออกแบบต้องฝึกสกิลทำอาหารจริงๆ มีไปเสิร์ฟอาหารจริงๆ ที่ร้านวรรณยุกต์ด้วย ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนกว่า ได้เรียนรู้เบื้องหลังครัวทุกวัน แล้วก็ต้องไปออกกำลังกายเพิ่มด้วย เพราะในเรื่องต้องยกกระทะหนักๆ เพราะกล้ามเนื้อเราไม่ถึง ยกแล้วข้อมันหัก



WATCH




ออกแบบ ชุติมณฑ์

Vogue Thailand: ออกแบบคือหนึ่งในนักแสดงที่มีฝีมือการแสดงระดับท็อปในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย และเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงไม่กี่คนในอุตสาหกรรมนี้ที่มักจะได้รับบทนำชัดเจนที่สุด ออกแบบรู้สึกอย่างไรบ้างที่สามารถพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนเห็นได้ว่านักแสดงหญิงก็สามารถมีพื้นที่หยัดยืนได้อย่างภาคภูมิ

Aokbab: การได้รับโอกาสให้เป็น Leading Role หลายๆ ครั้ง มันทำให้ออกแบบรู้สึกว่าออกแบบเป็นตัวแทนของเพศที่ไม่ใช่เพศใดเพศหนึ่ง ที่ได้กรุยทางและเปิดโอกาสให้กับอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น ซึ่งถ้าสังเกตเมื่อก่อนส่วนมากก็จะมีแต่ผู้ชาย สัดส่วนของผู้หญิงจะน้อยมาก แต่ตอนนี้ทุกเพศก็มีโอกาสได้ขึ้นมาเท่าเทียมกันจริงๆ ซึ่งก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ช่วยผลักดันเรื่องนี้ มันสะท้อนให้เห็นว่าโลกหมุนไปถึงไหนแล้ว และคำว่าเท่าเทียมกันจริงๆ มันควรเป็นอย่างไร

Vogue Thailand: ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ออกแบบได้บทเรียนอะไรบ้างจากการก้าวข้ามมาเป็นนักแสดงเต็มตัว

Aokbab: อยู่ในวงการภาพยนตร์มา 5 ปี ในฐานะของนักแสดงหญิงคนหนึ่ง มันเปลี่ยนออกแบบไปมาก เราเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เราต้องพัฒนาให้ทันโลกมากขึ้น ตั้งแต่บทบาทการทำงาน มุมมอง และการผลิตสิ่งใหม่ๆ ออกมาให้ผู้คนได้รับชม อีกทั้งออกแบบยังเห็นวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยไปพร้อมๆ กันด้วย อย่างเช่นประเด็นเรื่องการทำงาน 12 ชั่วโมงของเน็ตฟลิกซ์ที่ได้รับการวิพากษ์อย่างเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมัยใหม่อย่างมาก เพราะเมื่อก่อนเรามักได้ยินข่าวว่าอุตสาหกรรมนี้ใช้แรงงานคนเกินกว่าที่ควรจะเป็น แต่พอมันมีกฎ 12 ชั่วโมงขึ้นมา แล้วทำได้จริง ทุกคนที่เห็นความสำเร็จนั้นก็อยากจะปฏิบัติตามแนวทางนี้ที่เป็นมิตรกับแรงงานทุกคนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง

ส่วนตัวออกแบบเองมันก็เปลี่ยนมุมมอง และวิถีการเรียนรู้ของเราไปเยอะมาก จากเมื่อก่อนที่เราเป็นเด็กแฟชั่นที่จ้องแต่จะอินแค่เรื่องแฟชั่น ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเราได้เสพสิ่งที่เรียกว่า ‘คัลเจอร์’ อื่นๆ มากขึ้น เราเสพศิลปะ ภาพยนตร์ และเพลงมากขึ้น มันทำให้แหล่งอ้างอิงแรงบันดาลใจในชีวิตของเราเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งมันมีข้อดีตรงที่ว่า เราก็ได้เพิ่มสิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตเรามากขึ้น

ออกแบบ ชุติมณฑ์

Vogue Thailand: ออกแบบมีกลไกการรับมือคอมเมนต์ด้านลบอย่างไรบ้าง

Aokbab: เคยเจอกระแสด้านลบหนักๆ ตอนที่ยังเด็กมาก ทำอะไรไม่ถูกก็ร้องไห้ไปเลย มันเป็นซีรี่ส์เรื่องหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว แต่ถ้าเป็นตอนนี้ เราก็คงจะดูว่าสิ่งที่เขาวิจารณ์นั้นเอามาใช้ต่อได้ไหม เขาว่าเราเพื่อความสะใจหรือเปล่า เราจำเป็นต้องแยกออกจากกันให้ขาด อะไรที่ไม่ใช่เราก็ต้องทิ้ง อะไรที่ใช่เราถึงจะเก็บไปพัฒนาต่อ เพราะสุดท้ายแล้วมันมีแค่เราที่เดินต่อ เขาดู เขาด่า เขาจบแค่ตรงนั้น แต่เราต้องไปต่อ

Vogue Thailand: ออกแบบได้อะไรจากการแสดงภาพยนตร์เรื่อง Hunger

Aokbab: ได้มิตรภาพ ได้รู้จักคุณค่าของอาหารโคตรๆ เลย รู้เลยว่าเวลาเหนื่อยในครัวมันเป็นอย่างไร มันไม่ใช่แค่ทำแล้วจบ ถ้าทีมไม่รักกัน ไม่จับมือกันไป มันก็ไม่สำเร็จจริงๆ

Vogue Thailand: แล้วออกแบบคิดว่าคนดูจะได้อะไรจากภาพยนตร์เรื่องนี้

Aokbab: คนดูจะได้ถามตัวเองว่าคุณกำลังหิวอะไร ความหิวของคนเราไม่เหมือนกัน ความพึงพอใจของเราอยู่คนละจุดกัน ออกแบบคิดว่าเรื่องนี้จะทำให้คุณได้เห็นตัวเองชัดขึ้นว่าคุณอยู่ในจุดไหนของเรื่อง คุณเป็นใคร และความหิวของคุณตอนนี้มันไปถึงตรงไหนแล้ว...

WATCH

คีย์เวิร์ด: #Hunger #Netflix