ย้อนรอยเส้นทางความสำเร็จ 'Sydney Sweeney' ดาราหญิงดาวรุ่งดวงใหม่ของโลกภาพยนตร์
จากนักแสดงสมทบสู่การเป็นนักแสดงนำอย่างเต็มตัวนั้นเธอไม่ได้ผ่านมาง่ายๆ
วงการฮอลลีวู้ดอาจถูกเปรียบเสมือนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยประกายแสงระยิบระยับจากเหล่าดวงดาวน้อยใหญ่ แต่กว่าดวงดาวเหล่านั้นจะได้เปล่งแสงอันงดงามออกมาต่างก็ผ่านความยากลำบากและความพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองต่ออุตสาหกรรมบันเทิงอันเลื่องชื่อนี้ และในครั้งนี้เราจะชวนแฟนๆ ไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งนักแสดงหญิงมากความสามารถ ที่อาจกลายมาเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของโลกภาพยนตร์นั่นคือ “Sydney Sweeney”
ภาพจาก childstarlets.com
Sydney Sweeney เกิดและเติบโตในเมืองสโปแคน รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอได้เติบโตมาท่ามกลางบรรยากาศครอบครัวที่เคร่งครัดโดยแม่ของเธอเป็นทนายความด้านคดีฆาตกรรม และพ่อของเธอเป็นผู้ทำงานด้านการบริการ ในช่วงวัยเด็กเธออาจเรียกได้ว่าเป็นเด็กกิจกรรมตัวยง ทั้งการลงแข่งกีฬา เล่นฟุตบอล สกี และการทำกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในช่วงเวลานั้นเธอก็ได้ออดิชั่นเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์อิสระ อีกทั้งยังงานแสดงในเชิงพาณิชย์อื่นๆ จนกระทั่งได้ย้ายมาอยู่ในลอสแอนเจลิสด้วยวัย 13 ปี
หลังจากย้ายมาเรียนที่โรงเรียนใหม่ซิดนีย์ก็ยังคงเดินบนเส้นทางนักกิจกรรมไม่ว่าจะเเป็นผู้นำทีมหุ่นยนต์ เข้าร่วมชมรมคณิตศาสตร์ และอื่นๆ จนกระทั่งในปี 2016 หลังจบการศึกษาเธอก็ได้โอกาสในการเข้าทำงานที่ Universal Studio Hollywood และนั่นทำให้ก้าวเดินเล็กๆ บนอุตสาหกรรมจอแก้วได้เริ่มต้นขึ้น
ภาพจาก mtv.com
ภายหลังการทำงานที่ Universal Studio Hollywood ซิดนีย์ก็ได้รับการว่าจ้างให้เป็นนักแสดง ก่อนที่จะเริ่มในสายงานนี้อย่างจริงจังในฐานะดารารับเชิญของรายการโทรทัศน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 90210, Criminal Minds, Grey's Anatomy และ Pretty Little Liars จนกระทั่งในปี 2018 ที่เธอได้รับโอกาสเล่นซีรี่ส์ร่วมกับ Netflix ในเรื่อง Everything Sucks! ซึ่งถือเป็นผลงานแจ้งเกิดของเธออีกหนึ่งเรื่อง ก่อนจะไปปรากฏตัวใน Sharp Objects บน HBO ที่ทำให้เธอเริ่มมีบทบาทมากขึ้น
WATCH
ภาพจาก screenrant.com
ถัดมาในปี 2019 ก็เป็นอีกหนึ่งปีทองของเธอก็ว่าได้ กับการได้ร่วมเป็นหนึ่งในนักแสดงจากซีรี่ส์แนวดราม่าเรื่อง Euphoria ซึ่งถือเป็นซีรี่ส์ที่ครองใจวัยรุ่นหลายคน ในครั้งนี้เธอได้รับบทบาทเป็น “Cassie Howard” และบทบาทดังกล่าวนี้ก็ได้พาเธอเข้าใกล้เส้นชัยแห่งความสำเร็จมากยิ่งขึ้น เพราะเธอได้รับรางวัล Hollywood Critics Association TV Awards ปี 2020 สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ตลอดจนการถูกเสนอชื่อเข้าชิงในฐานะนักแสดงหญิงสมทบยอดเยี่ยมบนเวที Primetime Emmy Awards ในปี 2022 ถือเป็นรางวัลที่ตอกย้ำความสำเร็จของเธอเป็นอย่างมาก
ภาพจาก imdb.com
ถึงแม้ชีวิตในอุตสาหกรรมบันเทิงของเธออาจเรียกได้ว่าโตมากับการเป็นนักแสดงสมทบ แต่ด้วยความสามารถที่เธอแสดงให้เห็นผ่านผลงานแต่ละชิ้น ทำให้ในที่สุดจากนักแสดงหญิงสมทบก็ได้เติบโตและกลายเป็นนักแสดงนำเสียที ไม่ว่าจะเป็น “Anyone But You” ในบทบาทของ Bea หรือเรื่อง “Madame Web” ในบทบาทของ Julia Cornwell ที่ได้แสดงร่วมกับนักแสดงมากฝีมืออย่าง Dakota Johnson หรือจะเป็นเรื่อง “Immaculate” ภาพยนตร์สยองขวัญที่ครั้งนี้ซิดนีย์ได้สวมบทบาทเป็นซิสเตอร์ Cecilia ซึ่งเป็นตัวละครหลักที่คอยดำเนินเรื่อง เรียกได้ว่าการก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงนำอย่างเต็มตัวถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่ได้ผลักเธอเข้าสู่การประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงอยู่ไม่น้อย
ภาพจาก imdb.com
นอกจากการเติบโตมาในฐานะนักแสดงของเธอแล้ว ซิดนีย์ยังเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ทำงานควบคู่ไปกับการเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยเธอมีธุรกิจส่วนตัวอย่าง “Fifty Suns Films” บริษัทที่ผลิตภาพยนตร์และซีรี่ส์ร่วมกับ Hannah Levien ตลอดจนกิจการด้านการกุศลอย่าง “National Alliance on Mental Illness” ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิต เพราะเธอได้เผยว่าครั้งหนึ่งตัวเธอเองก็ได้ประสบปัญหาภาวะวิตกกังวลและอาการซึมเศร้า จึงต้องการให้ชื่อเสียงที่เธอได้รับมาเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้
ด้วยทักษะในด้านการแสดงของเธอที่ถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี ตลอดจนความสามารถในด้านต่างๆ ที่ซิดนียืได้ฝากฝังให้เราได้เห็นผ่านแต่ละผลงาน ทำให้หลายๆ คนต่างคอยจับจ้องและให้ความสนใจเธอ ในฐานะนักแสดงดาวรุ่งแห่งอุตสาหกรรมบันเทิง และเราอาจต้องคอยติดตามกันต่อไปว่าซิดนีย์จะมีผลงานอะไรให้เราได้รับชมกันอีกบ้างในอนาคต
เรื่อง : Worramate Khamngeon
เรียบเรียง : Ramita Naungtongnim
WATCH