ตีแผ่เพลง ‘XL’ ซิงเกิ้ลล่าสุดจากซิลวี่ ที่พร้อมต่อสู้กับ ‘ความงามยุคเก่า’ แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน

     “F*ck it we’re all beautiful”... นี่คือประโยคไฮไลต์ที่ติดหูคนฟังจากเพลง “XL” โดย ซิลวี่ นักร้องวัย 25 ปี กับการเปิดตัวเป็นศิลปินภายใต้สังกัด Warner Music Asia อย่างเป็นทางการ พร้อมสร้างมาตรฐานผ่านปรากฏการณ์ครั้งใหม่กับซิงเกิ้ลแรก ที่ต้องการตะโกนบอกผู้หญิงพลัสไซส์ทุกคนให้รัก และมั่นใจในตัวเอง พร้อมตั้งคำถามเพื่อทำลายมายาคติความงามของสังคมยุคเก่าให้หายไปอย่างสิ้นซาก ซึ่งก็นับว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยทีเดียว เมื่อล่าสุดบนยูทูปสามารถคว้ายอดผู้ชมไปมากเกือบ 4 แสนครั้งแล้ว ภายในระยะเวลาเพียง 2 วันเท่านั้น อีกทั้งยังถูกแชร์ต่อนับไม่ถ้วนจนเกิดเป็นกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ที่อาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวถกเถียงในประเด็น “บรรทัดฐานความงาม” ของสังคมไทยอีกครั้ง

     ซิลวี่-ภาวิดา มอริจจิ คือนักร้องลูกครึ่งไทย-อิตาลี ที่แจ้งเกิดจากรายการประกวดร้องเพลง The Star ปีที่ 7 ในวัยเพียง 15 ปีเท่านั้น ฝากผลงานเพลงเอาไว้มากมาย ทั้ง แอบมีน้ำตา, เธอคนเดิม, เราจะรักกันยังไง และอีกมากมาย ก่อนที่เธอจะหายหน้าหายตาไปสักพัก และกลับมาโชว์พลังเสียงให้เหล่าแฟนคลับได้เซอร์ไพรส์ และหายคิดถึงกันอีกครั้งในรายการแข่งขัน The Voice เมื่อปี 2017 พร้อมกลับมาโลดแล่นอยู่ในวงโคจรของอุตสาหกรรมเพลงไทยอยู่เรื่อยๆ ซึ่งหากใครที่ได้ติดตามซิลวี่มาโดยตลอดผ่านบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอ @sylvypavida ก็จะรู้โดยทันทีว่า เธอคนนี้คือหนึ่งในนักร้องไทยไม่กี่คนที่กล้าจะลุกขึ้นมาปฏิวัติภาพจำ และมายาคติเกี่ยวกับรูปร่างของเพศหญิงที่ไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามที่สังคม หรือใครกำหนดเสมอไป หากแต่ตัวเธอต่างหากที่เป็นคนกำหนดเอง แม้ว่ารูปร่างของซิลวี่จะไม่ได้เป็นตามบรรทัดฐานความงามของโลกยุคเก่า(ที่ใกล้ตกโลกเต็มทน) แต่ซิลวี่ก็แสดงให้เห็นว่าเธอมีชีวิตประจำวันที่มีความสุขกับร่างกายของเธอ อีกทั้งเธอยังออกกำลังกาย และสามารถทำให้ร่างกายของเธอสมบูรณ์แข็งแรงได้ไม่แพ้คนอื่น กระนั้นอีกหนึ่งสิ่งที่นับว่าน่าสนใจไม่น้อยก็คือ ไม่เพียงมิติของรูปร่างเท่านั้น ที่ซิลวี่กล้าลุกขึ้นมาตั้งคำถาม แต่ซิลวี่ยังลุกขึ้นมาแต่งตัวเซ็กซี่เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และยืนยันให้สาวพลัสไซส์คนอื่นๆ ในสังคมได้เห็นว่า เราทุกคนมีสิทธิ์จะสวมใส่อะไรก็ได้ ไม่ว่าจะมีรูปร่างแบบใดก็ตาม 

     ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้เอง ถูกถ่ายทอดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ซิงเกิ้ลชื่อ XL ที่ซิลวี่ได้ร่วมเขียนเนื้อร้องกับโปรดิวเซอร์ชื่อดังอย่าง Richard Craker และนักแต่งเพลงอย่าง Stephen David Jones ร่วมด้วย Valentina Ploy ซึ่งเนื้อเพลงทั้งหมดที่ผู้ชมหลายคนคงได้ฟังไปแล้วนั้น ก็เปรียบเหมือนกระจกที่สะท้อนถึงเส้นทางชีวิตของซิลวี่ที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย ทั้งการปฏิบัติต่อตัวเธอของคนในสังคม รวมไปถึงคำปรามาสนับไม่ถ้วน ที่เธอและสาวๆ พลัสไซส์หลายคนต้องพบเจอ ดังเช่นในเนื้อเพลงตอนหนึ่งที่บอกเอาไว้ว่า “ผู้คนมากมายต้องการให้ฉันเป็นไปตามกรอบที่ถูกกำหนดไว้ แต่ฉันรู้สึกแตกต่างจากคนอื่น นี่ไม่ใช่ฉันเลย จะอ้วนเกินไป ผอมเกินไป หรือตัวหนาเกินไป แล้วมันทำไม ฉันเคยเศร้าหนักมากเพราะอยากมีในสิ่งที่ไม่เคยมี ต้องค้นหาเส้นทาง เพื่อที่จะลืมความเจ็บเหล่านั้น ร่างกายของฉัน ชีวิตของฉัน ฉันขอเลือกเอง” (People, used to put me in a box. They made me something that I’m not. Too fat, too skinny, too thick, so what!? I used to be so f*cking sad. Wanting what I knew I never had. Had to find a way, to numb the pain. My body my life I’ll do it my way) ซึ่งนี่เองที่ไม่ใช่เพียงเนื้อเพลงดาดดื่นที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อความคล้องจองไพเราะเท่านั้น แต่ยังแฝงนัยยะสำคัญเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อให้คนในสังคมได้ฉุกคิดว่า สิ่งที่คุณกำลังทำ และสิ่งที่สาวพลัสไซส์ทุกคนต้องเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน มันใช่เรื่องสมควรแล้วหรือไม่...

 

 

     นอกจากเนื้อเพลงแสนดุดันและตรงไปตรงมา แฟชั่นการแต่งตัวในมิวสิกวิดีโอเพลงดังกล่าวก็นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่ทำให้ผู้เขียนไม่อาจจะกระพริบตาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว เพราะทุกลุคที่สไตลิสต์ และซิลวี่เลือกหยิบขึ้นมาสวมใส่ในมิวสิกวิดีโอนั้น ล้วนแล้วแต่ทำหน้าที่เป็นเหมือนภาพประกอบเนื้อเพลงที่เข้ากัน สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจอันเปี่ยมล้นในตัวของเธอเอง ที่ซิลวี่เองอยากจะส่งต่อให้กับผู้ชมทุกคนอย่างแท้จริง

1 / 6

2 / 6

3 / 6

4 / 6

5 / 6

6 / 6

     จะว่าเพลง XL คือส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวในประเด็นเรื่องรูปร่าง และความงามในยุคปัจจุบันก็คงไม่ผิดนัก แต่ที่สำคัญไม่แพ้กัน และผู้เขียนอยากจะชี้ให้ผู้อ่านทุกคนได้เห็นก็คือ ซิงเกิ้ลนี้ของซิลวี่นับเป็นปรากฏการณ์สำคัญอีกครั้งหนึ่งของทั้งวงการเพลงไทยในระดับสากล กับการสร้างสรรค์ผลงานที่มีค่ามากกว่ามิติด้านวรรณศิลป์ หากพาให้สังคมก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว เป็นการลุกขึ้นตั้งคำถามในรูปแบบของเธอ เพื่อบอกให้โลกรู้ว่าเธอนั้นต้องการอะไร ต้องการเป็นใคร และสังคมตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น ซึ่งนับเป็นความกล้าหาญที่หาได้ยาก ที่โว้กอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองเข้าไปฟังกันดูตอนนี้เลย...S M L but I LIKE IT XL!