LIFESTYLE
'PHOEBE PHILO' การกลับมาของตัวแม่มินิมัลโลกแฟชั่น และปรากฏการณ์ตอกย้ำความเป็นตำนาน#VogueScoop การกลับหวนคืนสู่สนามแฟชั่นอีกครั้งของ Phoebe Philo คือหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญที่คนแฟชั่นต้องจับตามอง ทั้งปรากฏการณ์ Sold Out บนเว็บไซต์แบรนด์ Phoebe Philo Studio หลังจากวางขายไม่ถึง 24 ชั่วโมง เรื่อยไปจนถึงศึกการตลาดแฟชั่น 'It Bag' ที่จะกลับมาเข้มข้นในไม่ช้า หรือแม้แต่กระแส Old Celine ที่กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟีบี้ยังมีกลุ่มคนต้อนรับเธออยู่ในเวลานี้ |
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในเรื่องที่สร้างความตื่นเต้นให้กับโลกแฟชั่นมากที่สุดก็เห็นจะหนีไม่พ้น การหวนกลับมาสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นอีกครั้งอย่างเต็มตัวของ Phoebe Philo ดีไซเนอร์ระดับตำนานอีกหนึ่งคน ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของคนแฟชั่นหลายคนมาจนถึงตอนนี้ หลังจากหายหน้าจากวงการแฟชั่นไปยาวนานถึง 6 ปี ล่าสุดฟีบี้ยังได้กลับมาพร้อมแบรนด์แฟชั่นใหม่ในชื่อของตัวเองว่า Phoebe Philo Studio พร้อมทวงคืนฉายาดีไซเนอร์สายมินิมัลชั้นครูอีกครั้ง กับคอลเล็กชั่นปฐมฤกษ์ที่ใช้ชื่อว่า 'A1' ไม่อิงตามฤดูกาล โดยจะวางขายกินระยะเวลายาวนานถึงช่วงเดือนธันวาคม 2023 นี้ กระนั้นก็ไม่ต้องรอให้ถึงสิ้นปีแต่อย่างใด เพราะเพียงแค่ไม่ถึง 24 ชั่วโมงแรกที่คอลเล็กชั่นดังกล่าวถูกวางขายบนเว็บไซต์ www.phoebephilo.com แฟชั่นไอเท็มหลายชิ้นก็ขึ้น Sold Out ทันที ตอกย้ำกระแสนิยมในผลงานและตัวตนของฟีบี้ที่ไม่เคยลดลงเลยแม้แต้นิดเดียว
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ อาจกล่าวได้ว่ายุครุ่งเรืองที่สุดของฟีบี้นั้นอยู่ที่ Celine ซึ่งฟีบี้ใช้เวลายาวนานถึง 9 ปี หรือเกือบทศวรรษ ตั้งแต่ปี 2008-2017 ในการอุทิศตนและผลงานการออกแบบอันเลื่องชื่อมากมายให้กับแบรนด์ดังกล่าว ซึ่งโด่งดังเป็นพลุแตกในเวลานั้น เพิ่มยอดขายและสร้างรายได้ให้กับแบรนด์มากกว่า 3 เท่า พร้อมด้วยกระแสนิยมแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ช่วยทำให้แบรนด์แฟชั่นที่เข้าขั้นซบเซา กลับมาเป็นหมากคู่แข่งที่น่ากลัวบนกระดานแฟชั่นอีกครั้งในยุคนั้น ด้วยผลงานการออกแบบของฟีบี้ ที่ยึดเอาอัตลักษณ์งานออกแบบประเภทมินิมัล เรียบง่ายแต่หนักแน่นเป็นหลัก พร้อมคำนึงถึงฟังก์ชั่นในการใช้งานได้หลายโอกาสควบคู่ไปกับปรัชญาแฟชั่น จนกระทั่งได้รับสมญานามว่า “เจ้าแม่งานมินิมัล” ตัวจริง
และแม้ว่าสุดท้ายฟีบี้จะต้องแยกทางกับแบรนด์ Celine ในปี 2017 ทว่าความสำเร็จของเธอก็ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะการแยกทางกับแบรนด์ Celine ในครั้งนั้น ได้สร้างปรากฏการณ์ ‘Old Céline’ ที่ถูกบัญญัติขึ้นในโลกแฟชั่นอย่างเป็นทางการตั้งแต่นั้น กับกระแสการหวนนึกถึง Celine ยุคเก่า ในช่วงระยะเวลา 2008-2018 ซึ่งเป็นยุคที่ฟีบี้ได้สร้างสรรค์ผลงานให้กับ Celine ในฐานะของครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของแบรนด์ กระทั่งมีการสร้างบัญชีอินสตาแกรมที่คอยเลือกเอาผลงานการออกแบบของแบรนด์ Celine ในยุคนั้นขึ้นมาโพสต์อยู่เรื่อยๆ หรือแม้แต่ในกองเสื้อผ้ามือสองและร้านแฟชั่นวินเทจทั่วโลก ที่คนแฟชั่นต่างกระโจนเข้าไปเพื่อควานหาป้าย Celine ในยุคที่ฟีบี้เคยกุมบังเหียนทั้งสิ้น และด้วยกระแสของ Old Céline นี้เองที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการหล่อเลี้ยงให้กระแสนิยมในตัวของฟีบี้ยังคงถูกพูดถึงเสมอมา
อย่างไรก็ตาม ฟีบี้ไม่ได้เพิ่งเริ่มสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเองที่ Celine ทว่าก่อนหน้านั้นฟีบี้ยังเคยฝังตัวอยู่ที่แบรนด์ Chloé มาก่อน และแน่นอนว่าผลงานการออกแบบของเธอก็เป็นที่พูดถึงตั้งแต่ตอนนั้น รวมไปถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นดีไซเนอร์ผู้สร้าง ‘It Bag’ ในยุค 2000s นับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็น Paddington Bag (2005) หรือ Edith Bag (2006) ที่แบรนด์ Chloé รวมไปถึง Luggage Bag (2009), Classic Box Bag (2009), Trapeze Bag (2010), Phantom Bag (2011), Belt Bag (2014) และ Frame Bag (2017) ที่แบรนด์ Celine ที่ยังคงเป็นที่พูดถึง และขึ้นแท่นกระเป๋ารุ่นไอคอนิกตลอดกาลของแบรนด์ไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อฟีบี้ได้หวนคืนสู่วงการแฟชั่นอีกครั้งในปีนี้กับแบรนด์ใหม่ กลยุทธ์ในการเอาชนะตลาดแฟชั่นด้วย It Bag ก็อาจจะกลับมาเข้มข้นอีกครั้ง และอาจจะส่งผลให้เหล่าแบรนด์แฟชั่นชื่อดังต้องร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กัน
สิ่งหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือการหวนกลับมาสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นอีกครั้งในฐานะของดีไซเนอร์ของฟีบี้ คือการจุดประกายกระแสการแต่งตัวแบบมินิมัล และ Quiet Luxury ที่แท้จริง หลังจากที่ข่าวเรื่องการกลับมาของฟีบี้ถูกโหมกระพือ กอปรกับเทรนด์แฟชั่นบนรันเวย์ที่ถูกทอนรายละเอียดการออกแบบลง ยิ่งประจวบเหมาะให้เทรนด์การแต่งตัวแบบ 'เรียบแต่โก้' กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เพื่อกรุยทางให้ “ตัวแม่” ดีไซเนอร์อย่างฟีบี้หวนคืนสู่รังแฟชั่นอย่างสง่างาม
WATCH
ภาพ : จินาภา ฟองกษีร
WATCH