ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากค่าย Marvel ต้องการสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อนำเสนอแก่ผู้ชมเสมอ นั่นหมายความว่าทีมงานทุกคนล้วนต้องเป็นทีมงานคุณภาพที่พร้อมทำทุกส่วนตั้งแต่ก่อน ระหว่าง และหลังการถ่ายทำให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ดังนั้นการที่ใครสักคนจะก้าวเข้าไปอยู่ในจุดที่ทำงานเหล่านี้ต้องมีฝีมือและได้รับโอกาสในเวลาที่พอเหมาะ และแล้วก็มีคนไทยคนหนึ่งโพสต์สถานะในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการได้ร่วมงานกับค่ายยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมบันเทิงโลก พร้อมกับจารึกชื่ออยู่ในเครดิตท้ายเรื่องของภาพยนตร์เรื่อง “Thor Love and Thunder” วันนี้โว้กจึงพร้อมเผยบทสัมภาษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟของบุคคลที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถและความพยายามคนนี้

     ปลั๊ก-โสภณ หนูนุรัตน์ คือบุคคลต้นเรื่องของเราในบทความนี้ เขามีดีกรีเป็นบัณฑิตจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ภาควิชานิเทศศิลป์ สาขาวิชานิเทศศิลป์ สถาบัน เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และศึกษาด้านการกำกับด้านเอฟเฟกต์เพิ่มเติม ณ ประเทศแคนาดา ซึ่งแรกเริ่มเขาก็มุ่งหน้าในเส้นทางสายแอนิเมชั่นและการทำเอฟเฟกต์พิเศษทันที แต่นั่นไม่ใช่สายงานที่ตรงกับที่เรียน ซึ่งสิ่งที่ทำให้คุณปลั๊กเดินหน้าด้วยเหตุผลเดียวคือความรัก “ใช่ครับงานนี้เป็นงานเฉพาะทางมาก และไม่ได้เป็นที่รู้จักในประเทศไทยเท่าไหร่ครับ ที่จริงผมไม่ได้สนใจว่าสังคมแวดวงนี้จะกว้างหรือไม่ ผมสนใจในสิ่งที่ผมรักจะทำมากกว่า” เขากล่าวถึงความมุ่งมั่นในการทำตามใจรักมากกว่าปัจจัยรอบด้านอื่นๆ
 

     พอโว้กถามถึงการตัดสินใจเดินหน้าอย่างจริงจังคุณปลั๊กก็เผยว่า “เหตุผลในการเลือกเดินเส้นทางนี้คือการที่ผมได้ตื่นตัว อยากจะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เพราะงานนี้เป็นสายงานที่มีสิ่งที่รอให้เราค้นพบมากมาย และคิดว่าผมจะได้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ และเป็นสายงานที่ชอบที่สุด” หนุ่มวัย 29 ปี กำลังดำเนินชีวิตตามความมุ่งมั่นที่ต้องการเรียนรู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งจุดเริ่มต้นของเขาก็ไม่ได้เรียบง่าย เพราะเต็มไปด้วยการลองผิดลองถูก คุณปลั๊กเริ่มฝึกงานตั้งแต่ช่วงปี 3 กับบริษัทแอนิเมชั่นแห่งหนึ่ง และทำงานต่ออีก 2 ปี มุ่งหน้าสู่รั้วทหารอีก 1 ปี และกลับมาทำงานฟรีแลนซ์อีกถึง 2 ปี ณ เวลานั้นเขาก็ตัดสินใจรับงานที่หลากหลายมากขึ้นกว่าแค่บริษัทสังกัดเดิม ก่อนจะตัดสินใจไปศึกษาเพิ่มเติม ณ ประเทศแคนาดา เพื่อสร้างเสริมหลักวิชาในการทำงานด้านนี้ให้เข้มข้นมากขึ้น

     การกลับมาสู่ประเทศไทยเพื่อเริ่มชีวิตการทำงานเต็มตัวอีกครั้ง...ทว่าเริ่มได้แค่ 8 เดือนคุณปลั๊กก็เตรียมทะยานเดินทางในแวดวงเบื้องหลังในต่างประเทศ โดยเริ่มที่ Movie Pictures Company London (MPC) แต่ก็ทำได้ไม่นาน Framework บริษัทดังที่มีงานร่วมกับทางค่ายมาร์เวลก็ติดต่อให้เขาไปร่วมงานด้วย แน่นอนว่าเขาไม่ปฏิเสธและกลายเป็นสมาชิกในทีมของเฟรมเวิร์กในที่สุด จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้บุคลากรคุณภาพคนนี้ได้สอดแทรกเข้าไปมีบทบาทในภาพยนตร์มาร์เวล อันเป็นเรื่องราวที่ดึงดูดทุกคนให้สนใจในความสามารถและความพยายามของหนุ่มคนนี้

     เมื่อเราถามเกี่ยวกับความฝันและมาร์เวล คุณปลั๊กตอบอย่างเรียบง่ายว่า “มันเป็นความฝันที่เกิดขึ้นกับหลายๆ คนเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานมาก เพราะจุดเริ่มต้นมาจากการที่ผมได้ชมภาพยนตร์ของมาร์เวล แล้วลองอ่านชื่อท้ายเครดิตไปเรื่อยๆ จนคิดว่าสักวันหนึ่งอยากจะมีชื่อบนลิสต์นี้ในฐานะศิลปินผู้รังสรรค์ผลงานบ้าง และมันเป็นสิ่งที่ดูท้าทายดีเมื่อเทียบกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ ณ ตอนนั้น” และเมื่อเขาร่วมงานเป็นหนึ่งในทีมเฟรมเวิร์กการสานฝันก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

     แม้ทิศทางผลตอบรับของภาพยนตร์มาร์เวลจะไม่ได้ยอดเยี่ยมนัก แต่คุณปลั๊กก็ยังคิดว่ามันเป็นประสบการณ์ล้ำค่า “มีกระแสเชิงลบเกี่ยวกับการร่วมงานกับมาร์เวล แต่ส่วนตัวตามประสบการณ์ส่วนตัว ผมรู้สึกชอบและเข้าใจในสิ่งที่มาร์เวลต้องการ นั่นคืออยากให้งานด้าน VFX ออกมาดีที่สุดและนี่ก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการเช่นกัน” เรียกว่าเป้าหมายของมาร์เวลและคุณปลั๊กไปในทิศทางเดียวกัน นี่คือสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาได้รับยิ่งกว่าเครดิต แต่หมายถึงการได้ร่วมงานกับองค์กรที่มองเป้าหมายในรูปแบบที่ช่างเหมือนกันเหลือเกิน

     สิ่งที่ประทับใจของคุณปลั๊กคือการทำงานเป็นทีม เขาเล่าว่าทุกคนรู้หน้าที่และทิศทางของงาน ซึ่งจะทำให้ผลงานออกมาดีที่สุด และทุกคนก็พร้อมช่วยเหลือกันเสมอ นอกจากเป้าหมายสูงสุดในการทำงานแล้ว วิธีการทำงานก็สำคัญไม่แพ้กัน “การพัฒนาอย่างที่สองของผมคือการสื่อสารภายในทีม เราจะมีการประชุมทุกวันตอนเช้า และคุยกันเกี่ยวกับปัญหาและช่วยกันหาทางออกให้งานสำเร็จลุล่วงตามแผน” คุณปลั๊กกล่าวถึงการพัฒนาตัวเองหลังจากร่วมงานกับทีมระดับโลกแบบนี้ ซึ่งเมื่อความฝันตรงนี้ถูกเติมเต็ม เขารู้สึกดีใจมากและรู้สึกคุ้มค่าแรงกายแรงใจที่ทุ่มเทไปทั้งหมดตลอดหลายปีที่ผ่านมา

     ในอนาคตเราจะได้เห็นผลงานของคุณปลั๊กอย่างแน่นอน ซึ่งเขาแอบบอกว่ากำลังซุ่มทำภาพยนตร์และซีรี่ส์อยู่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ พร้อมหวังว่าจะมีชื่อท้ายเครดิตในภาพยนตร์หลายๆ เรื่องต่อไปในอนาคต สุดท้ายเขาก็ฝากถึงทุกคนว่า “ผมหวังว่าบทความนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนที่กำลังตามฝันอยู่ ขอให้สู้ต่อไป ถึงแม้จะผิดหวัง ท้อแท้ เสียใจ หรือรู้สึกมืดมนไม่มีทางออกก็ตาม” พร้อมฝากวลีเด็ดไว้ว่า “ทุกความล้มเหลวคือการก้าวเข้าใกล้ความสำเร็จ” แฟนโว้กอย่าลืมเดินหน้าตามความฝัน พัฒนาตัวเอง และติดตามผลงานของคุณปลั๊กต่อไปในอนาคต นี่คือหนึ่งในบุคลากรที่เป็นตัวอย่างให้กับทุกคนสู้ได้อย่างหนักแน่นที่สุดคนหนึ่ง