LIFESTYLE
จุดบอดของวงการซีรี่ส์ Y ไทย...การต่อยอดงานเดี่ยวที่ล้มเหลว และบิวตี้สแตนดาร์ดคับแคบจริงอยู่ที่ว่า 'ซีรี่ส์ Y' ของไทยคือพื้นที่ทางลัดแจ้งเกิดให้กับเด็กหนุ่ม แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะอยู่รอด เพราะมีหลายชีวิตที่ยอมลงมาเล่นซีรี่ส์ Y แต่ก็ไม่ได้แจ้งเกิดสักที จนต้องยอมแพ้และออกจากวงการนี้ไปในที่สุด |
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ‘อุตสาหกรรมซีรี่ส์ Y ของไทย’ คือหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของวงการบันเทิงไทยปัจจุบัน ทั้งในแง่ของกระแสนิยม, รายได้จากในและต่างประเทศ รวมไปถึงพื้นที่การแจ้งเกิดให้กับนักแสดงหน้าใหม่นับไม่ถ้วน ที่แห่กันหลั่งไหลเข้ามาไม่รู้จบ กระนั้นอุตสาหกรรมที่ดูเหมือนกำลังขึ้นหม้อ และรุ่งเรืองถึงขีดสุดเช่นนี้ ก็ใช่ว่าจะไม่ประสบปัญหาเสียเมื่อไหร่ เพราะแม้ว่าอุตสาหกรรมซีรี่ส์ Y จะดูเป็นเหมือนพื้นที่ของโอกาสอันกว้างใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันพื้นที่แห่งนี้ก็คือตราบาปและฝันร้ายของใครหลายคนเช่นเดียวกัน
แต่ไหนแต่ไร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่อุตสาหกรรมซีรี่ส์ Y ไทยฟูมฟักและเติบโต มีเด็กชายมากหน้าหลายตาเดินทางเข้ามาอาศัยสปอตไลต์ของที่แห่งนี้เพื่อแจ้งเกิดให้กับตัวเอง ทั้งหน้าเก่าที่อยู่มานานแรมทศวรรษแต่ไม่เคยได้แจ้งเกิดสักที และหน้าใหม่ที่อาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการแสดงที่ดีคืออะไร ทุกคนล้วนแล้วแต่บินเข้ากองไฟ (สปอตไลต์) อย่างไม่ลดละ แม้ว่าหลายคนจะร่วงหล่นไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีอีกหลายชีวิตที่อยู่รอดโบยบินอย่างสง่างาม (อยู่เกลื่อนเมือง) จนไม่อาจปฏิเสธได้ว่านี่คือพื้นที่ทางลัดของเด็กหนุ่มที่อยากจะโด่งดังเร็วกว่าทางอื่นๆ โดยเฉพาะในปัจจุบัน
ที่ว่ารอดหรือไม่รอดในอุตสาหกรรมซีรี่ส์ Y ไทยนั้น ไม่ได้ยึดโยงอยู่กับเพียงปัจจัยด้านการแสดงเท่านั้น ทว่า Beauty Standard อันเป็นที่นิยมชมชอบของเหล่าสาว Y และสังคม ก็เป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยที่ตัดสินว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะอยู่รอดได้นานแค่ไหนในวงการนี้ ซึ่งแน่นอนว่าที่สังเกตเห็นได้ชัดในยุคปัจจุบันที่ความงามแบบ K-Pop เฟื่องฟูไปทั่วทุกภูมิภาคของพื้นที่เอเชียอาคเนย์เช่นนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้นเทรนด์บิวตี้แบบ ‘Flower Boy’ ที่ต้องมีหน้าตาสะอาดหมดจด บุคลิกเจ้าสำอางเล็กน้อยเมื่ออยู่หน้ากล้อง และผิวพรรณแบบหนุ่มเกาหลีเป๊ะๆ หรือกระทั่งสามารถนำไปต่อยอดด้านงานโฆษณาเครื่องสำอางผู้ชาย (ที่ล้ำหน้าไปกว่าผู้หญิงเป็นไหนๆ ในยุคนี้) ได้ด้วยก็จะยิ่งดี จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นเด็กหนุ่มเป็นโขยงที่มีความหล่อเหลาตามบิวตี้แสตนดาร์ดดังกล่าวอยู่รอดปลอดภัยในพื้นที่ของซีรี่ส์ Y ไทย ส่วนที่เหลือก็กระจัดกระจายไปตามทางของตัวเอง โชคดีหน่อยก็อยู่รอดพร้อมคู่ชิปของตัวเองก็เท่านั้น นั่นแหละคือจุดบอดที่น่าขบคิด
นักแสดงซีรี่ส์ Y หลายคนในประเทศสารขัณฑ์แห่งนี้ มีความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะลบภาพจำการเป็นนักแสดงซีรี่ส์ Y ให้สิ้นซาก ก่อนเริ่มโปรเจกต์ครั้งใหม่ จนกลายเป็นแพตเทิร์นที่ถูกทำซ้ำต่อกันมานาน ประมาณว่า เล่นซีรี่ส์ Y แล้วก็ดัง แล้วก็ไปทำอย่างอื่น ทิ้งอดีตนั่งร้านที่ตัวเองเคยยึดเกาะปีนป่ายสู่วงการมายาไว้แบบนั้น ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดบาปอะไร...แต่แน่ใจหรือว่าภาพ Y มันจะไม่ตามพวกคุณไปด้วย
จริงอยู่ที่นักแสดงซีรี่ส์ Y หลายคนกระโดดออกจากพื้นที่ปลอดภัยมาทำงานเดี่ยวทั้งด้านงานศิลปินหรือนักแสดงก็ตาม จนประสบความสำเร็จ แต่คู่ชิปของคุณก็ยังเป็นเงาตามตัวอยู่ในสักที่บนโลกโซเชียลมีเดีย ไม่ช่องทางใดก็ช่องทางหนึ่ง เหล่าแฟนคลับที่เคยชิปคู่ของคุณก็ยังคงตามสนับสนุนคุณด้วยแฮชแท็กคู่ที่ขึ้นแทรนด์ทวิตเตอร์อยู่ทุกวี่วัน ที่ชัดเจนไปกว่านั้นก็คือ แม้ว่านักแสดงเหล่านี้จะสละทิ้งซึ่งคู่ชิปแล้วออกมาทำงานเดี่ยว พร้อมประกาศกร้าวว่า ‘ดังเดี่ยวได้!’ แต่เมื่อพิจารณาให้ดีแล้วคู่ชิปของเขาก็ยังวนเวียนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนั่นแหละ บ้างก็มาปรากฏตัวในฐานะพระเอกเอ็มวี บ้างก็มาปรากฏตัวเป็นนักแสดงรับเชิญในซีรี่ส์ที่ตัวเองโดดไปเล่นคู่กับนักแสดงหญิงแล้วเรตติ้งดันตกฮวบ บ้างก็มาปรากฏตัวในรายการยูทูปทุกอีพี หรือกระทั่งจัดคอนเสิร์ตคู่ทุกไตรมาส ทั้งที่ซีรี่ส์จบไปเมื่อหลายปีก่อนแล้วก็ตาม เพราะอะไรน่ะหรือ...ก็เพราะว่านักแสดงซีรี่ส์ Y ไทยมันขายเดี่ยวได้ไม่ดีเท่าขายเป็นคู่ไงล่ะ แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดี นักแสดง 2 คนนั้นต้องคู่กันไปจนตายเลยไหม แล้วอย่างนี้เรียกว่าลบภาพจำได้จริงๆ ไหม อันนี้ก็น่าคิด
WATCH
ด้วยพื้นที่ของอุตสาหกรรมซีรี่ส์ Y ไทยที่ขยับขยายจนกว้างใหญ่ในยุคนี้ ทำให้เกิดปัญหาสำคัญคือ ‘ความเกร่อ’ ของการผลิตงานซีรี่ส์ Y ที่มีมากขึ้นตามพื้นที่ธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว จากที่ประเทศไทยเคยมีซีรี่ส์ Y ปีละไม่กี่เรื่อง แต่ตอนนี้จำนวนซีรี่ส์ Y น่าจะแซงหน้าจำนวนละครน้ำเน่าไปแล้วด้วยซ้ำ นั่นหมายถึงการแข่งขันทางการตลาดที่สูงลิบลิ่วตามไปด้วย และการแจ้งเกิดเด็กชายสักคนในพื้นที่นี้ก็ยากขึ้นตามไปด้วยเช่นเดียวกัน เพราะคู่แข่งมากหน้าหลายตา ทั้งบนดินใต้ดิน คิดแล้วก็ยิ่งปวดหัวแทนนักแสดงซีรี่ส์ Y สมัยนี้ที่จ้องจะแจ้งเกิดจากตลาดอันหนาแน่น อย่างไรก็คงต้องเอาใจช่วย
ความเกร่อของซีรี่ส์ Y ไทย ก็อาจจะมีข้อดีอยู่บ้างหากมองด้วยแว่นของความหลากหลาย ก็ถือเป็นกำไรของคนดูที่จะได้มีตัวเลือกได้มากขึ้น รองรับผู้ชมที่มีรสนิยมหลากหลาย แต่นั่นก็แค่ส่วนหนึ่ง เพราะจริงๆ แล้วความเกร่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแค่ตัวนักแสดงที่ต้องแข่งขันสูงขึ้น หรือแม้แต่การประชาสัมพันธ์และเกมการตลาดของค่ายต่างๆ ที่ต้องคิดให้รอบคอบและเข้มข้นกว่าเดิม ทว่ามันยังส่งผลต่อการสร้างจุดขายให้กับซีรี่ส์ของตัวเอง ซึ่งส่วนมากที่เห็นในซีรี่ส์ Y ไทยก็คือ ฉาก NC สุดเร่าร้อนที่ยิ่งเร่าร้อนขึ้นไปอีกเมื่อต้องแข่งขันกันเอาเรตติ้ง ราวกับว่าไม่มีใครสนว่าเนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไร แต่ฉากจูบแบบดูดดื่ม หรือการมีเพศสัมพันธ์กันของตัวละครต้องเข้าใกล้หนังเรตอาร์ให้มากที่สุด นั่นเองไม่ได้ทำให้เกิดแค่คำถามตามมาว่าคุณภาพของผลงานอยู่ตรงไหน แต่ดังที่เห็นว่ามันยังเชื่อมโยงไปถึงกฎหมายการทำอนาจารผู้เยาว์ที่หลายคนไม่ได้คำนึงถึง เราเลยได้เห็นนักแสดงซีรี่ส์ Y ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (Minor) มายืนจูบแลกลิ้นกันอย่างโจ่งแจ้งทั้งในจอนอกจอ เพื่อแลกเอาแค่เรตติ้ง และกระแสนิยมในช่วงสั้นๆ โดยมีสาว Y เรือนหมื่นยืนเชียร์เย้วๆ ที่ดาราที่ตนรักเขาสนองตัณหาให้ตัวเองได้สำเร็จ คิดแล้วก็น่าเศร้า
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของจุดบอดที่สังเกตเห็นได้ชัดจากอุตสาหกรรมซีรี่ส์ Y ไทย ที่ก็ยังคงเป็นหมุดหมายสำคัญของเหล่าเด็กชายที่ยังคงมีความฝัน และต้องฝ่าอุปสรรคด้วยความพยายามอย่างมาก เพื่อมายืนหยัด ณ จุดนี้ แม้ว่าปลายทางจะต้องร่วงหล่นก็ตาม ซึ่งผู้เขียนก็ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะคำนึงถึงจุดบอดเหล่านี้กันมากขึ้น เพื่อสร้างความยุติธรรมให้กับนักแสดงที่มีความสามารถจริงๆ ให้ได้เติบโตอย่างสวยงามในพื้นที่นี้ เพื่อยอมรับในอุตสาหกรรมซีรี่ส์ Y ในฐานะพื้นที่แจ้งเกิดไม่ต่างจากละครน้ำเน่าชายหญิง และไม่สลัดมันทิ้งหลังจากที่มันสร้างชื่อเสียงเงินทองให้กับใครแล้วก็ตาม เพื่อการเติบโตต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของอุตสาหกรรม พร้อมกับคุณภาพของตัวซีรี่ส์เอง และแน่นอนว่าเพื่อให้คนหันมาตระหนักถึงสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายที่อาจจะเคยละเลยไปก่อนหน้านี้ เพราะตัณหามันบังตาหรืออะไรก็ตาม...
WATCH