Salt Bae จากเชฟโรยเกลือไวรัลสู่คนที่ทำให้นักเตะหน้าเจื่อนและทั้งโลกร้องยี้ในศึกฟุตบอลโลก
สิทธิประโยชน์จากการมีสถานะเป็น VVIP ของเขาทำให้อีโก้และพฤติกรรมอันประดักประเดิดพรั่งพรูออกมาต่อหน้าสาธารณชน
“การเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่กับคนนอกที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่ง” นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการฉลองแชมป์ฟุตบอลโลกของทีมชาติอาร์เจนติน่าที่ถูกพูดถึงนานนับสัปดาห์ Nusret Gökçe หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Salt Bae” เจ้าของธุรกิจร้านอาหารและเซเลบริตี้เชฟกลายเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์เมื่อเขาเข้าไปยุ่มย่ามกับการฉลองชัยของผู้ชนะในการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการลูกหนัง เขากลายเป็นตัวตลกในสายตาของคนทั่วไป และสร้างความอึดอัดให้กับเหล่านักเตะ เพียงเพราะสถานะ “VVIP” ที่สามารถไปไหนมาไหนได้ในเทศกาลนี้อย่างอิสระ
ท่าทางการโรยเกลือของ Salt Bae ที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จัก / ภาพ: Eater
หากย้อนกลับไปหลายปีก่อนซอลเบต์โด่งดังขึ้นมาจากการเปิดร้านสเต๊กและสร้างสรรค์วิดีโอลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เขานำเสนอท่าทางการโรยเกลือสไตล์ “Instagrammable” แขกวีไอพีหลายคนไปที่ร้านเพื่อลิ้มลองรสชาติเนื้อที่ดูอลังการ มาพร้อมกับราคาแสนดุดัน และที่ขาดไม่ได้คือรอชมการโรยเกลือที่ไม่มีใครเหมือน นับว่าการโปรโมตร้านด้วยสไตล์อันโดดเด่นนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งทำให้ซอลเบต์มีคนทั่วรู้จักไปทั่วโลก และมีลูกค้ามากมายจากทั่วโลกหลั่งไหลกันไปหาเขาตามร้านสาขาต่างๆ หลายประเทศ จนตอนนี้ร้านของเขาติดลมบนไปเรียบร้อย
David Beckham อดีตนักฟุตบอลและเซเบริตี้ชื่อดังถ่ายภาพร่วมกับ Salt Bae ในร้านของเขา / ภาพ: The Mirror
นักแสดงและนักกีฬาชั้นนำทั่วโลกต่างไปร้านเนื้อของเขากันอย่างไม่ขาดสาย หนุ่มตุรกีคนนี้จึงกลายเป็นเซเลบริตี้ไปโดยปริยาย เพราะมีรูปคู่เคียงข้างซูเปอร์สตาร์ชั้นนำจากหลายวงการ ทว่านั่นก็ไม่ได้ทำให้ร้านของเขาหลีกหนีคำวิจารณ์จากผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารได้ นิตยสาร สื่อ รวมถึงนักวิจารณ์ ต่างมีข้อตำหนิร้านเขามากมาย โดยเฉพาะเรื่องราคาและคุณภาพอาหารที่ไม่สอดคล้องกันอย่างที่ควรจะเป็น และดูเหมือนว่าลูกค้าจะมาเพื่อซึมซับประสบการณ์การโรยเกลือเท่านั้น เพราะนอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรหวือหวากว่าร้านสเต๊กทั่วไป หรือบางครั้งคำวิจารณ์ถึงขั้นบอกว่านี่คือร้านอาหารที่ขูดรีดผู้บริโภคเลยด้วยซ้ำ
WATCH
Gianni Infantino ประธาน FIFA ร่วมถ่ายภาพกับ Salt Bae ในช่วงศึกฟุตบอลโลก / ภาพ: SPORTbible
แน่นอนว่าเริ่มมีชื่อเสียง กระทบไหล่คนดัง และได้รับความสนใจจากคนเป็นวงกว้างแบบนี้ย่อมทำให้เกิดอีโก้และความรู้สึกสำคัญ เขาได้รับความสนใจราวกับเป็นคนดังระดับโลกที่มีเพื่อนหรือคนรู้จักเป็นซูเปอร์สตาร์จากหลายวงการ ดูเหมือนว่าเขาจะสนิทสนมกับคนดังจำนวนมาก รวมถึง Gianni Infantino ประธาน FIFA คนปัจจุบันด้วย ซึ่งหลายคนมองว่าเขาได้รับสิทธิพิเศษในช่วงฟุตบอลโลกจากตรงนี้มากมายเลยทีเดียว จากตรงนี้ก็สามารถอนุมานได้ในระดับหนึ่งว่าเขาเริ่มคิดว่าตัวเองเป็นส่วนสำคัญและเป็นแขกระดับสูงที่สามารถทำอะไรที่ไหนก็ได้ ความหลงระเริงตรงนี้อาจทำให้เขาลืมความเหมาะสมในการกระทำสิ่งต่างๆ ไปอย่างน่าตกใจ
Son Heung Min แข้งดังชาวเกาหลีกับ Salt Bae ณ ร้านอาหารของเขากลางกรุงโดฮาร์ ประเทศกาตาร์ / ภาพ: allkpop
กลับมาที่ศึกฟุตบอลโลกซอลต์เบต้อนรับแขกคนสำคัญจากวงการกีฬามากมายในร้านอาหารของเขา พร้อมทั้งเสิร์ฟเมนูซิกเนเจอร์และแสดงท่าโรยเกลือเฉพาะตัว ตลอดช่วงศึกฟุตบอลโลกเราเห็นเขาปรากฏตัวด้วยการกระทบไหล่คนดังไม่เว้นวัน อีกทั้งยังดูเหมือนว่าเขาได้รับสิทธิ์ “VVIP” ในสนามด้วย ก็ต้องบอกว่านี่คือสิทธิ์ที่หลายคนอิจฉา แต่ดูเหมือนว่าคนไม่ได้อิจฉาเขาแต่กำลังจะตำหนิติเตียนที่เขาใช้สิทธิ์นั้นแบบไม่มีความเกรงอกเกรงใจ จนทำให้บรรยากาศมันดูประดักประเดิดไปเสียหมด
Lionel Messi ignoring Salt Bae at the World Cup celebration 😂👏
— Footy Humour (@FootyHumour) December 20, 2022
pic.twitter.com/KdEm90z37C
ช็อตเด็ดบันลือโลกคงต้องยกให้กับการไปดึงแขน Lionel Messi กัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่าและโดนเมินแบบถึงขีดสุด ซอลต์เบลากแขนเมสซี่ถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่ก็โดนปฏิเสธแบบไม่มีคำตอบรับ และเขาก็ได้รับวิจารณ์อย่างหนักที่ไปทำพฤติกรรมเช่นนั้นขณะเมสซี่กำลังฉลองชัยแม้ตัวเขาเองจะเป็นแขกระดับวีวีไอพีก็ตาม นอกจากนี้ยังมีฟุตเทจที่แสดงให้เห็นเขาไปก้าวก่ายจนทำให้นักเตะอึดอัดหลายครั้ง ทั้งการดึงถ้วยฟุตบอลโลกจาก Lisandro Martinez หรือการเข้าไปยุ่มย่ามตลอดทั้งการเฉลิมฉลอง และที่โดนวิจารณ์หนักที่สุดเห็นจะเป็นการที่เขานำถ้วยฟุตบอลโลกมาถือถ่ายภาพและจูบมันราวกับได้แชมป์ร่วมกับทีม ตรงจุดนี้เขาโดนตำหนิอย่างมากและถูกตั้งคำถามว่า “ซอลเบต์เป็นใครถึงมีสิทธิ์ทำแบบนี้” เพราะแม้จะเป็นแขกวีวีไอพีแต่ถ้วยรางวัลนี้มอบให้กับผู้ชนะ การที่เขานำมันมาสร้างคอนเทนต์ส่วนตัวอาจจะเป็นเรื่องไม่เหมาะสมและเกินขอบเขต
Salt Bae กับพฤติกรรมในช่วงอาร์เจนติน่าฉลองแชมป์ฟุตบอลโลกที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก / ภาพ: People
บทเรียนนี้ทำให้เราวิเคราะห์ออกมาได้อย่างชัดเจนว่าซอลต์เบสร้างตัวตนที่สามารถคลุกคลีกับทุกวงการแบบวีวีไอพี ทว่าการที่เขาตีสนิทกับคนดังมากมายอาจไม่ได้มาพร้อมความอ่อนน้อมถ่อมตนและรู้จักกาลเทศะ มันอยู่ที่จุดที่ตรงกับวลี “ไม่มีใครเตือนเขาได้” อีโก้ที่สั่งสมมาตลอดหลายปี การรู้จักกับคนดังและอาจอนุมานไปเองว่าสนิทชิดเชื้อ การได้รับสิทธิ์ล้นมือไม่ได้มาพร้อมความเกรงใจและรู้จักที่เหมาะที่สม ซอลต์เบตอนนี้ถูกแบนจากการแข่งขันกีฬา รวมถึงถูกวิจารณ์ และผู้คนรอบข้างก็ถูกสืบสวนว่าอนุญาตให้ “คนนอก” สามารถทำพฤติกรรมแบบนี้ได้อย่างไร เรื่องนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของช่วงขาลงที่เขาต้องเผชิญ ดาราคนดังอาจไม่ต้องการเสพความสนุกปล่อยสนิทกับเขาอีกแล้ว อย่างประธานฟีฟ่าเองก็ยกเลิกการติดตามเขาไปในโซเชียลมีเดีย เพราะซอลต์เบอาจใช้บันไดชื่อเสียงเหล่านั้นเพื่อสิทธิประโยชน์สูงสุดเหนือทุกกฎเกณฑ์แบบที่เขาทำในวันสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลก
WATCH