ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าอุตสาหกรรมซีรี่ส์ Y ไทย คือหนึ่งภาคส่วนของอุตสาหกรรมบันเทิงไทยที่กำลังได้รับความนิยม และประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงหลายปีให้หลังมานี้ ทว่ากระแสความนิยมดังกล่าวก็ยังตามมาด้วยการตั้งคำถามมากมายไม่จบสิ้น กระทั่งล่าสุดเมื่อหนึ่งในนักแสดงที่เคยโลดแล่นอยู่ในพื้นที่ซีรี่ส์ Y อย่าง ‘มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์' ได้ออกมาทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวหลายข้อความติดต่อกัน ที่ชี้ให้เห็นประเด็นหนึ่งในช่องโหว่ทางการตลาดของซีรี่ส์ Y ไทยได้อย่างน่าสนใจ

     ย้อนกลับไปเมื่อช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่มิวได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องความรักของเขากับเหล่านักข่าว สร้างกระแสตีกลับที่แฟนคลับหลายคนเชื่อมโยงถึง กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ที่เคยเล่นเป็นคู่พระ-นายกันในซีรี่ส์เรื่อง TharnType The Series ว่า เขานั้นทำให้แฟนๆ เข้าใจมาตลอดว่ามิวกำลังคบหากับกลัฟอยู่ แต่มาวันนี้กลับปฏิเสธว่าไม่ใช่ ซึ่งต่อมามิวก็ได้ทวีตตอบกลับประเด็นดังกล่าวด้วยข้อความต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ทำให้คิดยังไงครับ บอกจนไม่รู้จะบอกยังไงแล้ว ไม่ได้คุยกับน้องมา 2 ปีได้แล้วมั้งครับ คิดเองเออเองก็มาโทษผมตลอด ขอโทษไว้ตรงนี้เลยครับที่เมื่อก่อน fan service แต่เราเป็นพี่น้องกันมาโดยตลอดครับ” , “pls try to search “what is queerbaiting?” และอีกมากมาย ก่อนจะปิดท้ายด้วยการยกเอากรณีตัวเองให้เป็นกรณีศึกษาของสังคมบันเทิงไทยว่า “เอาเรื่องผมเป็น case study เลย คิดว่าเราจะผลักดันวงการบันเทิงยังไง ให้ส่งเสริมคอมมู แจก 2 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท ปิดรับพรุ่งนี้เที่ยงครับ quote แล้วพิมพ์คำตอบไว้เลยครับ????”

     อย่างไรก็ตาม ประเด็นของกลุ่มแฟนคลับส่วนมากที่มุ่งตรงไปยังมิวคือเรื่องของวัฒนธรรม Fan Service เมื่อครั้งที่มิวและกลัฟยังต้องทำงานด้วยกันว่าเกินพอดี และเป็นต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้แฟนคลับหลายคนเอาไปจิ้นจนเกินจริง ซึ่งมิวก็ได้ออกมายอมรับตรงนี้ด้วยว่า “ทวิตสุดท้ายจริงๆครับ เมื่อก่อนไม่รู้และไม่เข้าใจปัญหาและผลกระทบเรื่อง fan service ถูกสอนให้เวลาตอบก็ตอบกำกวมไปก่อน จนวันที่เราเข้าใจแล้วหยุดไป2-3ปี ก็ยังมีผลอยู่ ยอมรับและขอโทษจากใจจริงครับ สำหรับสิ่งที่ทวิตใครคิดว่าอันไหนไม่เหมาะสมแล้วไม่สบายใจ ผมต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้”

     นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ที่วงการซีรี่ส์ Y ไทยถูกตั้งคำถามมาเป็นเวลานานว่า แฟนเซอร์วิสนอกจอเป็นเรื่องจำเป็นจริงหรือ และถือเป็นการต่อยอดผลงานที่ยุติธรรมต่อตัวนักแสดงเองและแฟนคลับหรือไม่ นั่นคือคำถามสำคัญ...

     หากพิจารณาจากข้อความทวีตของมิวก็จะพบว่า สถานการณ์ที่นักแสดงซีรี่ส์ Y ถูกบรีฟให้ตอบคำถามนักข่าวและสื่อด้วยคำตอบกำกวมเพื่อขายจิ้นนั้นเกิดขึ้นจริงในวงการนี้ ซึ่งนั่นเองที่อาจอนุมานได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้น “การขายจิ้นเกินจริง” ที่ส่งผลให้แฟนคลับสาววายต่างพากันคิดไปไกลกว่าความเป็นจริง อนึ่งก็อันเนื่องมาจากกลยุทธ์ทางการตลาดของซีรี่ส์ Y ส่วนใหญ่ในประเทศไทย ที่ต้องมีการต่อยอดนักแสดงในงานอีเวนต์ต่างๆ รวมไปถึงงานพรีเซนเตอร์ที่อาจจะต้องขายงานเป็นคู่ จึงจำเป็นต้องเสิร์ฟแฟนเซอร์วิส เพื่อดึงฐานแฟนคลับให้ยังคงอยู่ ไม่จบไปพร้อมกับซีรี่ส์ตอนสุดท้าย กระนั้นปัญหานี้ก็ถูกปล่อยเบลอมาแสนเนิ่นนาน ก็ยังส่งผลเสียให้กับตัวนักแสดงเอง อย่างเช่นการเปลี่ยนคู่ในซีรี่ส์เรื่องถัดไป หรือกระทั่งการกลับไปรับบทในละครน้ำเน่าชาย-หญิง ที่อาจส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา และไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ดังที่เราได้เห็นแล้วในหลายกรณี

     ดังนั้นแล้วการจะอุดช่องโหว่ของปัญหาเรื้อรังนี้ ก็เห็นจะหนีไม่พ้นตัวของนักแสดงเองที่ต้องยืนกรานที่จะเป็นนักแสดงแค่ในหน้าจอเท่านั้น และจำเป็นต้องปฏิเสธทุกกลยุทธ์ขายจิ้นเกินจริงจากการเสิร์ฟแฟนเซอร์วิสที่ต้นสังกัดหรือใครก็ตามพยายามยัดเยียดให้ นอกจากนี้ในฝั่งของแฟนคลับและผู้ชมเองก็จะต้องรู้จักขอบเขตของงานแสดงของนักแสดงที่ตนชื่นชม ไม่สร้างสถานการณ์หรือการจับจิ้นจนเกินจริง ควรติดตามและชื่นชมนักแสดงบนฐานของความเป็นจริง ด้วยความเข้าใจว่านั่นคือบทบาทของตัวละครในซีรี่ส์ที่มีเคมีทางการแสดงเข้ากันเท่านั้น และไม่ควรตัดสินความสัมพันธ์ของนักแสดงคู่นั้นๆ จนกว่าจะได้ฟังเรื่องราวจากปากของเจ้าตัว สุดท้ายในฝั่งของค่ายสังกัดนักแสดงก็ควรหยุดกลยุทธ์ขายจิ้นเพื่อล่อซื้อแฟนคลับเสียที หรือแม้แต่สื่อมวลชนเองที่่่จำเป็นต้องตระหนักถึงสิ่งนี้ให้มากเช่นกัน นั่นคือทั้งหมดที่เราต้องช่วยกันแก้ไขเดี๋ยวนี้